เมื่อเวลา14.10 น. วานนี้ (13 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงคดี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ร่ำรวยผิดปกปติ ว่า พ.ต.ท.โสภณ ยานะธรรม รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ปฏิบัติราชการแทนผู้กำกับ สน.วังทองหลาง ได้ส่งหนังสือชี้แจงรายละเอียดของคดีมาให้แล้ว (13 ธ.ค.) โดยระบุคำว่า ทรัพย์สินที่เป็นของกลางจากผู้ต้องหา มีจำนวน 18 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า มีจำนวนเงินอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่พบอีกกว่า 55 ล้านบาท ขณะที่นายสุพจน์ เองได้ยืนยันว่า ทรัพย์สินที่สูญหายมีประมาณ 5 ล้านบาทเศษ โดยอ้างว่าเป็นเงินที่ได้จากค่าสินสอดในงานแต่งงานของบุตรสาว
นายธงทอง กล่าวว่า คณะกรรมการได้หารือกัน และเห็นว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก็จะเชิญนายสุพจน์ เข้าชี้แจงในช่วงบ่าย ของวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากตรวจสอบพบเพิ่มเติมว่า มีใคร หรือหน่วยงานใดเกี่ยวข้องบ้าง ก็จะทำหนังสือเพื่อเชิญเข้าชี้แจง คาดว่าจะส่งหนังสือเชิญนายสุพจน์ได้ ในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ นายธงทอง ยืนยันว่า คณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานดำเนินการตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 91 ซึ่งหากดำเนินการตรวจสอบจนได้ข้อสรุป ขั้นตอนต่อไป คือ รายงานต่อรัฐมนตรีที่แต่งตั้ง ซึ่งหากมีมูลความผิด ก็จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเอาผิดทางวินัย ตามพ.ร.บ.ข้าราชการฯ มาตรา 93 ต่อไป อีกทั้งการทำงานของคณะกรรมการชุดของตน สามารถดำเนินการควบคู่กับการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความไว้ และยืนยันไม่มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายธงทอง ระบุด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการสอบสวน แต่จะไม่ดำเนินการช้า และจะไม่รวบรัด
** กมธ.เชิญปปง.-ป.ป.ช.ให้ข้อมูล27ธ.ค.
ด้านนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้เชิญ ผบก.น.4 ผกก.สน.วังทองหลาง เข้าชี้แจงถึงความคืบหน้า ในการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งทางตำรวจชี้แจงว่า นายสุพจน์ ยังยืนยันว่าจำนวนเงินที่ถูกปล้นมีเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะสืบสวนสอบสวนต่อไปอีก
ส่วนเส้นทางการเงิน เป็นเรื่องที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้ในวันที่ 27 ธ.ค. ทางกมธ. จะเชิญ ป.ป.ช.เข้าชี้แจง จากนั้นจะเชิญป.ป.ง.ให้ข้อมูลต่อไป
** งบทางหลวงเลข 9 สูงเกินจริง 600 ล.
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมาธิการได้พิจารณาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (บางปะอิน-บางพลี) มูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งพบว่ามีการตั้งราคาสูงกว่าราคากลางถึง 600 ล้านบาท และคณะกรรมาธิการได้ส่งผลสอบให้ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว ซึ่งจะได้สอบถามถึงความคืบหน้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่
"โดยส่วนตัวรู้สึกเห็นด้วยกับข้อสังเกตของน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล ที่มองว่าอาจมีการยัดเงินของกลางภายหลัง เพราะผิดสังเกตว่า คนร้ายทำไมถึงให้การปรักปรำตัวเอง โดยเพิ่มยอดเงินสูงขึ้น ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ถ้าจะมีคนเลื่อยขาเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคม เงินเพียง 20-50 ล้าน ก็ถือว่าคุ้มและถูกมาก" นายเกชา กล่าว
** "เหลิม"ชี้ช่องค้นบ้านอดีต รมต.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายปล้นบ้านนายสุพจน์ ว่า เรื่องสำนวนตนไปสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ แต่ตนพูดตั้งแต่ต้นว่า หากไปค้นบ้าน 3 อดีต รมว.คมนาคม จะเจอเงินเยอะ แต่ก็เกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่าบ้าอำนาจทางการเมือง ถ้าไปค้นวันนี้ มันหมดแล้ว หายหมดแล้ว
นายธงทอง กล่าวว่า คณะกรรมการได้หารือกัน และเห็นว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก็จะเชิญนายสุพจน์ เข้าชี้แจงในช่วงบ่าย ของวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากตรวจสอบพบเพิ่มเติมว่า มีใคร หรือหน่วยงานใดเกี่ยวข้องบ้าง ก็จะทำหนังสือเพื่อเชิญเข้าชี้แจง คาดว่าจะส่งหนังสือเชิญนายสุพจน์ได้ ในวันพฤหัสบดีนี้
ทั้งนี้ นายธงทอง ยืนยันว่า คณะกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานดำเนินการตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 91 ซึ่งหากดำเนินการตรวจสอบจนได้ข้อสรุป ขั้นตอนต่อไป คือ รายงานต่อรัฐมนตรีที่แต่งตั้ง ซึ่งหากมีมูลความผิด ก็จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเอาผิดทางวินัย ตามพ.ร.บ.ข้าราชการฯ มาตรา 93 ต่อไป อีกทั้งการทำงานของคณะกรรมการชุดของตน สามารถดำเนินการควบคู่กับการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความไว้ และยืนยันไม่มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายธงทอง ระบุด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการสอบสวน แต่จะไม่ดำเนินการช้า และจะไม่รวบรัด
** กมธ.เชิญปปง.-ป.ป.ช.ให้ข้อมูล27ธ.ค.
ด้านนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้เชิญ ผบก.น.4 ผกก.สน.วังทองหลาง เข้าชี้แจงถึงความคืบหน้า ในการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายบุกปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งทางตำรวจชี้แจงว่า นายสุพจน์ ยังยืนยันว่าจำนวนเงินที่ถูกปล้นมีเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะสืบสวนสอบสวนต่อไปอีก
ส่วนเส้นทางการเงิน เป็นเรื่องที่ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้ในวันที่ 27 ธ.ค. ทางกมธ. จะเชิญ ป.ป.ช.เข้าชี้แจง จากนั้นจะเชิญป.ป.ง.ให้ข้อมูลต่อไป
** งบทางหลวงเลข 9 สูงเกินจริง 600 ล.
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมาธิการได้พิจารณาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (บางปะอิน-บางพลี) มูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งพบว่ามีการตั้งราคาสูงกว่าราคากลางถึง 600 ล้านบาท และคณะกรรมาธิการได้ส่งผลสอบให้ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว ซึ่งจะได้สอบถามถึงความคืบหน้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่
"โดยส่วนตัวรู้สึกเห็นด้วยกับข้อสังเกตของน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล ที่มองว่าอาจมีการยัดเงินของกลางภายหลัง เพราะผิดสังเกตว่า คนร้ายทำไมถึงให้การปรักปรำตัวเอง โดยเพิ่มยอดเงินสูงขึ้น ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ถ้าจะมีคนเลื่อยขาเก้าอี้ปลัดกระทรวงคมนาคม เงินเพียง 20-50 ล้าน ก็ถือว่าคุ้มและถูกมาก" นายเกชา กล่าว
** "เหลิม"ชี้ช่องค้นบ้านอดีต รมต.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายปล้นบ้านนายสุพจน์ ว่า เรื่องสำนวนตนไปสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ แต่ตนพูดตั้งแต่ต้นว่า หากไปค้นบ้าน 3 อดีต รมว.คมนาคม จะเจอเงินเยอะ แต่ก็เกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่าบ้าอำนาจทางการเมือง ถ้าไปค้นวันนี้ มันหมดแล้ว หายหมดแล้ว