เมียร่ำไห้ชี้ปมการเมืองสั่งตาย ปูด"ไอ้ ก."เอี่ยว "อี้"แฉอีกขวางธุรกิจมืดดอนเมือง

ASTVผู้จัดการรายวัน-เมียหัวคะแนน"อี้" หอบลูกสาวแถลงน้ำตานองหน้า หวั่นคดีถูกบิดเบือน ฟันธงประเด็นการเมือง แนะให้ตัดเรื่อง"เสธ.บอย"ทิ้ง เพราะเคลียร์จบนานแล้ว กังขาเจอ"ไอ้เก่ง" นกรู้ นั่งสุมหัวตำรวจ สน.ดอนเมืองหลังเกิดเหตุ เตรียมร้อง "ยิ่งลักษณ์-เหลิม" ขอความเป็นธรรม ด้าน"อี้" แฉปมขวางธุรกิจมืดดอนเมือง ทำเสียประโยชน์นับสิบล้าน ปูดชื่อ ว. มือขวานักการเมือง ก. สั่งยิง โดยใช้มือปืนซุ้มสุโขทัย จี้รัฐบาลกวาดล้างดอนเมืองให้สะอาด เตรียมร้องปปง.-ป.ป.ช. สอบบัญชีนักการเมืองคนเก่ง

เมื่อเวลา11.00 น. วานนี้ (13 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนางณัฐทัย เครื่องสาย อายุ 21 ปี ภรรยานายชุติเดช สุวรรณเกิด ซึ่งมาพร้อมบุตรสาววัย 5 ขวบ ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องพนักงานสอบสวนคดีดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

นางณัฐทัยกล่าวทั้งน้ำตาว่า นายชุติเดช เป็นคนดี ทำงานช่วยพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ตั้งแต่นายแทนคุณ ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยช่วยหาเสียง และเป็นอาสาช่วยน้ำท่วมพรรคประชาธิปัตย์ เขตดอนเมือง ตนอยากขอฝากไปยังร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่าเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวการเมืองนั้น ไม่ใช่แน่นอน ขอยืนยันในฐานะภรรยาที่นอนด้วยกันทุกคืนว่า เป็นเรื่องการเมืองแน่นอน

*** แนะตำรวจตัดประเด็น"เสธ.บ.ทิ้ง

นางณัฐทัยกล่าวว่า สำหรับเรื่อง เสธ.บ. นั้น เคยมีปัญหากันจริง แต่ผ่านมา 3 ปีแล้ว และเคลียร์จบกันไปแล้ว จึงไม่ใช่ เสธ.บ.แน่นอน เพราะตอนที่นายชุติเดช จะลงสมัคร สข. ทางเสธ.บ. ยังโทรมาหา ถามว่าให้ช่วยหรือไม่ มีเงินใช้หรือไม่ เพราะรู้ว่านายชุติเดชไม่มีเงิน ต้องขายรถเอาเงินมาทำป้ายหาเสียง ประเด็นของ เสธ.บ. ขอให้ตัดทิ้งได้เลย

ส่วนเรื่องวิถีกระสุน ตนเป็นคนจับศพสามีคนแรก ร่างของสามีอยู่ในสภาพนอนหงาย มีเลือดกลบปาก เชื่อว่าถูกยิงจากด้านหน้าแน่นอน เป็นลักษณะการตามไปยิงซ้ำ และความแค้นส่วนตัวทางการเมือง ก็เป็นสาเหตุให้ยิงในลักษณะดังกล่าวได้

นางณัฐทัยยืนยันว่า นายชุติเดช ไม่ได้มีธุรกิจรถบรรทุกตามที่ตำรวจอ้าง มีเพียงแผงพระเป็นตู้เล็กๆ เท่านั้น และถ้าเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืด เราคงรวยกว่านี้ เพราะตอนนี้ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ ยังค้างอยู่เลย นายชุติเดช รู้จักคนเยอะมาก และกำความลับของดอนเมืองไว้เยอะ และมาบอกข้อมูลกับนายแทนคุณหมดเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายทุกเรื่อง เพราะนายชุติเดช เคยเป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งมาก่อน แต่หลังจากที่ช่วยงานนักการเมืองคนดังกล่าวแล้ว ชีวิตของนายชุติเดชก็ไม่ได้ดีขึ้น มีปัญหาทางการเมือง โทรไปนักการเมืองคนดังกล่าว ก็ไม่ยอมรับสาย ทั้งที่นายชุติเดช รักนักการเมืองคนดังกล่าวมาก และน่าสนใจตรงที่ เมื่อนายชุติเดช แยกตัวออกมาลงสมัคร สข.อิสระ ด้วยตัวเอง กลับมีคะแนน เพราะคนดอนเมืองรัก

ส่วนที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อ้างว่ารู้จักนายชุติเดชดี และไม่มีปัญหากันนั้น คงเป็นเช่นนั้น เมื่อ 6-7 ปีก่อน แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก

**ข้องใจ"ไอ้เก่ง"สุมหัวตำรวจหลังเกิดเหตุ

เมื่อถามว่า นักการเมืองคนดังกล่าวใช่นายการุณ หรือไม่ นางณัฐมัย กล่าวว่า เจ้าตัวรู้ดีแก่ใจ ตนไม่อยากพูด เพราะนายชุติเดช เคยติดต่อไป แต่ไม่ยอมรับสาย และบอกเลยว่า นายชุติเดช มีบทบาทสำคัญที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มีฐานเสียงที่แข็งขึ้นในดอนเมือง โดยเฉพาะมีบทบาทอย่างมากในการช่วยประชาชนที่ถูกน้ำท่วม และเป็นคนเอาเรือออกมาช่วยชาวดอนเมืองเป็นคนแรก

“ไม่อยากให้ตำรวจตั้งธงว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะกฎหมายบ้านเมืองต้องมีความยุติธรรม เมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกสาวยังฝันถึงพ่อ บอกว่าพ่อมาหา ดังนั้น คนไม่ดี แม้จะอยู่เหนือกฎหมายแค่ไหน ก็อย่าไปเกรง ต้องตรงไปตรงมา อย่าเบี่ยงเบน ดิฉันอยากขอความเป็นธรรม ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส ก็อยากไปร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ก็ภูมิใจถ้าการตายของสามีช่วยทำให้คนชั่วหายไปจากวงการชั่วในดอนเมือง ครอบครัวเรามีกันแค่ 3 คน เขามาทำต่อหน้าต่อตามันเกินไป ถ้าคุณมีลูกเมีย คุณให้เขาตายโหงขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะคุณเองก็มีลูก คุณน่าจะรู้"

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจ และไม่ไว้วางใจใครสักคน และการที่นายการุณ บอกว่า ดิฉันไปกอดขอร้องให้ช่วยนั้น วันเกิดเหตุดิฉันถูกเรียกไปให้ปากคำที่ สน.ดอนเมือง อย่างฉุกละหุก ยังไม่ทันส่งศพสามีถึงโรงพยาบาลตำรวจ ไปถึงก็พบนายการุณ นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหลังสน. กับตำรวจเยอะมาก และรู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่า นายการุณไปนั่งอยู่ และทราบเรื่องไวจัง ตอนนั้นยังกลัวด้วยว่า ตำรวจจะสอบปากคำต่อหน้านายการุณด้วยซ้ำ นายการุณ ก็เรียกแล้ว เปิดน้ำมาให้ลูกสาวขวดหนึ่ง บอกว่า โถ ลูก แต่เราไม่ดื่ม เพราะอีกราว 3 นาที ตำรวจก็เรียกขึ้นให้ปากคำที่สน.

พร้อมกันนี้ นางณัฐทัยได้ย้ำอีกว่า บุตรสาววัย 5 ขวบ ก็ร้องไห้ด้วยเช่นกัน

** แฉปมธุรกิจมืดดอนเมือง

นายแทนคุณกล่าวว่า เป็นห่วงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ชี้นำว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะจะกดดันการทำงานของตำรวจชั้นผู้น้อย ทำให้คดีบิดเบือนได้ เรื่อง เสธ.บ. ที่พูดถึงนั้น บอกได้เลยว่าคือ เสธ.บอย ซึ่งจบกันไปนานแล้ว เรื่องเช่าพระเครื่อง มีการเคลียร์และขอขมาลาโทษกันไปแล้ว และขอให้เสธ.บอย ออกพูดเพื่อพิสูจน์ความจริง เพราะหวั่นว่าจะมีการจับแพะ ซึ่งตนจะติดตามอย่างที่สุด เพราะมีข้อมูลเชิงลึกมากมายที่นายชุติเดช เล่าให้ฟังก่อนเสียชีวิต และอาจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต โดยการสังหารนายชุติเดช เป็นคนบอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล ธุรกิจผิดกฎหมาย บ่อนการพนันย่านดอนเมือง ซึ่งในช่วงหาเสียงราวเดือน เม.ย.-มี.ค. ตนได้ประสานข้อมูลให้ตำรวจเข้าจับกุมหลายแห่ง ทำให้มีฝ่ายเสียประโยชน์ จนมีคนมาบอกว่า ถ้าตนไม่ได้เป็นส.ส. นายชุติเดช ตายแน่

"การเสียชีวิตของนายชุติเดช จึงน่าจะเกี่ยวกับการเมือง และผลประโยชน์ธุรกิจผิดกฎหมาย เพราะหลังมีการจับกุม ก็มีการขึ้นบัญชีดำฝ่ายเราไว้ 5 คน"

**แฉชื่อย่อ ว.-ก. ขบวนการสังหาร

นายแทนคุณกล่าวว่า ตัวละครที่บงการสังหารนายชุติเดช ประกอบด้วย ว. ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลย่านดอนเมือง ในเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ก. ซึ่งเป็นนักการเมือง รวมถึง ม. ซึ่งเป็นผู้จัดหามือปืนจากซุ้ม จ.สุโขทัย มาลงมือ โดยตอนแรก ว. สั่งให้ลูกน้องอีกคนหามือปืน แต่นายชุติเดช ยังมีบุญคุณกับลูกน้องคนดังกล่าว เลยโอนงานไปให้ ม. เป็นคนหา

ทั้งนี้ ในอดีตนายชุติเดช เคยเป็นมือขวาของ นักการเมือง ก. โดยมี ว. เป็นมือซ้าย แต่พอนายชุติเดชแยกตัวไป ว. ก็กลายเป็นมือขวา ซึ่งการสังหารที่เกิดขึ้นทำงานกันเป็นทีมของตัวละครทั้งหมด และมีการนำรถมอเตอร์ไซค์ ไปล้มขวางทางระหว่างนำนายชุติเดช ไปโรงพยาบาลด้วย และเมื่อเกิดเรื่อง ว. ได้ออกนอกพื้นที่ดอนเมือง ไปอยู่กับผู้มีอิทธิพลเจ้าของบ่อนคนหนึ่ง แต่ยังอยู่ในกทม.

ส่วนธุรกิจผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับ ว. มีหลายอย่าง ทั้งบ่อนวิ่ง โต๊ะพนันฟุตบอล หวยเถื่อน โดยมีบ่อนวิ่ง อยู่ซอยช่างอากาศ ตรงข้ามปั๊มปตท. และอีกบ่อนอยู่ในอู่ซ่อมรถ ชั้นบนเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ภายในซอยสรงประภา เป็นที่รู้กันดีของบรรดานักเล่นว่า มีการพนันทุกรูปแบบ โดยมี ก.เชื่อมโยงแบบลอยตัว เพื่อป้องกันการตรวจสอบ จึงอยากให้ลองไปตรวจสอบทรัพย์สินของ ก. ว่า ลำพังเงินเดือนทางการเมือง จะพอให้มีบ้าน และรถราคาดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งถ้ามีเวลาและหลักฐานเพียงพอ ตนจะร้องไปยัง ปปง. และ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบด้วย

โดยเส้นทางผลประโยชน์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ช่องทางหาเงิน ได้แก่บ่อนและธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหลาย 2.กระบวนการส่งเงินไปฟอก และ 3.บรรดานักเลงและอิทธิพลที่ใช้คุมธุรกิจ ไปจนถึงข้าราชการ และนักการเมือง โดยมีการส่งผลประโยชน์ให้คนมีสีเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งตรงกับที่นักการเมืองคนหนึ่งเคยไปพูดในที่สาธารณะด้วยซ้ำว่า จ่ายเดือนละ 1-2 ล้านบาท ดังนั้น ถ้ารัฐบาลจะเข้าไปเอาจริงเอาจัง จับกุมเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายในดอนเมือง ดอนเมืองจะได้สะอาดเสียที

นายแทนคุณ กล่าวว่า ในช่วงหาเสียงที่ผ่านมา ที่มีการจับกุมธุรกิจผิดกฎหมายทำให้มีฝ่ายเสียประโยชน์นับ 10 ล้านบาท ซึ่งจูงใจให้เกิดการสังหารได้ และในตอนนั้น นายการุณก็โจมตีตนที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า อย่าดูถูกคนดอนเมือง

"ข้อมูลธุรกิจ และอิทธิพลผิดกฎหมายในดอนเมืองทั้งหมด ผมได้เล่าให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลภาค 2 ฟังแล้ว ซึ่งก็ยอมรับว่ามี แต่ติดปัญหาเรื่องหลักฐานการเอาผิด และห่วงเรื่องการชันสูตร หากตำรวจสรุปว่า ยิงจากด้านหลัง ก็คงมีการประสานให้ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นผู้ตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ซึ่งพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ รับปากที่จะช่วยดูให้แล้ว ซึ่งจะดำเนินการก่อนวันเผาศพ ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ และปมขัดแย้งธุรกิจรถบรรทุกไม่มีแน่นอน เพราะรถคันดังกล่าว ที่มีภาพมาอ้างนั้น เป็นรถอาสาของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ของนายชุติเดช จึงถือเป็นการบิดเบือน" นายแทนคุณ กล่าวและว่า มีคนดอนเมืองที่รักนายชุติเดชมาก และกำลังเคลื่อนไหว เพื่อเอาคืนโดยการตามหา ม. เพราะนายชุติเดช บอกไว้ว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรไป ก็เพราะ ว. จึงไม่อยากให้เกิดศึกล้างเลือดขึ้น

***ตำรวจยังให้น้ำหนักขัดแย้งส่วนตัว

เมื่อเมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.ดอนเมือง นายแทนคุณ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.2 และ พ.ต.ท.วุฒิชัย สุคนธวิท รองผกก.สส.สน.ดอนเมือง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีคนร้ายบุกยิง นายชุติเดช สุวรรณเกิด อายุ 38 ปี หัวคะแนนของตัวเองเสียชีวิตที่ลานจอดรถตลาดโกสุมรวมใจ เขตดอนเมือง เมื่อเย็นวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.สุรเดชกล่าวว่า จะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายแทนคุณเพิ่มเติมไว้ และสืบหา พร้อมตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่นายแทนคุณนำมามอบให้ หากข้อมูลไหนมีประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะใช้ในการติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่ สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวภายหลังการสอบปากคำ นายแทนคุณ ว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบคำให้การของนายแทนคุณ ถ้าหากพบว่าอะไรที่เป็นประโยชน์จะรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน เพื่อเป็นเบาะแสข้อมูลในการติดตามจับกุมคนร้าย ส่วนสาเหตุปมสังหารนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังคงให้น้ำหนักมุ่งประเด็นไปที่เรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัวมากที่สุด โดยจะตรวจสอบว่ามีใครที่อยู่เบื้องหลังและเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวบ้าง ส่วนประเด็นการเมืองนั้นคาดว่าไม่น่าใช่

สำหรับผลการชันสูตรศพของผู้ตายนั้น จะต้องรอทางนิติเวชส่งรายงานมาก่อน เพื่อดูผลการชันสูตรว่ากระสุนเข้าทางไหน ออกทางไหน และตรวจสอบหัวกระสุน โดยจะดูเปรียบเทียบย้อนหลังว่าคล้ายกับคดีใดบ้าง ซึ่งต้องรอรายงานจากทางกองพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการก่อนถึงจะสรุปได้ และคาดว่าในวันนี้น่าจะได้รับผลรายงาน

พ.ต.อ.เจริญกล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบดูว่าพบเบาะแสอะไรของคนร้ายบ้าง แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ส่วนเรื่องบ่อนพนันที่นายแทนคุณกล่าวอ้างนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็รับฟัง โดยจะรอตรวจสอบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันที่ใดบ้าง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นไม่พบ เพราะทางเจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดกวดขันจับกุมอยู่ตลอดเวลาตามปกติอยู่แล้ว ส่วนเสธ. บ. นั้น กำลังอยู่ระหว่างเรียกตัวมาทำการสอบปากคำ

** จวก"เหลิม"อย่าดีแต่บ้าน้ำลาย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าที่ปัญหาส่วนตัว ในคดีการเสียชีวิตของคนสนิทนายแทนคุณ ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตำรวจต้องทำงานอย่างจริงจัง รวบรวมพยานหลักฐาน จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะคดีนี้เกิดในกทม. เป็นคดีที่ประชาชนมีรู้สึกว่า เกี่ยวข้องกับการเมือง ดังนั้น จะไปบิดเบือนข้อเท็จจริง ละเลย ไม่ดำเนินการคงไม่ได้ เพราะผู้ร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ ในเวลาที่ยังไม่มืด อยู่ในตลาด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างเข้มแข็ง ซึ่งพวกตนจะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยจะคอยสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ดำเนินคดีไปถึงไหน อย่างไร จะปล่อยให้เป็นคดีอิทธิพล สะเทือนขวัญประชาชนต่อไปไม่ได้

ส่วนที่นายแทนคุณ เกรงว่าจะมีการจับแพะนั้น ก็ต้องติดตามดู ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า บทบาทของผบ.ตร. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาประสานเสียง เหมือนกัน ดูเหมือนจะเป็นการชี้นำการทำงานของพนักงานสอบสวน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่วิจารณ์ ท่าน ผบ.ตร. แต่กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ออกมาพูดทุกวัน คนก็รำคาญทุกวัน แสดงว่ารู้ไปหมด อย่างนั้น อย่างนี้ ใครทำผิดที่ไหน อย่างไร ผิดก็จับ จะโม้ทำไม ไปดำเนินการจับกุมให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ พูดอยู่นั่น พ่นอยู่ทุกวัน คนก็รำคาญทั้งบ้านทั้งเมือง

เมื่อถามว่า หากมีคนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และอาจจะมีคนของรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องจะทำให้คดีนี้ถูกบิดเบือนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งทื่พยายามต่อสู้ เรื่องนี้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่พวกตนจะพยายามให้กฎหมายเป็นหลักของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนของรัฐบาลหรือไม่ ถ้าทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งต่างจากแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะตนรู้ดีว่า พื้นที่ดอนเมือง คือ พื้นที่อิทธิพล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการ ถ้าไม่ดำเนินการ เราก็จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ และถ้ารัฐบาลสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ละเลย เราก็จะต้องดำเนินการกับรัฐบาลด้วย