ASTVผู้จัดการรายวัน – “เดอะมอลล์” ทุ่มงบ 400 ล้านบาท โค้งสุดท้าย ปรับกิจกรรมท้ายปี เน้นฟังชันนัล ช่วยเหยื่อน้ำท่วม หวังดึงยอดขาย 7,700 ล้านบาท ลุ้นทั้งปีโตสูงสุด 80% ทะลุ 43,000 ล้านบาท
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการจัดกิจกรรมในช่วงเดือนธันวาคมนี้ โดยจะเน้นไปในเรื่องของการจัดกิจกรรมรูปแบบฟังชันนัลที่ผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้องซื้อหาสินค้าที่มีความจำเป็นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลายให้กับลูกค้า ไม่เน้นอีโมชันนัล เนื่องจากว่า สิทธิประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้าจะต้องเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ เช่น การสะสมคะแนน การมอบส่วนลด ต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่บริษัทเน้นอีโมชันนัลด้วย เช่น การลุ้นชิงโชคหน้ากากทองคำ การออกเดทกับดารา หรือการชอปปิ้งลุ้นมงกฎเพชร ในช่วงปีก่อนๆ เป็นต้น
ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เดอะมอลล์ต้องปิดบริการสาขาบางแคเกือบเดือนตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. และเปิดบริการใหม่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา สูญเสียรายได้มากกว่า 400-500 ล้านบาท ขณะที่สาขาอื่น เช่น งามวงศ์วานกับท่าพระและบางกะปิก็อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แม้น้ำไม่ท่วมก็ตาม แต่ก็ได้รับผลกระทบเพราะผู้บริโภคเดินทางลำบาก และซัพพลายเออร์หลายรายก็ได้รับผลกระทบส่งสินค้าไม่ได้ทำให้สินค้าขาดบางรายการ
อย่างไรก็ตาม จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมและทำการตลาดส่งเสริมการขายเต็มที่ในช่วงสิ้นปีนี้ จะทำให้รายได้รวมของเดอะมอลล์มีประมาณ 43,000 ล้านบาท เติบโต 8% (กรณีที่สถานการณ์เลวร้ายสุด) แต่ก็ยังสูงกว่า 3% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 5% หากสถานการณ์ดีอาจจะเติบโตถึง 10% ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้เติบโต 10% และเดือนตุลาคมยอดขายรวมยังเติบโต 2% ส่วนธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโต 50% แต่มาตกลงเดือนพฤศจิกายน 10%
สำหรับงบการตลาดทั้งหมดที่ใช้ในช่วงสิ้นปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น มิดไนท์เซลล์ วันที่ 6 -12 ธันวาคม ลดราคาสินค้า 70% และ 30% เคาน์เตอร์ปกติ ร่วมกับบัตรเครดิต เช่น ซิตี้เอ็มวีซ่า ซิตี้แบงก์ และสมาชิกซิตี้โกลด์ สมาชิกเอ็มการ์ด รับคะแนนสะสมสูงสุด 81 ล้านคะแนน ใช้แทนส่วนลด แลกรับบัตรกำนัล ร่วมกิจกรรม เป็นต้น คาดว่าทำยอดขายช่วงมิดไนท์เซลล์ได้ 900 ล้านบาท
นอกจากนี้มีแคมเปญปีใหม่ เริ่มวันที่ 16 ธ.ค. 54 – 5 ก.พ. 55 แคมปญ “Season of Sharing” และ Giving ครอบคลุมเทศกาลตรุษจีนซึ่งตรงกับวันที่ 23 ม.ค. 55 ซึ่งเดิมปีที่แล้วจัดปลาย พ.ย.และจบม.ค. สิทธิพิเศษ เช่น ซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 1,500 – 15,000 บาท รับคูปองส่วนลด ตั้งแต่ 10-50% ลุ้นรับรางวัลคอนโดมิเนียมSantorini ที่หัวหิน มูลค่า 12.5 ล้านบาท รถยนต์ซูบารุเลกาซี วากอน 5 ประตู มูลค่า 2 ล้านกว่าบาท และอื่นๆ คาดว่ายอดขายจากแคมเปญนี้ 7,700 ล้านบาท
ส่วนอีเวนต์มาร์เก็ตติ้งที่หายไปจะเริ่มทยอยให้เห็นไม่ว่าจะเป็น บิวตี้ฮอลล์ มีส่วนลดและชองขวัญชุดพิเศษ, เดอะลิฟวิ่ง สินค้าจำเป็นที่ฟื้นฟูบ้าน, สินค้าเทรนด์ใหม่ของขวัญ หรือสินค้าบีเทรนด์, สินค้ากลุ่มกระเช้าของขวัญ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้คาดจะทำยอดขาย 120 ล้านบาท
สำหรับช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา บริษัทใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการช่วยเหลือและทำซีเอสอาร์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งช่วยเหลือพนักงานเดอะมอลล์ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการจัดกิจกรรมในช่วงเดือนธันวาคมนี้ โดยจะเน้นไปในเรื่องของการจัดกิจกรรมรูปแบบฟังชันนัลที่ผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้องซื้อหาสินค้าที่มีความจำเป็นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลายให้กับลูกค้า ไม่เน้นอีโมชันนัล เนื่องจากว่า สิทธิประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้าจะต้องเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ เช่น การสะสมคะแนน การมอบส่วนลด ต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่บริษัทเน้นอีโมชันนัลด้วย เช่น การลุ้นชิงโชคหน้ากากทองคำ การออกเดทกับดารา หรือการชอปปิ้งลุ้นมงกฎเพชร ในช่วงปีก่อนๆ เป็นต้น
ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เดอะมอลล์ต้องปิดบริการสาขาบางแคเกือบเดือนตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. และเปิดบริการใหม่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา สูญเสียรายได้มากกว่า 400-500 ล้านบาท ขณะที่สาขาอื่น เช่น งามวงศ์วานกับท่าพระและบางกะปิก็อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แม้น้ำไม่ท่วมก็ตาม แต่ก็ได้รับผลกระทบเพราะผู้บริโภคเดินทางลำบาก และซัพพลายเออร์หลายรายก็ได้รับผลกระทบส่งสินค้าไม่ได้ทำให้สินค้าขาดบางรายการ
อย่างไรก็ตาม จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมและทำการตลาดส่งเสริมการขายเต็มที่ในช่วงสิ้นปีนี้ จะทำให้รายได้รวมของเดอะมอลล์มีประมาณ 43,000 ล้านบาท เติบโต 8% (กรณีที่สถานการณ์เลวร้ายสุด) แต่ก็ยังสูงกว่า 3% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 5% หากสถานการณ์ดีอาจจะเติบโตถึง 10% ขณะที่ช่วง 10 เดือนแรกปีนี้เติบโต 10% และเดือนตุลาคมยอดขายรวมยังเติบโต 2% ส่วนธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโต 50% แต่มาตกลงเดือนพฤศจิกายน 10%
สำหรับงบการตลาดทั้งหมดที่ใช้ในช่วงสิ้นปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น มิดไนท์เซลล์ วันที่ 6 -12 ธันวาคม ลดราคาสินค้า 70% และ 30% เคาน์เตอร์ปกติ ร่วมกับบัตรเครดิต เช่น ซิตี้เอ็มวีซ่า ซิตี้แบงก์ และสมาชิกซิตี้โกลด์ สมาชิกเอ็มการ์ด รับคะแนนสะสมสูงสุด 81 ล้านคะแนน ใช้แทนส่วนลด แลกรับบัตรกำนัล ร่วมกิจกรรม เป็นต้น คาดว่าทำยอดขายช่วงมิดไนท์เซลล์ได้ 900 ล้านบาท
นอกจากนี้มีแคมเปญปีใหม่ เริ่มวันที่ 16 ธ.ค. 54 – 5 ก.พ. 55 แคมปญ “Season of Sharing” และ Giving ครอบคลุมเทศกาลตรุษจีนซึ่งตรงกับวันที่ 23 ม.ค. 55 ซึ่งเดิมปีที่แล้วจัดปลาย พ.ย.และจบม.ค. สิทธิพิเศษ เช่น ซื้อสินค้าครบตั้งแต่ 1,500 – 15,000 บาท รับคูปองส่วนลด ตั้งแต่ 10-50% ลุ้นรับรางวัลคอนโดมิเนียมSantorini ที่หัวหิน มูลค่า 12.5 ล้านบาท รถยนต์ซูบารุเลกาซี วากอน 5 ประตู มูลค่า 2 ล้านกว่าบาท และอื่นๆ คาดว่ายอดขายจากแคมเปญนี้ 7,700 ล้านบาท
ส่วนอีเวนต์มาร์เก็ตติ้งที่หายไปจะเริ่มทยอยให้เห็นไม่ว่าจะเป็น บิวตี้ฮอลล์ มีส่วนลดและชองขวัญชุดพิเศษ, เดอะลิฟวิ่ง สินค้าจำเป็นที่ฟื้นฟูบ้าน, สินค้าเทรนด์ใหม่ของขวัญ หรือสินค้าบีเทรนด์, สินค้ากลุ่มกระเช้าของขวัญ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้คาดจะทำยอดขาย 120 ล้านบาท
สำหรับช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา บริษัทใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการช่วยเหลือและทำซีเอสอาร์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งช่วยเหลือพนักงานเดอะมอลล์ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย