ASTVผู้จัดการรายวัน – “บุรีธารา” แตกไลน์ เล็งธุรกิจรับบริหารรีสอร์ท เจาะเมืองท่องเที่ยว หลังลงทุนเองเปิดแล้ว 3 แห่งไปได้สวย พร้อมทุ่ม 1,400 ล้านบาท ผุดคอนโดมิเนียมพระรามเก้า สูง 42 ชั้น
นายธิติ ชินสมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีแซดวายไทย กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหาร บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจสู่การรับจ้างบริหารรีสอร์ท ทั้งการจัดระบบการขาย การทำตลาด และการบริหารรีสอร์ทให้กับเจ้าของโครงการ หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจเปิดบริการรีสอร์ตมานานกว่า 4 ปีแล้วในชื่อว่า “บุรีธารา” โดยมีเป้าหมายรับบริหารรีสอร์ทเท่านั้น ไม่รับบริหารโรงแรม และต้องเป็นรีสอร์ทที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนักประมาณ 60 ยูนิต
ส่วนทำเลที่ตั้งจะเน้นโครงการที่ตั้งอยู่เมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น โดยบริษัทจะใช้แบรนด์ “บุรีธารา” เป็นแบรนด์ที่ใช้ทำธุรกิจ และคิดค่าจ้างบริหารเป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5,000 บาทต่อห้องซึ่งจ่ายครั้งเดียว และค่าการตลาดอีก 1,000 บาทต่อห้องต่อเดือน ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากการรับบริหาร 20%
สำหรับรีสอร์ททั้ง 3 แห่งที่บริษัทลงทุนเองก่อนหน้านั้นประกอบด้วย 1.บุรีธารารีสอร์ท แอนด์ สปา กาญจนบุรี 2.บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะพงัน สุราษฎร์ธานี และ 3. บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา พระรามเก้า กรุงเทพฯ โดยที่แรกคือบุรีธารา กาญจนบุรี เป็นการซื้อโครงการมาจากจากเจ้าของเดิมแล้วมาปรับปรุงใหม่ ลงทุน 50 ล้านบาท พื้นที่ 10 กว่าไร่ จากเดิม 20 ห้องเพิ่มเป็น 70 ห้อง บ้านพักเป็นเรือนมอญ พร้อมห้องประชุมสัมมนา และอื่นๆอีก ตลาดส่วนใหญ่จะเป็นพวกกลุ่มสัมมนา และเป็นคนไทยเป็นหลัก ส่วนที่เกาะพงันนั้น เปิดกรกฎาคม 2552 พื้นที่ 7 ไร่ อยู่ที่อ่าวโฉลกหลำ ลงทุน 120 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่า 90% มีกลุ่มยุโรปเป็นหลัก
ขณะที่บุรีธารา พระรามเก้า กรุงเทพ ซึ่งเป็นแห่งที่สามนั้น ลงทุน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เปิดบริการได้ 4 เดือนแล้ว ตลาดหลักส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียรวมทั้งคนไทยด้วย และมีกลุ่มสัมมนาเป็นหลัก
“ทั้งสามแห่งนี้ยอมรับว่ายังไม่คืนทุน แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทกังวลปัญหาเรื่องการเมืองอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ หากมีความขัดแย้งทางการเมืองและมีความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนเมื่อช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา ส่วนปัญหาน้ำท่วมใหญ่ บริษัทมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก และไม่มีความรุนแรงเท่ากับปัญหาความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมาด้วย ซึ่งช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาธุรกิจรีสอร์ทของเราก็ไปได้ดีพอสมควร เพราะมีลูกค้าที่หนีน้ำท่วมจากกรุงเทพฯไปอยู่ที่กาญจนบุรีก็มาก หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯเองก็หนีน้ำท่วมมาเช่าห้องพักของเราที่พระรามเก้าอยู่เป็นเดือนเหมือนกัน” นายธิติกล่าว
แผนปีหน้าเตรียมก่อสร้างคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ ชื่อ บุรีธารา คอนโดเทล กรุงเทพฯ พื้นที่ 3 ไร่ บริเวณพระรามเก้าด้านหลังรีสอร์ทเดิม สูง 42 ชั้น จำนวน 630 ยูนิต พื้นที่เฉลี่ยต่อห้อง 36 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 70,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มที่ 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต ลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท จะเปิดการขายต้นปีหน้าและเริ่มก่อสร้างกลางปี แล้วเสร็จอีก 2 ปีจากนี้ ซึ่งคอนโดนิเนียมนี้ เตรียมรับทำตลาดให้กับลูกค้าที่ซื้อห้องที่สามารถนำมาเปิดให้เช่าได้ด้วย
นายธิติ ชินสมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีแซดวายไทย กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหาร บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจสู่การรับจ้างบริหารรีสอร์ท ทั้งการจัดระบบการขาย การทำตลาด และการบริหารรีสอร์ทให้กับเจ้าของโครงการ หลังจากที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจเปิดบริการรีสอร์ตมานานกว่า 4 ปีแล้วในชื่อว่า “บุรีธารา” โดยมีเป้าหมายรับบริหารรีสอร์ทเท่านั้น ไม่รับบริหารโรงแรม และต้องเป็นรีสอร์ทที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนักประมาณ 60 ยูนิต
ส่วนทำเลที่ตั้งจะเน้นโครงการที่ตั้งอยู่เมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น โดยบริษัทจะใช้แบรนด์ “บุรีธารา” เป็นแบรนด์ที่ใช้ทำธุรกิจ และคิดค่าจ้างบริหารเป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5,000 บาทต่อห้องซึ่งจ่ายครั้งเดียว และค่าการตลาดอีก 1,000 บาทต่อห้องต่อเดือน ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากการรับบริหาร 20%
สำหรับรีสอร์ททั้ง 3 แห่งที่บริษัทลงทุนเองก่อนหน้านั้นประกอบด้วย 1.บุรีธารารีสอร์ท แอนด์ สปา กาญจนบุรี 2.บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะพงัน สุราษฎร์ธานี และ 3. บุรีธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา พระรามเก้า กรุงเทพฯ โดยที่แรกคือบุรีธารา กาญจนบุรี เป็นการซื้อโครงการมาจากจากเจ้าของเดิมแล้วมาปรับปรุงใหม่ ลงทุน 50 ล้านบาท พื้นที่ 10 กว่าไร่ จากเดิม 20 ห้องเพิ่มเป็น 70 ห้อง บ้านพักเป็นเรือนมอญ พร้อมห้องประชุมสัมมนา และอื่นๆอีก ตลาดส่วนใหญ่จะเป็นพวกกลุ่มสัมมนา และเป็นคนไทยเป็นหลัก ส่วนที่เกาะพงันนั้น เปิดกรกฎาคม 2552 พื้นที่ 7 ไร่ อยู่ที่อ่าวโฉลกหลำ ลงทุน 120 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติมากกว่า 90% มีกลุ่มยุโรปเป็นหลัก
ขณะที่บุรีธารา พระรามเก้า กรุงเทพ ซึ่งเป็นแห่งที่สามนั้น ลงทุน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เปิดบริการได้ 4 เดือนแล้ว ตลาดหลักส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียรวมทั้งคนไทยด้วย และมีกลุ่มสัมมนาเป็นหลัก
“ทั้งสามแห่งนี้ยอมรับว่ายังไม่คืนทุน แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทกังวลปัญหาเรื่องการเมืองอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ หากมีความขัดแย้งทางการเมืองและมีความรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนเมื่อช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา ส่วนปัญหาน้ำท่วมใหญ่ บริษัทมองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก และไม่มีความรุนแรงเท่ากับปัญหาความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมาด้วย ซึ่งช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาธุรกิจรีสอร์ทของเราก็ไปได้ดีพอสมควร เพราะมีลูกค้าที่หนีน้ำท่วมจากกรุงเทพฯไปอยู่ที่กาญจนบุรีก็มาก หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯเองก็หนีน้ำท่วมมาเช่าห้องพักของเราที่พระรามเก้าอยู่เป็นเดือนเหมือนกัน” นายธิติกล่าว
แผนปีหน้าเตรียมก่อสร้างคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ ชื่อ บุรีธารา คอนโดเทล กรุงเทพฯ พื้นที่ 3 ไร่ บริเวณพระรามเก้าด้านหลังรีสอร์ทเดิม สูง 42 ชั้น จำนวน 630 ยูนิต พื้นที่เฉลี่ยต่อห้อง 36 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 70,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มที่ 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต ลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท จะเปิดการขายต้นปีหน้าและเริ่มก่อสร้างกลางปี แล้วเสร็จอีก 2 ปีจากนี้ ซึ่งคอนโดนิเนียมนี้ เตรียมรับทำตลาดให้กับลูกค้าที่ซื้อห้องที่สามารถนำมาเปิดให้เช่าได้ด้วย