xs
xsm
sm
md
lg

"ไอ้กี้ร์"นอนคุกศาลไม่ให้ประกันคดีร้ายแรง"เหลิม"พล่ามพา"แม้ว"กลับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"อริสมันต์"มอบตัวดีเอสไอ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลอาญาสั่งไม่ให้ประกัน ชี้เป็นคดีร้ายแรง อัตราโทษสูง ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์ เพิ่มวงเงินประกัน เป็น 2 ล้านบาท "เฉลิม" แย้ม "ทักษิณ"อาจอยู่ที่ปักกิ่ง พระราชทานอภัยโทษปีนี้ “หมอวิสุทธิ์-ผู้พันตึ๋ง-ชลอ เกิดเทศ” ได้รับการอภัยโทษส่วน “หมอเสริม สาครราษฎร์” พ้นคุก 18 ธ.ค.นี้

วานนี้(7 ธ.ค.) เวลา 09.40 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ถ.แจ้งวัฒนะ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย พร้อมนางรพิพรรณ พงษ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยา และทนายความ เข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดี ดีเอสไอ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีก่อการร้าย คดีบุกรุกอาคารรัฐสภา และคดีปราศรัยยุยงปลุกปั่น รวม 3 ข้อหา เบื้องต้นนายอริสมันต์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล และจะจัดทำคำให้การเป็นเอกสารส่งอัยการคดีพิเศษ โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน จำเลยในคดีเดียวกัน นำมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 50 คนเข้ามอบดอกกุหลาบสีแดงถือแผ่นป้ายให้กำลังใจ

ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้สอบถามถึงเส้นทางการเดินทางเข้าประเทศไทย ปรากฏว่านายอริสมันต์ ไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงช่องทางที่เข้ามาประเทศไทย ซึ่งอาจถูกดีเอสไอดำเนินคดีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพิ่มอีกคดี สำหรับนายอริสมันต์ ยังถูกดีเอสไอดำเนินคดีฐานปราศรัยยุยงปลุกปั่นที่จังหวัดขอนแก่น และหน้ากองทัพบก รวม 2 คดี ที่อยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนคดีหลบหนีการจับกุมที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อกลางปี 53 อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นายอริสมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามขั้นตอน เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้น ทางดีเอสไอ ก็มีความพยายามจะเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคดีก่อการร้าย การเดินทางกลับมาครั้งนี้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และมั่นใจในความปลอดภัย โดยตนจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา นอกจากนี้เตรียมยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้รุนแรงเกินไปหรือไม่

**ประสานรัฐบาลมอบตัว**

นายอริสมันต์ กล่าวว่า การเข้ามอบตัวได้ประสานกับรัฐบาลเป็นการภายใน เมื่อมีความมั่นใจจึงเดินทางกลับเข้ามา แต่ทางรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ส่วนสาเหตุที่ต้องหลบหนีเพราะที่ผ่านมามีการไล่ล่าจับกุม ที่ตามกระบวนการยุติธรรมไม่น่าจะดำเนินการอย่างนั้นกับตน เช่น ความพยายามที่จะอุ้ม ซุ่มทำร้าย และ บุกเข้าจับที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ผู้ใหญ่หลายๆ คนมีความเป็นห่วงขอให้ตนหลบเลี่ยงการจับกุม รอเวลาที่เหมาะสมเพื่อเข้ามอบตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมจะเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม นปช.อีกหรือไม่ นายอริสมันต์ กล่าวว่า ตอนนี้เราไม่รู้จะชุมนุมเพื่ออะไร คิดว่าเราได้สิ่งที่ประชาชนต้องการมา 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว คือได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนที่จะดำเนินการต่อไปจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำพาบ้านเมืองไปสู่ความปรองดองได้หรือไม่

**ปีครึ่งหลบหนีอยู่กัมพูชา**

ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า ตามขั้นตอนนายอริสมันต์ จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมสอบปากคำเบื้องต้นประมาณ 1 ชั่วโมง โดยพนักงานสอบสวนจะไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากทั้ง 3 คดี ดีเอสไอได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการคดีพิเศษแล้ว ทั้งนี้ เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้วเสร็จจะนำนายอริสมันต์ไปรายงานที่อัยการคดีพิเศษ ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่เป็นดุลพินิจของอัยการคดีพิเศษ

หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นายอริสมันต์ กล่าวว่า ตนได้ให้การเป็นไปตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปให้การเป็นลายลักษณ์อักษรที่อัยการคดีพิเศษ พร้อมยื่นเรื่องขอประกันตัว ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ครึ่งที่ผ่านมาได้หลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นๆ

**คุมตัวฟ้องศาลฐานเผาเมือง**

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 นำตัว นายอริสมันต์ มายื่นฟ้องต่อศาลอาญาเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย

ตามฟ้องโจทก์สรุปว่าเมื่อระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้ร่วมกับนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายขวัญชัย สาระคำ หรือไพรพนา นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก ชูกล่อม นายนิสิต สินธุไพร นายการุณ หรือเก่ง โหสกุล นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท กับพวกรวม 19 คน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ของศาลนี้ และจำเลยอีก 5 คนในความผิดฐานเดียวกันของศาลนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยซึ่งเป็นแกนนำ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงได้ร่วมกันกับพวก ยุยง ปลุกปั่นประชาชนทั่วราชอาณาจักรไทยให้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรม โดยมีความมุ่งหมายที่จะต่อต้านรัฐบาลและบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นให้ประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่

โดยจำเลยกับพวกจัดให้มีการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตามแนวถนนราชดำเนินไปจนถึงสี่แยกคอกวัว และแยกราชประสงค์ มีการเดินขบวนและเคลื่อนย้ายประชาชนไปปิดล้อมสถานที่ต่าง ๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย รัฐสภา กรมทหารราบที่ 22 และบ้านพักของนายกรัฐมนตรี และมีการใช้อาวุธเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่บ้านพักประชาชน เพื่อสร้างความปั่นป่วนก่อให้เกิดความเสียหายแก่การคมนาคมและทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อนเกรงกลัวอันตรายที่จะก่อให้เกิดขึ้นต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน ขัดขวางการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี ยิงใส่กระทรวงกลาโหม โดยใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรี ยิงใส่กองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รมน.) มีทหารได้รับบาดเจ็บ บุกตรวจค้นโรงพยาบาลจุฆาลงกรณ์ โดยอ้างว่ามีทหารแอบซ่อนอยู่ ทำให้แพทย์ พยาบาลไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยได้ สถานที่อื่น ๆ หลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยโจทก์ไม่ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากจำเลยเข้ามอบตัวกับเจ้าพนักงานเอง ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.4958/2554

**ศาลไม่ให้ประกัน**

จากนั้นเวลา 16.30 น. ศาลอาญา พิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายอริสมันต์ จำเลยคดีก่อการร้าย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีข้อหาร้ายแรง และอัตราโทษสูง หลังเกิดเหตุจำเลยหลบหนีตลอดมา แม้จำเลยจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานก็เป็นเวลานาน และยังเป็นบุคคลที่ศาลอาญาออกหมายจับในคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น หมายเลขดำที่ อ.4177/2552 , อ.1463/2553 ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุพอเพียงให้ศาลเชื่อได้ว่าหากอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะไม่หลบหนีอีก ให้ยกคำร้อง

ต่อมานายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความของนายอริสมันต์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะปรึกษาทีมทนายความการยื่นคำอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวที่จะยื่นในวันนี้(8 ธ.ค.)โดยคาดว่าจะพิจารณาเพิ่มหลักทรัพย์ที่จะใช้ยื่นประกันจากเงินสด 1.2 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายอริสมันต์ ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฯ ในเวลา 18.00 น. โดยระหว่างนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากที่รอให้กำลังใจนายอริสมันต์ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และได้โทรศัพท์แจ้งความคืบหน้ากันภายในกลุ่ม ขณะที่บางส่วนก็ถึงกับร่ำไห้เสียใจ

** "เทือก"เซ็ง "แม้ว" ดิ้นไม่เลิก**

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายอริสมันต์ เข้ามอบตัวว่า เป็นสิ่งที่คาดคิดได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อฝ่ายเสื้อแดงชนะมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องมั่นใจว่าถ้ามามอบตัวแล้วจะได้รับการเอื้อเฟื้อ เกื้อหนุน ช่วยเหลือ ส่วนรัฐบาลควรจะคิดอย่างไร ส่งสัญญาณอย่างไร ให้ประชาชนสบายใจในสถานการณ์แบบนี้ ตนคงแนะนำไม่ได้ เพราะกุนซือที่อยู่ข้างหลังรัฐบาลสำคัญมากกว่า ไม่เห็นหรือว่าเขาทะเลาะกันที่กระทรวงคมนาคม ก็ต้องไปหาคนที่ต่างประเทศช่วยคลี่คลาย ซึ่งตนยังคิดว่า การตัดสินใจต่างๆ ยังคงขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว และหากเป็นอย่างนี้ต่อไป ความปรองดองคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะเขาก็มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องได้อำนาจ ทรัพย์สินคืน ตรงนี้จะเป็นปัญหา

"ล่าสุดที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะกลับมาเป็นคนบริหารประเทศเองอีกครั้งนั้น ก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมาตลอดเวลา เพื่อเป้าหมายอย่างนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีโอกาสได้กลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่ ก็อยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ จะคิดอย่างไร ถ้าผมภาวนา ก็อยากให้เขาเปลี่ยนความคิด บ้านเมืองจะได้สงบสุข แต่หากจะดึงดันต่อไป ก็น่ากังวลใจ เพราะสิ่งที่เขาพยายามทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น ทำร้ายจิตใจคนไทย ทำร้ายหลักการ โดยเฉพาะหลักการปกครอง หลักกฎหมาย ทำให้คนไทยไม่สบายใจ" นายสุเทพ กล่าว

"เฉลิม"ไม่รู้ "กี้ร์"จะมอบตัว**

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้ามอบตัวสู้คดีของนายอริสมันต์ ว่าตนรับรายงานในช่วง 21.00 น.วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมาโดยไม่ทราบมาก่อน และตำรวจได้รายงานมาที่ตนว่านายอริสมันต์ ไปรายงานตัวที่ศาลพัทยาแล้ว มันก็เป็นเรื่องธรรมดาและเช้าวานนี้นายอริสมันต์ ก็ไปดีเอสไอ

เมื่อถามว่านายอริสมันต์ มอบตัวตั้งแต่เช้าแต่ทำไมข่าวเพิ่งปรากฏในช่วงหัวค่ำ รองนายกฯกล่าวว่ามันมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆหรืออยู่ในสถานที่ควบคุมตัวชั่วคราวและยื่นคำร้องขอประกันตัว ศาลจะใช้ดุลพินิจ และโดยหลักทั่วไปศาลจะสั่งให้ประกันตัวหรือไม่ในเวลา 16.00 น. หากไม่ให้ประกันตัวก็จะส่งไปยังเรือนจำ มันคงไม่มีอะไร เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่านายอริสมันต์ เพิ่งมอบตัวในช่วงพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพื่อจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่าจะไปช่วยอะไรได้มันเป็นดุลพินิจของศาล รัฐบาลไปเกี่ยวข้องไม่ได้ นายอริสมันต์ คงเหงาและคิดถึงภรรยาบ้าง แต่ตนไม่ทราบเส้นทางของนายอริสมันต์ จากกัมพูชามามอบตัวที่ศาลพัทยา รวมทั้งเรื่องของนปช.นั้นตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น ส่วนแกนนำ นปช.ที่สำคัญกว่านายอริสมันต์ มามอบตัวเพิ่มเติมหรือไม่นั้น รองนายกฯนิ่งไปชั่วครู่ก่อนตอบว่า”คงตอบแทนไม่ได้”

** "แม้ว" อยู่ปักกิ่ง ?

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดต่อมาบ้างหรือไม่ว่าอยากกลับบ้าน รองนายกฯกล่าวว่า ”ท่านไม่เคยคุยกับตนและไม่มีการบอกผ่านใครให้มาแจ้งตน” เมื่อถามว่าช่วงที่ผ่านมาร.ต.อ.เฉลิมเดินทางไปกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นได้พบพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ”หากพูดไปก็จะผิดศีลข้อมุสา เอาเป็นว่าไม่พูดและไม่บอกว่าได้เจอหรือไม่ แต่ปักกิ่งหนาวมาก ลบ 5 องศาเซลเซียส”

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมเคยบอกว่าจะพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน แสดงว่าหากเรื่องนี้จะสำเร็จได้ ร.ต.อ.เฉลิมต้องอยู่ในตำแหน่งของรัฐบาล และยืนยันในเรื่องนี้หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่าไม่จำเป็น สุดแต่นายกฯจะพิจารณา ที่ผ่านมาในช่วงหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้ตนเป็นคนใจเดียว พูดแล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง และตนพูดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน และไปหาเสียง แต่ยังไม่บอกวิธีว่าจะนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาอย่างไร แต่เป้าหมายมันคือใช่ ตนไม่ปิดบังใคร หากหาเสียงแล้วไม่พูด แต่มาพูดเรื่องนี้ตอนชนะเลือกตั้งก็กล่าวหาว่าลักหลับ แต่ยังไม่บอกวันและเวลาว่าจะพากลับวันใดเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น

ฝ่ายค้านบอกว่าตนเป็นสาวกพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ฝ่ายค้านเพิ่งรู้หรือ ตนเป็นมาตั้งนานแล้ว เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องรอเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบในการออกกฎหมายนิรโทษกรรม รองนายกฯกล่าวว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น ส่วนเรื่อง 91 ศพ มันเป็นการฆ่าคนตาย คนพวกนี้ต้องติดคุก ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา และพรฎ.นิรโทษกรรมนั้นมันเกี่ยวกับผลกระทบของการปฏิวัติ ย้ำว่ามันเป็นคนละเรื่องกับเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ

เมื่อถามว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศคงจะไม่กลับมาแบบนายอริสมันต์ และจะกลับมาทันงานแต่งงานของนส.พิณทองทา ชินวัตรหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ”พญาหงส์จะมาแบบนั้นได้อย่างไร แต่คงไม่ได้กลับมาในช่วงวันแต่งงานลูกสาว” เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยู่แถวนี้ใช่หรือไม่ในช่วงนี้ รองนายกฯกล่าวว่า “ปักกิ่งนั้นไกล”เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศเหมือนสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่านายสมัครคิดแบบหนึ่ง แต่ตนก็คิดแบบนักกฎหมาย เวลาตนไปต่างจังหวัดประชาชนสอบถามว่าเมื่อใดจะพาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านเสียที เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

**ศาลรธน. รอตามขั้นตอน

นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธาน ศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณี นายอริสมันต์ ที่เข้ามอบตัว ระบุว่า จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งข้อกล่าวหารุนแรงเกินไปว่า คงต้องรอให้นายอริสมันต์ ยื่นร้องก่อน เพราะยังไม่รู้ว่านายอริสมันต์ จะยื่นให้ศาลวินิจฉัยเรื่องใด

การที่บุคคลจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยตรง สามารถทำได้ แต่จะมีขั้นตอน และเงื่อนไขค่อนข้างยุ่งยาก เพราะถ้ามีคดีอยู่ในชั้นศาลยุติธรรม ก็จะต้องยื่นร้องผ่านศาลยุติธรรม แต่ถ้าไม่มีก็ต้องยื่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งหากยังไม่ผ่านการไตร่ตรองของหน่วยงานเหล่านี้ ก็จะดำเนินการไม่ได้

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่พิจารณาว่ากฏหมายใดมีข้อความขัดแย้งรัฐธรรมนูญมาตราใดหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีบุคคลที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากไม่ถูกต้องตามกระบวนการ ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องสั่งไม่รับคำฟ้องไปรวมแล้ว 6 คดี

"เราพิจารณาว่าเรื่องไหนขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กับวินิจฉัยสิ่งที่รัฐธรรมนูญ กฎหมาย พรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง เขียนไว้ว่าเป็นหน้าที่ ให้เป็นอำนาจพิเศษ เช่น การตรวจสอบนักการเมือง ส่วนกรณีอื่นๆ ต่อจากนี้ ยังไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะยังไม่เห็นข้อเท็จจริง เหมือนยังไม่เห็นน้ำ แล้วไปตัดกระบอก คงไม่ถูกเรื่อง" ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าว

***ลดโทษ “หมอวิสุทธิ์-ผู้พันตึ๋ง”

นอกจากนี้ ในวันนี้ (7 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า การปล่อยผู้ต้องขังภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2554 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้ประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมการปล่อยตัวผู้ต้องขังทั่วประเทศ และในกรุงเทพฯ จะจัดงานวันที่ 8 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ลานสนามหญ้าหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม เบื้องต้นมีผู้ต้องขังที่พร้อมปล่อยตัวจากเรือนจำเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 4,500 คน

รายงานข่าวระบุว่า จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2554 ส่งผลให้นักโทษเด็ดขาดในคดีสำคัญหลายคดีได้รับพระมหากรุณาธิคุณอภัยโทษโดยการลดวันต้องโทษครั้งนี้ เช่น นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต้องโทษคดีฆาตกรรม พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ แพทย์โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร และ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ต้องโทษคดีสังหารนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ทั้ง 2 คนได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษ เมื่อปี 2550 ได้ลดโทษจากโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิต, ปี 2553 ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษอีกครั้ง จากจำคุกตลอดชีวิตเหลือจำคุก 50 ปี และปีนี้ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษเช่นเดียวกัน จากจำคุก 50 ปี ตามพระราชกฤษฎีกาจะได้ลดวันต้องโทษ ตามลำดับชั้นนักโทษเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยราชทัณฑ์คนละ 13 ปี

ส่วน พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องโทษคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขันธ์ เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งแรก ปี 2553 จากโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต และปีนี้ได้อภัยโทษให้ลดโทษจากจำคุกตลอดชีวิตเหลือ 50 ปี ส่วนนายเสริม สาครราษฎร์ ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพแฟนสาว ได้รับการลดโทษ 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 และล่าสุดปี 2554 ได้รับพระราชทานอภัยโทษอีก 1 ใน 3 เหลือโทษ 8 ปี แต่จำคุกมาจะครบ 8 ปี วันที่ 18 ธันวาคมนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น