**แม้จะเป็นวันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ แต่จันทร์ที่ 12 ธันวาคมนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมครม.นัดพิเศษ เพื่อหารือ เร่งรัดติดตามการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงการหารือเรื่องกรอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการฟื้นฟูเยียวยา
เป็นการหารือกันอย่างเป็นทางการ เพื่อเขย่าแรงๆ ว่าน้ำลดแล้วรัฐบาลจะเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และภาคธุรกิจอย่างไร จากนั้นจึงนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมครม.วันอังคารที่ 13 ธันวาคมนี้
เพราะเรื่อง “งบฟื้นฟูน้ำท่วม” ที่กรอบเบื้องต้นตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และงบเหลือจ่ายปี 54 ที่ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งแยกย่อยออกเป็นงบส่วนต่างๆ ของแต่ละกระทรวง
หากคุมกันไม่ดี ปล่อยให้รั่วไหล ก็เปิดช่องให้มีการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์กันได้ ขืนทำกันชุ่ยๆ ถูกจับได้ รัฐบาลตายหยังเขียดแน่นอน
เรื่องนี้ “ยิ่งลักษณ์” คงกังวลหนัก เพราะเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่รัฐมนตรีหลายกระทรวงก็จ้องอยู่ แถมนักการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น ก็จ้องกันตาเป็นมัน
**จะหาเศษหาเลยจากเค้กส่วนนี้
ยิ่งเป็นงบใช้แบบเร่งด่วน ตรวจสอบได้ยาก ก็ยิ่งเปิดช่องมากขึ้น จึงอาจเกิดการขัดขากันเองของคนในรัฐบาลได้
อย่างตอนนี้ คนในพรรคเพื่อไทย กำลังจับตาดู “เกาเหลาคู่ใหม่” ที่หากไม่ติดตามเจาะลึกให้ดีจะไม่รู้ว่า เกิดความขัดแย้งกันขึ้น
**ระหว่าง “เป็ดเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง กับ “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.คมนาคม
เดิมทีเดียว มีคนพูดกันว่าสองคนนี้ สัมพันธ์ไม่ราบรื่นกันเท่าที่ควร คือไม่ถึงกับขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้ดีต่อกันอะไรเป็นพิเศษ โดยหาสาเหตุกันไม่ได้
สิ่งที่พูดมาเริ่มเห็นเป็นจริงจากวงประชุม ครม.เมื่อ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ “เหลิม” เล่นบทจระเข้ขวางคลอง ไปขวางลำ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.คมนาคม ที่เป็นประธานคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการที่ขึ้นกับคณะกรรมการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ที่มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
วันดังกล่าว ยงยุทธ นำงบฟื้นฟูที่กฟย. ตั้งไว้ ชงเข้าครม. เมื่อถึงวาระการประชุม ก็เป็นหน้าที่ของ “บิ๊กโอ๋” ต้องแจงงบ 12,983.629 ล้านบาท ที่ตั้งขึ้นมาจาก กคฐ. เช่น งบฟื้นฟู-ซ่อมสร้างหลายโครงการ เช่น ด้านคนาคมขนส่ง-สถานที่ราชการ และระบบสาธารณูปโภค-แหล่งน้ำ และระบบชลประทาน
หลักการนั้นไม่มีใครคัดค้าน แต่ติดที่จุดอ่อนของ พล.อ.อ.สุกำพล แจงที่มาที่ไปของโครงการโดยไม่มีรายละเอียดแน่นพอ ว่าเอาเงินไปใช้ทำอะไร ทำแบบไหน
**“เหลิม”ได้จังหวะ เลยเบรกเสียหัวแทบทิ่ม
บอกกลางที่ประชุมครม.ว่า เสนองบมาแบบนี้เป็นการกดดันครม.ให้เห็นชอบ ระวังจะมีคนรอรับเงินทอนอยู่ ไม่จำเป็นต้องรีบ ขอให้นำเรื่องไปคุยในที่ประชุมครม.นัดพิเศษ โดยให้มีผวจ. ที่น้ำท่วมมาหารือด้วยจะดีกว่า
แม้ “บิ๊กโอ๋” จะพยายามแจงว่า โครงการต่างๆ ผ่านการสกีนมาแล้วในกรรมการกคฐ. ไม่มีการใช้งบซ้ำซ้อน แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะกองเชียร์บิ๊กโอ๋ ในห้องประชุมครม. ไม่ค่อยมี
สุดท้าย “ยิ่งลักษณ์” เลยต้องแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้ใครเสียหน้ามาก เลยให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับสำนักงบประมาณไปช่วยสกีนให้อีกรอบ ก่อนจะนำกลับมาเข้า ครม.อีกครั้ง ซึ่งก็คือวันอังคารนี้
วันนั้น แม้ต้นเรื่องจะเป็น “ยงยุทธ” แต่เมื่อเม็ดเงินถูกตั้งโดย พล.อ.อ.สุกำพล ถึง “บิ๊กโอ๋” จะไม่ถึงกับเสียหน้า แต่ก็เสียเส้นแน่นอน ที่ถูกเหลิม หักกลางครม.
แถม “เหลิม” ยังเอาหน้า เที่ยวเอาเรื่องนี้ไปโม้ให้เครดิตตัวเองว่า รักษาผลประโยชน์ให้ประเทศระหว่างการไปชี้แจงกับกรรมาธิการวุฒิสภา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน คนก็ต้องมองแล้วว่า พล.อ.อ.สุกำพล จะรู้สึกอย่างไร
ยิ่งต้องไม่ลืมว่า สอง รมช.คมนาคม ที่เคยเปิดศึกเกาเหลากับ พล.อ.อ.สุกำพล คือพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ล้วนสนิทแนบแน่นกับเฉลิม คบหากันเป็นพวกมานาน
ยิ่งเมื่อ “เหลิม” ออกมาเปิดประเด็น คดีปล้นบ้านสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัด คมนาคม เป็นเรื่องความขัดแย้งการทุจริตการประมูลโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย ของรฟม. แต่ พล.อ.อ.สุกำพล กลับไม่รับลูก ไม่สนใจ ประกาศไม่มีการทบทวนรื้อโครงการ เพราะประมูลไปหมดแล้ว เท่ากับไม่ให้ราคาข้อมูลของ “เหลิม”
**การที่ “บิ๊กโอ๋” โดนเจาะยางบ่อยครั้งช่วงนี้ จากหลายกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ที่เหมือนนัดแนะกันมา มันน่าจะมีเหตุที่มาที่ไป ไม่ธรรมดา
แสงตะวัน
เป็นการหารือกันอย่างเป็นทางการ เพื่อเขย่าแรงๆ ว่าน้ำลดแล้วรัฐบาลจะเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และภาคธุรกิจอย่างไร จากนั้นจึงนำข้อสรุปเข้าที่ประชุมครม.วันอังคารที่ 13 ธันวาคมนี้
เพราะเรื่อง “งบฟื้นฟูน้ำท่วม” ที่กรอบเบื้องต้นตามวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และงบเหลือจ่ายปี 54 ที่ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งแยกย่อยออกเป็นงบส่วนต่างๆ ของแต่ละกระทรวง
หากคุมกันไม่ดี ปล่อยให้รั่วไหล ก็เปิดช่องให้มีการทุจริตแสวงหาผลประโยชน์กันได้ ขืนทำกันชุ่ยๆ ถูกจับได้ รัฐบาลตายหยังเขียดแน่นอน
เรื่องนี้ “ยิ่งลักษณ์” คงกังวลหนัก เพราะเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่รัฐมนตรีหลายกระทรวงก็จ้องอยู่ แถมนักการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น ก็จ้องกันตาเป็นมัน
**จะหาเศษหาเลยจากเค้กส่วนนี้
ยิ่งเป็นงบใช้แบบเร่งด่วน ตรวจสอบได้ยาก ก็ยิ่งเปิดช่องมากขึ้น จึงอาจเกิดการขัดขากันเองของคนในรัฐบาลได้
อย่างตอนนี้ คนในพรรคเพื่อไทย กำลังจับตาดู “เกาเหลาคู่ใหม่” ที่หากไม่ติดตามเจาะลึกให้ดีจะไม่รู้ว่า เกิดความขัดแย้งกันขึ้น
**ระหว่าง “เป็ดเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง กับ “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.คมนาคม
เดิมทีเดียว มีคนพูดกันว่าสองคนนี้ สัมพันธ์ไม่ราบรื่นกันเท่าที่ควร คือไม่ถึงกับขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้ดีต่อกันอะไรเป็นพิเศษ โดยหาสาเหตุกันไม่ได้
สิ่งที่พูดมาเริ่มเห็นเป็นจริงจากวงประชุม ครม.เมื่อ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ “เหลิม” เล่นบทจระเข้ขวางคลอง ไปขวางลำ พล.อ.อ.สุกำพล รมว.คมนาคม ที่เป็นประธานคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (กคฐ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการที่ขึ้นกับคณะกรรมการช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กฟย.) ที่มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
วันดังกล่าว ยงยุทธ นำงบฟื้นฟูที่กฟย. ตั้งไว้ ชงเข้าครม. เมื่อถึงวาระการประชุม ก็เป็นหน้าที่ของ “บิ๊กโอ๋” ต้องแจงงบ 12,983.629 ล้านบาท ที่ตั้งขึ้นมาจาก กคฐ. เช่น งบฟื้นฟู-ซ่อมสร้างหลายโครงการ เช่น ด้านคนาคมขนส่ง-สถานที่ราชการ และระบบสาธารณูปโภค-แหล่งน้ำ และระบบชลประทาน
หลักการนั้นไม่มีใครคัดค้าน แต่ติดที่จุดอ่อนของ พล.อ.อ.สุกำพล แจงที่มาที่ไปของโครงการโดยไม่มีรายละเอียดแน่นพอ ว่าเอาเงินไปใช้ทำอะไร ทำแบบไหน
**“เหลิม”ได้จังหวะ เลยเบรกเสียหัวแทบทิ่ม
บอกกลางที่ประชุมครม.ว่า เสนองบมาแบบนี้เป็นการกดดันครม.ให้เห็นชอบ ระวังจะมีคนรอรับเงินทอนอยู่ ไม่จำเป็นต้องรีบ ขอให้นำเรื่องไปคุยในที่ประชุมครม.นัดพิเศษ โดยให้มีผวจ. ที่น้ำท่วมมาหารือด้วยจะดีกว่า
แม้ “บิ๊กโอ๋” จะพยายามแจงว่า โครงการต่างๆ ผ่านการสกีนมาแล้วในกรรมการกคฐ. ไม่มีการใช้งบซ้ำซ้อน แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะกองเชียร์บิ๊กโอ๋ ในห้องประชุมครม. ไม่ค่อยมี
สุดท้าย “ยิ่งลักษณ์” เลยต้องแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้ใครเสียหน้ามาก เลยให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับสำนักงบประมาณไปช่วยสกีนให้อีกรอบ ก่อนจะนำกลับมาเข้า ครม.อีกครั้ง ซึ่งก็คือวันอังคารนี้
วันนั้น แม้ต้นเรื่องจะเป็น “ยงยุทธ” แต่เมื่อเม็ดเงินถูกตั้งโดย พล.อ.อ.สุกำพล ถึง “บิ๊กโอ๋” จะไม่ถึงกับเสียหน้า แต่ก็เสียเส้นแน่นอน ที่ถูกเหลิม หักกลางครม.
แถม “เหลิม” ยังเอาหน้า เที่ยวเอาเรื่องนี้ไปโม้ให้เครดิตตัวเองว่า รักษาผลประโยชน์ให้ประเทศระหว่างการไปชี้แจงกับกรรมาธิการวุฒิสภา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน คนก็ต้องมองแล้วว่า พล.อ.อ.สุกำพล จะรู้สึกอย่างไร
ยิ่งต้องไม่ลืมว่า สอง รมช.คมนาคม ที่เคยเปิดศึกเกาเหลากับ พล.อ.อ.สุกำพล คือพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ล้วนสนิทแนบแน่นกับเฉลิม คบหากันเป็นพวกมานาน
ยิ่งเมื่อ “เหลิม” ออกมาเปิดประเด็น คดีปล้นบ้านสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัด คมนาคม เป็นเรื่องความขัดแย้งการทุจริตการประมูลโครงการรถไฟฟ้าหลายสาย ของรฟม. แต่ พล.อ.อ.สุกำพล กลับไม่รับลูก ไม่สนใจ ประกาศไม่มีการทบทวนรื้อโครงการ เพราะประมูลไปหมดแล้ว เท่ากับไม่ให้ราคาข้อมูลของ “เหลิม”
**การที่ “บิ๊กโอ๋” โดนเจาะยางบ่อยครั้งช่วงนี้ จากหลายกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ที่เหมือนนัดแนะกันมา มันน่าจะมีเหตุที่มาที่ไป ไม่ธรรมดา
แสงตะวัน