ASTVผู้จัดการออนไลน์ – สงครามผ่านไปตั้ง 36 ปีแล้วแต่ทหารเวียดนามอีกหลายแสนยังไม่ได้กลับบ้านและส่วนใหญ่ได้กลายเป็นทหารนิรนามในสุสานวีรชนแห่งต่างๆ ทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันสมาชิกครอบครัวที่รอคอยและหมดความอดทนได้หันไปพึ่งไสยศาสตร์ เผื่อจะมีโอกาสได้พบศพและบำเพ็ญกุศล เพื่อให้ดวงวิญญาณหยุดเร่ร่อนระหกระเหิน
สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้บริการเข้าทรงเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดีในหลายท้องถิ่น หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋กล่าว
ถึงแม้ว่าการใช้ร่างทรงตามหาศพทหารที่เสียชีวิต จะทำกันมานานนับตั้งแต่สงครามยุติลงในปี 2518 พิธีกรรมนี้เพิ่งกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่งก็ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ และกำลังดำเนินไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากนับแสนๆ ครอบครัวตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง
หลายครอบครัวได้ไปเห็นและจดจำเอาพิธีกรรมกลับไปจัดกันเองตามวัด หรือแรกทั่งภายในบ้าน โดยหวังว่าสักวันหนึ่งดวงวิญญาณของญาติที่จากไปจะเข้าสิงและนำไปยังที่ฝังร่างของพวกเขา
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กวนโดยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ “กองทัพประชาชน” เมื่อต้นเดือนนี้ ราษฎรหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ก่ามาว (Ca Mau) ได้พบอัฐิของทหารเวียดนามเหนือโดยบังเอิญ ขณะขุดดินจะฝังเสาปลูกสร้างบ้าน
กระดูกของทหารทั้งสามคนห่ออยู่ในผ้าขาวผืนเดียวกัน เชื่อกันว่าสหายร่วมรบจะช่วยกันฝังเอาไว้ที่นั่น หลังพลีชีพในปี 2518 ระหว่างการรุกรบครั้งใหญ่เพื่อปลดปล่อยจังหวัดตอนใต้สุดของประเทศและโอบล้อมกรุงไซ่ง่อน
แต่โอกาสที่จะพบทหารที่เสียชีวิตอย่างบังเอิญเช่นนี้มีไม่บ่อยครั้ง และญาติมิตรส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถจะรออีก 30 ปีได้
มีทหารเวียดนามเหนือเสียชีวิตราว 1 ล้านคนในสงคราม 20 ปี แต่ต่างไปจากทหารอเมริกันคู่สงครามที่สูญหายซึ่งได้กลับบ้านกันปีแล้วปีเล่าคนแล้วคนเล่า ทหารเวียดนามผู้พลีชีพเพื่อพิทักษ์มาตุภูมิกลับไร้ร่องรอยและสาบสูญ
ใน จ.กว๋างจิ (Quang Tri) ทางภาคกลางตอนบนซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดหนักหน่วงที่สุดในปางสงคราม ที่นั่นมีสุสานขนาดใหญ่ฝังร่างวีรชนเอาไว้กว่าหมื่นศพ ในนั้นหลายพันศพไม่มีป้ายระบุชื่อ นั่นคือทหารนิรนามนั่นเอง
คนตายที่นี่ได้เปิดช่องทางให้คนเป็นกลุ่มหนึ่งทำมาหากิน
ร่างทรงช่วยได้ by Tuoi Tre
2
3
ใครที่ผ่านไป จ.กว๋างจิ ในช่วงนี้อาจจะเห็นรถบัสโดยสารขนาดเล็ก หรือรถตู้โดยสารแล่นไปมาทุกๆ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง พร้อมแผ่นผ้าติดด้านหน้ารถซึ่งมีข้อความว่า “บรรทุกอัฐิวีรชน”
รถยนต์เหล่านี้แล่นออกไปจากสุสานใหญ่ริมทางหลวงเลข 9 ที่ทอดยาวเข้าไปในดินแดนลาว แต่บางคันก็กำลังแล่นไปยังสุสานตามคำแนะนำของเจ้าเข้าทรง ซึ่งนำญาติๆ ไประบุหลุมศพที่ไม่มีป้ายชื่อสักแห่งหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นที่ฝังร่างของสมาชิกครอบครัวผู้จากไปนานแสนนาน
ในบางกรณีร่างทรงสามารถระบุชื่อ อายุ วันเดือนปีเกิด กระทั่งวันที่สมัครเข้ารับชาติของผู้ตายได้อย่างถูกต้อง แม้จะไม่เคยมีผู้ใดในครอบครัวเปิดเผยให้รู้มาก่อนก็ตาม และ เมื่อเรื่องเช่นนี้สะพัดออกไป ก็ยิ่งเกิดมหาศรัทธาติดตามมาจากวงกว้าง
หลายครอบครัวที่ทำพิธีกรรมเองก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน สมาชิกครอบครัวผู้ทำหน้าที่ร่างทรงอาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าดวงวิญญาณของผู้จากไปจะเข้าสิงและนำทางไปยังสุสานสักแห่งหนึ่งเพื่อชี้หลุมศพที่ฝังร่าง
เมื่อชั่งน้ำหนักการค้นพบจนตกลงใจกันได้แล้ว ครอบครัวเหล่านี้ก็จะแจ้งความประสงค์ต่อสำนักงานทหารผ่านศึกในท้องถิ่นขอขุดเอาอัฐิในหลุมที่ร่างทรงระบุ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล
ในที่สุดผู้เสียชีวิตก็ได้กลับบ้านเสียที หลังสงครามผ่านไปเกือบ 40 ปี หลายคนได้กลับก่อนวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ชาวเวียดนามทั้งประเทศจัดพิธีรำลึกถึงทหารกล้าผู้สละชีพเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน
รำลึกวีรชนแห่งชาติ by Vietnam News
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20