xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”จับมือนักวิชาการแดง เปิดแนวรบขย่ม “มหาอำมาตย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**อาการแปลกๆ ของรัฐบาลในหลายกรณีที่ถือเป็นการกระทำมิบังควรต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับตั้งแต่การสับขาหลอก กลับลำ 360 องศา เลิกการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ที่มีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากสังคม
รวมไปถึงกรณีล่าสุดที่เฟซบุ๊ก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ผิดรัชกาล นำพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 8 มาโพสต์ให้คนไทยถวายพระพร ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม ตามติดมาด้วยการปรับลดวันจัดกิจกรรมสำคัญ 2 ส่วน คือ
กำหนดการเดิมในการเทิดพระเกียรติในปีนี้ คือการจัดกิจกรรมการแสดงที่มีชื่อว่า “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษามหาราช” ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ฝั่งพระบรมมหาราชวัง และการจัดฉายภาพยนตร์พาโนรามา สื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ “ 84 ปี แห่งความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์” ซึ่งเป็นการฉายภาพเคลื่อนไหวผ่านแนวกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านถนนหน้าพระลาน
มีกำหนดจัดการแสดงระหว่างวันที่ 3–9 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปรากฏว่า กิจกรรมดังกล่าวถูกยกเลิกการแสดงอย่างกระทันหัน ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ด้วยข้ออ้างว่าจะประหยัดงบประมาณไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์ไม่เหมาะสมที่จะจัดงานรื่นเริง แต่ล่าสุด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ประกาศจับมือกับเมืองพัทยา จัดงานพลุเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่ สร้างสถิติโลกในวันที่ 16-17 ธันวาคมนี้
ทำเอาคนไทยงงกับความสติแตกที่รัฐบาลให้เหตุผลกันไปคนละทาง
**เพราะลำพังแค่นายกรัฐมนตรี ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นผู้นำประเทศในแผ่นดินของพระมหากษัตริย์รัชกาลใด ก็เป็นเรื่องเกินกว่าที่คนไทยจะรับได้อยู่แล้ว ยังมาเจอความไม่เข้าท่าของรัฐบาล “หนูไม่รู้” ที่กำลังท้าทายสังคมไทยอีก
จึงไม่แปลกที่คนไทยจำนวนมากจะระบายผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยข้อความโดนใจยิ่งว่า "เรื่องของพ่อมรึงยังพลาด แล้วเรื่องของประเทศชาติ มรึงจะทำให้ดีได้อย่างไร "
หากตั้งสติทบทวนเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง จะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นเจตนาที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตามบันได 7 ขั้น
ขั้นที่ 1 กดดันให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภาสำเร็จ กลับไปสู่สนามเลือกตั้ง
ขั้นที่ 2 มั่นใจว่าได้อำนาจรัฐหลังการเลือกตั้ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ขั้นที่ 3 ใช้อำนาจรัฐที่ได้มา ออกกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมืองให้กับ ทักษิณ และ นักโทษการเมือง 111 คน รวมทั้งคืนทรัพย์ที่ปล้นชาติไปให้กับคนที่ทรยศต่อแผ่นดิน
ขั้นที่ 4 ให้ ทักษิณ กลับประเทศโดยไร้มลทิน กลับมากุมบังเหียนบริหารประเทศอีกครั้ง ด้วยการทำลายกติกาของชาติ แล้วร่างกติกาใหม่ เพื่อตัวเอง
ขั้นที่ 5 อัดนโยบายประชานิยม ใช้ภาษีประชาชนไปสร้างหนี้บุญคุณกับชาวบ้าน
ขั้นที่ 6 ล้างผลาญทุกองค์กรที่เป็นศัตรูของตัวเอง รวมถึงบรรดาอำมาตย์
และขั้นที่ 7 เปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ “รัฐไทยใหม่” ชนิดพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน กดดันอำมาตย์หรือกลุ่มอุดมการณ์เก่าให้ถอยห่างออกจากประชาชน ดำรงตนเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของประชาชน เพื่อให้ความจงรักภักดีทั้งหมดมาอยู่กับคนที่ชื่อทักษิณ
** จะเห็นได้ว่าตอนนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กำลังเข้าสู่ “บันไดขั้นที่3” ซึ่งพร้อมจะก้าวข้ามขั้นไปเรื่อยๆ จนถึงเป้าหมายด้วยการทำหลายอย่างพร้อมๆ กัน
หลังจากใช้กองกำลัง พรรคการเมือง และมวลชนแย่งชิงอำนาจได้สำเร็จ ขั้นตอนที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ ย่อมต้องเปลี่ยนหมาก จากไพร่ เบี้ย มาเป็นขุนศึกวางแผนออกรบ
ตัวละครที่สังคมไทยต้องจับตาเป็นพิเศษคือ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หัวหอกกลุ่มนักวิชาการแดง ที่แสดงออกชัดเจนว่า มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตรย์อย่างไร มีความต้องการจะเปลี่ยนแปลงการปกครองอย่างไร
ซึ่ง “สมศักดิ์” ก็เป็นหนึ่งในนักวิชาการที่เป็นเครือข่ายที่ ทักษิณ ใช้สร้างภาพให้ตัวเองเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกปล้นอำนาจโดยเผด็จการทหาร และกำลังจะใช้ “นักวิชากลวง”เหล่านี้เพื่อสร้างมายาคติว่า รัฐบาลเพื่อไทย จะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
**ทักษิณ-สมศักดิ์ จึงอยู่ในข่าย “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” หรือให้เหมาะกว่านั้นก็คือ “ผีเน่ากับโลงผุ”
ในวันที่ “ผีเน่า” คิดกลับหลุมด้วยการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ แต่ “โลงผุ”ไม่เห็นด้วย พร้อมกับเสนอให้ใช้แนวทางนิรโทษกรรมแทน
ไม่กี่วันหลังจากนั้น “ทักษิณ” ก็ร่อนจดหมายข้ามประเทศ ไม่ขอรับประโยชน์จากการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ตามมาด้วยถ้อยแถลงของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประกาศชัดเจนครั้งแรกว่า ในร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประโยชน์
จากนั้น เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็เดินเครื่องส่งเสียงก้าบก้าบ ประกาศผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมทันทีที่พับแผนพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษไป
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนที่ “ทักษิณ” เดินตามหมากที่ “สมศักดิ์” วางเอาไว้ ใช่หรือไม่
“สมศักดิ์” ยังเสนอแนวคิดผ่านเหตุการณ์คดี sms หมิ่นฯว่า รัฐบาลต้องตัดงบประมาณกองทัพ และงบพิธีกรรมลง เป็นข้อเสนอก่อนที่จะมีการตัดทอนกิจกรรมสำคัญลงเพียงไม่กี่วัน !
**แน่นอนว่า ในส่วนของกองทัพ ตอนนี้รัฐบาลยังไม่กล้าแตะ แต่การท้าทายมหาอำมาตย์ที่ “ทักษิณ” แค้นเคือง ยังอยู่ในวิสัยที่ทำได้
เพราะการอ้างว่างานเฉลิมพระเกียรติเป็นงานรื่นเริง
การจัดกิจกรรมสำคัญที่มีการลดวันจัดงานลงเป็นเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณนั้น เท่ากับว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ “ยิ่งลักษณ์” กำลังส่งสัญญาณบางอย่างที่ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสังคมไทย ใช่หรือไม่
ผู้คนในสังคมเขารับทราบกันดีว่า สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มีความคิดต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างไร ต้องการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน
การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เดินตามแนวความคิดของ “สมศักดิ์” เช่นนี้ เท่ากับยอมรับใช่หรือไม่ว่า รัฐบาลน้องสาวทักษิณ มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองการปกครองไม่แตกต่างจากแนวคิดของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ?
ด้วยวิธีคิดเช่นนี้ใช่หรือไม่ ถึงทำให้ เฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์ หลงยุคหลงแผ่นดิน นำพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 8 มาประกอบข้อความเชิญชวนให้ประชาชนถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
**ทำไมในหมู่บ้านแดงบางแห่งในจังหวัดขอนแก่น จึงมีการนำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 8 มาวางไว้ ในขณะที่ประกาศว่า ทักษิณ คือ ประมุขของหมู่บ้าน ?
แท้จริงแล้ว เฟซบุ๊กยิ่งลักษณ์ และตัวนายกรัฐมนตรี อาจจงใจที่จะหลงแผ่นดินเพราะต้องการแสดงสัญลักษณ์เปลี่ยนแผ่นดินกลับไปสู่ยุค 2475 ใช่หรือไม่
**พวกมึงคิด พลิกฟ้า เปลี่ยนแผ่นดิน ถามคนไทยอย่างกู หรือยัง ?
กำลังโหลดความคิดเห็น