ASTVผู้จัดการรายวัน-แนะ"ยิ่งลักษณ์"งดใช้เฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์ หลังพลาดหลายครั้ง ซัดเสื่อมเสียต่อสถานะผู้นำประเทศ จี้ขอโทษประชาชน ขณะที่ปธ.กมธ.ปกป้องสถาบันฯรับลูกเตรียมสอบหากมีการหารือ ขณะที่งานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ท้องสนามหลวงวุ่น ! พบการแสดงแสงสีเสียง-พาโนรามา ถูกสั่งระงับกะทันหัน “ยงยุทธ” อ้างน้ำท่วมไม่เหมาะจัดรื่นเริง เลิกโชว์ฉายภาพกำแพงวัดพระแก้ว
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความผิดพลาดบนเฟซบุ๊ก ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเชิญชวนประชาชนร่วมถวายพระพร ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่กลับใช้พระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 8 ว่า ไม่คาดคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ของคนระดับนายกฯ
แม้ว่าเรื่องนี้จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของนายกฯ ในฐานะเจ้าของหรือทีมงานก็ตาม ตัวนายกฯ และทีมงานก็ควรมีวุฒิภาวะ และความรอบคอบ รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแม้ว่านายกฯ และทีมงานจะยอมรับ แต่เป็นเรื่องที่กระทบไปยังความรู้สึกของประชาชน และความเชื่อถือของประชาชน ที่มีต่อตัวนายกฯ ด้วย การที่นายกฯ จะมีหนังสือกราบบังคมทูล เพื่อขอพระราช
ทานอภัยโทษในข้อผิดพลาด ก็เป็นเรื่องดี แต่ก็ควรที่จะขอโทษต่อความรู้สึกของประชาชนคนไทยด้วย
"มีหลายครั้งที่ความผิดพลาดเกิดขึ้นเกี่ยวกับเฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ของตัวนายกฯ ถ้าหากว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นายกฯ ก็ควรที่จะงดใช้เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ ชั่วคราวไปจนกว่าจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ผมไม่อยากให้ความผิดพลาดของนายกฯ เกิดขั้นซ้ำซาก ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในทางตรงหรือทางอ้อม หรือสื่อสารผ่านสื่อใดๆ ทั้งสิ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เสียหายในฐานะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นความเสียหาย และขาดความน่าเชื่อถือต่อสถานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศด้วย" นายเทพไท กล่าว
**ส.ว.จี้"ยิ่งลักษณ์"ขอโทษประชาชน
นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า ต่อไปรัฐบาลต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกิจกรรมเทิดพระเกียรติต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิด และแม้รัฐบาลจะขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว แต่ต่อไปต้องระวัง และถือว่ายังไม่พอ นายกฯ ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษกับประชาชนด้วย ที่จริงเรื่องผิดพลาดแบบนี้เป็นเรื่องน่าละอาย และที่ นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกฯ ออกมาอ้างว่า นายกฯไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการดำเนินการของออแกนไนเซอร์ที่ว่าจ้างมาดูแลเฟซบุ๊กนั้น ไม่น่าอ้างขนาดนี้ ถือเป็นการซัดทอดให้ออแกไนเซอร์ ทั้งที่ในการพิจารณาจ้าง คนที่ว่าจ้างก็ต้องเลือกออแกไนเซอร์ที่มีประสบการณ์ และความรู้ด้วย ไม่ใช่พอผิดพลาดแล้วโบ้ยคนอื่น จึงเป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมเหตุสมผล กับเหตุที่เกิดขึ้น
"เรื่องนี้ต้องรับผิดชอบกันด้วย เพราะพลาดกันตลอด ตัวนายกฯ เองมีเรื่องพลาดทุกสัปดาห์ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะปล่อยผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อมาเกิดในช่วงวโรกาสสำคัญ รัฐบาลคงต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือออแกไนเซอร์ดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงว่า ไปเอาภาพมาจากไหน เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าออแกไนเซอร์ชี้แจงไม่ได้ รัฐบาลต้องเป็นคนชี้แจง เพราะประชาชนยังเกิดข้อสงสัย และกังขากันมาก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอีกในอนาคต ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ว. ยังไม่ได้หารือกัน เพราะเป็นช่วงวันหยุด คาดว่าในวันที่ 6 ธ.ค. ซึ่งเปิดทำการแล้ว จะได้พูดคุยกัน" นางตรึงใจ กล่าว
***เฟซบุ๊ก"ปู"ลงแต่ภาพกิจกรรมของตัวเอง
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งประกาศงดให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง 2 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4-5 ธ.ค. ก็ยังไม่มีการโพสต์ข้อความใหม่ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยทีมงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ภาพภารกิจสุดท้ายของนายกฯ ขณะลงพื้นที่ จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พร้อมข้อความประชาสัมพันธ์ว่า นายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดโครงการ "คืนที่นาให้เกษตรกร" บ้านปากจั่น อ.นครหลวง จ. อยุธยา โดยมีแฟนคลับของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2 ราย เข้ามาแสดงความชื่นชม แต่อีกรายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า SO Thick Man Overcome the stupid! PM. V've ever be
นอกจากนี้ ในภาพกิจกรรมการลงพื้นที่ ที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่เป็นสารถี ถีบรถสามล้อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์นั่ง มีคนเข้าไปคลิกไลท์ 46 คน แต่ก็มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นทวงถามเรื่องเงินเยียวยา ผ่านเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ด้วย โดยผู้ที่ใช้ชื่อ อัคนี แสนบริสุทธ์ มีข้อความดังนี้
"ท่านครับ ช่วยเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือห้าพันบาท และค่าซ่อมแซมบ้าน ที่คลองหลวง ปทุมธานี ด่วนด้วยครับ"
เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีแฟนคลับของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปใช้หน้าเพจของนายกรัฐมนตรี ในการถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแม้แต่รายเดียว แม้กระทั่งทีมงานเฟซบุ๊ก ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้มีการโพสต์ข้อความถวายพระพร แต่อย่างใด มีแต่การลงภาพกิจกรรม ที่นายกฯ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจเท่านั้น และหลังจากที่เฟซบุ๊ก นายกรัฐมนตรี กระทำการนำพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 8 มาประกอบในข้อความเชิญชวนให้คนไทยร่วมถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 ธ.ค. จนมีการลบออกจากหน้าเพจ พร้อมกับมีการโพสต์ข้อความอธิบายในภายหลังว่า
"ด้วยทางทีมงานของเฟซบุ๊กนี้ ได้ดำเนินการผิดพลาด ในการขึ้นพระบรมฉายาลักษณ์ และได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แก้ไข และจะได้มีหนังสือกราบเรียน
ท่านราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดดังกล่าว"
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมิได้แสดงความเห็นใดๆในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ เพื่ออธิบาย หรือรับผิดชอบ ต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ของตัวเอง แม้ว่าจะมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปแสดงความเห็น เรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ตาม
**ตะลึง! รบ.สั่งเลิกแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม
ในขณะที่ปัญหาความผิดพลาด บนหน้าเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ยังไม่สิ้นเสียงวิจารณ์ รัฐบาลก็ดำเนินการในสิ่งที่สร้างความเคลือบแคลงใจ ต่อประชาชนครั้งใหม่ จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ในโซเชียลมีเดีย ไม่แพ้กรณีการลงพระบรมฉายาลักษณ์ผิดรัชกาล คือ การลดกิจกรรม ในส่วนการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม "วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช" ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ฝั่งพระบรมมหาราชวัง และการจัดฉายภาพยนตร์พาโนรามา สื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ " 84 ปี แห่งความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์" ตลอดแนวกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านถนนหน้าพระลาน ช่วงต้นถนนศาลหลักเมือง ถึงประตูวิเศษไชยศรี โดยมีการตัดกิจกรรมในส่วนนี้ลง จากเดิมมีกำหนดถึงวันที่ 9 ธ.ค. มาเป็นวันที่ 4 ธ.ค. เป็นวันสุดท้าย ซึ่งถือเป็นการยกเลิกแบบกระทันหัน
นายวชิรกรณ์ อาจคุ้มวงษ์ หรือ โบ๋ ซึ่งเป็นทีมงานและนักแสดงในการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม "วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช" ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @ BeauVajirakorn เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 5 ธ.ค. ว่า กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 งานยังมีอยู่ แต่การแสดงที่ถือเป็นไฮไลท์ของงาน ซึ่งจริงๆ ต้องแสดงจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. ยกเลิกตั้งแต่วันนี้ ( 5 ธ.ค.) เป็นต้นไป โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่การแสดงได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก แต่วันนี้นักแสดง และทีมงานรับทราบว่า มีคำสั่งให้ยกเลิก และไม่มีเหตุผลชี้แจงด้วย หลายฝ่ายก็งงกันไป
"จริงๆ วันที่ 5 ธ.ค. การแสดงจะเริ่มที่ 4 ทุ่มโดยประมาณ หลังพิธีจุดเทียนชัยฯ ครับ และไม่ได้เป็นข่าวลือแต่อย่างใด เพราะผมเป็นหนึ่งในทีมงาน และนักแสดงของการแสดงชุดนี้ครับ ตอนนี้ทางทีมงานเก็บของออกมากันหมดแล้วครับ มีอีกหลายคนที่สนใจ แต่ไม่ได้มาดูครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ไม่มีใครอยากให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่ายังมีส่วนอื่นๆ ที่สนามหลวงนะครับ แต่ขออย่าพูดอะไรกันไปเกินเลย จนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด อันไหนที่ไม่ทราบ ก็อย่าไปทึกทักเอาเองนะครับ สรุปง่ายๆว่า ชุดการแสดงไม่มีแล้วก็พอครับ"
ข้อความจากทวิตเตอร์ดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงตำหนิรัฐบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นอีกหนึ่งการกระทำที่ไม่เหมาะสม เหมือนมีเจตนาที่จะลบหลู่พระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไม่ต้องการให้ประชาชนได้ซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ทั้งๆที่ เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา
ตัวอย่างของประชาชนในโซเชียลมีเดีย ที่แสดงความเห็นเรื่องนี้ เช่น Tee Chanvud "รัฐบาลอาจจะกีดกันไม่ให้คนไทยแสดงความรักต่อพระองค์ท่านได้ แต่ 'ไม่' สามารถห้ามคนไทยรักและเคารพพระองค์ท่านได้หรอกครับ " BeBe Kunasinpongsa เพราะอะไร ควรชี้แจงด้วย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ จากรัฐบาล
ทั้งนี้ การแสดงดังกล่าว มีสองบริษัทดูแลมาตั้งแต่แรก คือ บริษัท ซี.เอ็ม.ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด และบริษัท คอมอาร์ตโปรดักชั่น จำกัด โดยจัดการแสดงคนละชุดกัน
***ปธ.กม.ปกป้องสถาบันฯเตรียมสอบ
พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.วรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หากพูดในแง่ของคนธรรมดา ก็อาจมีความผิดพลาดขึ้นได้ แต่คิดว่าการมาทำงานในระดับชาติควรระมัดระวังมากกว่านี้ และหากเป็นความผิดพลาดของทีมงานหรือออแกไนเซอร์ ก็ควรจะปลดผู้ที่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด ถือเป็นความบกพร่องของทีมงานไม่สามารถให้อภัยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ กมธ.ปกป้องสถาบันฯจะมีการดำเนินการสอบสวนในกรณีนี้ด้วยหรือไม่ พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังได้กำหนด แต่คาดว่าในการประชุมครั้งต่อไปอาจจะมี กมธ.บางคนนำประเด็นขึ้นมาหารือ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่ามีความเห็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่ากรที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีหนังสือกราบเรียนราชเลขาธิการ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ชี้แจงกรณีน้ต่อสาธารณชน อาจเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ขอให้นายกฯและทีมงานระมัดระวังให้มากกว่านี้ในอนาคต
“เห็นว่านายกฯควรจะเลิกใช้เฟสบุ๊คหรือสื่อออนไลน์ดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าอ่อนด้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานในระดับชาติ ปล่อยเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ไม่อยากมองว่าเป็นเจตนา เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร” พญ.พรพันธุ์ ระบุ
***“ยงยุทธ” อ้างน้ำท่วมไม่เหมาะจัดรื่นเริง
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการยกเลิกการจัดการแสดงแสง-สี-เสียง พาโนรามา ที่จัดแสดงอยู่ที่ริมกำแพงพระบรมมหาราชวังว่า ยอมรับว่ามีการยกเลิกจริง ทั้งนี้เพราะความเหมาะสม เนื่องด้วยประชาชนจำนวนมากยังคงเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม จึงไม่เหมาะหากมีงานรื่นเริง จึงต้องดูตามความเหมาะสม ต้องประหยัดไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หรือที่เรียกว่าทางสายกลางนั่นเอง
ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายยงยุทธในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลงานมหรสพสมโภชและนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในชื่องาน “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคมได้แจ้งว่า จะขอลดวันแสดงกิจกรรมกิจกรรมภาพยนต์พาโนรามาสื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ ชุด 84 ปี โดยจะจัดในคืนที่ 5 ธ.ค.เป็นวันสุดท้าย ขณะที่ กิจกรรมการแสดงแสงเสียงและสื่อผสม “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษามหาราชา” ได้จัดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.เป็นวันสุดท้ายแล้ว
สำหรับการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช และการฉายภาพพาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ถูกสั่งระงับอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า การสั่งระงับดังกล่าวเป็นความจริง โดยเป็นเรื่องของผู้ใหญ่แนะนำมาว่าในขณะนี้ประเทศไทยยังมีปัญหาน้ำท่วม แต่ การจัดงานดังกล่าวต้องใช้งบประมาณจำนวนมากหลายสิบล้านบาท จึงควรนำงบประมาณไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า ดังนั้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงตัวแทนสำนักพระราชวัง ได้ร่วมหารือกันในเรื่องนี้ และได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าควรลดจำนวนวันการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช ซึ่งได้จบไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่การฉายภาพพาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง จะมีในวันนี้(5 ธ.ค.) เป็นวันสุดท้าย รวมถึงยังมีการแสดงบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ “น้อมใจภักดิ์ รักพ่อ” โดยบรรดาศิลปินนักร้องชื่อดัง และกิจกรรมการแสดงพิเศษจากชีวิตจริง “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ยังมีอยู่ในวันนี้ตามกำหนดเดิม
นางฐิติมา กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมการแสดงที่จะมีไปถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้ คือ กิจกรรมการแสดง “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความผิดพลาดบนเฟซบุ๊ก ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเชิญชวนประชาชนร่วมถวายพระพร ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่กลับใช้พระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 8 ว่า ไม่คาดคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ของคนระดับนายกฯ
แม้ว่าเรื่องนี้จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของนายกฯ ในฐานะเจ้าของหรือทีมงานก็ตาม ตัวนายกฯ และทีมงานก็ควรมีวุฒิภาวะ และความรอบคอบ รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแม้ว่านายกฯ และทีมงานจะยอมรับ แต่เป็นเรื่องที่กระทบไปยังความรู้สึกของประชาชน และความเชื่อถือของประชาชน ที่มีต่อตัวนายกฯ ด้วย การที่นายกฯ จะมีหนังสือกราบบังคมทูล เพื่อขอพระราช
ทานอภัยโทษในข้อผิดพลาด ก็เป็นเรื่องดี แต่ก็ควรที่จะขอโทษต่อความรู้สึกของประชาชนคนไทยด้วย
"มีหลายครั้งที่ความผิดพลาดเกิดขึ้นเกี่ยวกับเฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ของตัวนายกฯ ถ้าหากว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นายกฯ ก็ควรที่จะงดใช้เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ ชั่วคราวไปจนกว่าจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ผมไม่อยากให้ความผิดพลาดของนายกฯ เกิดขั้นซ้ำซาก ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในทางตรงหรือทางอ้อม หรือสื่อสารผ่านสื่อใดๆ ทั้งสิ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เสียหายในฐานะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นความเสียหาย และขาดความน่าเชื่อถือต่อสถานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศด้วย" นายเทพไท กล่าว
**ส.ว.จี้"ยิ่งลักษณ์"ขอโทษประชาชน
นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า ต่อไปรัฐบาลต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกิจกรรมเทิดพระเกียรติต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิด และแม้รัฐบาลจะขอพระราชทานอภัยโทษไปแล้ว แต่ต่อไปต้องระวัง และถือว่ายังไม่พอ นายกฯ ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษกับประชาชนด้วย ที่จริงเรื่องผิดพลาดแบบนี้เป็นเรื่องน่าละอาย และที่ นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกฯ ออกมาอ้างว่า นายกฯไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นการดำเนินการของออแกนไนเซอร์ที่ว่าจ้างมาดูแลเฟซบุ๊กนั้น ไม่น่าอ้างขนาดนี้ ถือเป็นการซัดทอดให้ออแกไนเซอร์ ทั้งที่ในการพิจารณาจ้าง คนที่ว่าจ้างก็ต้องเลือกออแกไนเซอร์ที่มีประสบการณ์ และความรู้ด้วย ไม่ใช่พอผิดพลาดแล้วโบ้ยคนอื่น จึงเป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมเหตุสมผล กับเหตุที่เกิดขึ้น
"เรื่องนี้ต้องรับผิดชอบกันด้วย เพราะพลาดกันตลอด ตัวนายกฯ เองมีเรื่องพลาดทุกสัปดาห์ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะปล่อยผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อมาเกิดในช่วงวโรกาสสำคัญ รัฐบาลคงต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือออแกไนเซอร์ดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงว่า ไปเอาภาพมาจากไหน เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าออแกไนเซอร์ชี้แจงไม่ได้ รัฐบาลต้องเป็นคนชี้แจง เพราะประชาชนยังเกิดข้อสงสัย และกังขากันมาก และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอีกในอนาคต ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.ว. ยังไม่ได้หารือกัน เพราะเป็นช่วงวันหยุด คาดว่าในวันที่ 6 ธ.ค. ซึ่งเปิดทำการแล้ว จะได้พูดคุยกัน" นางตรึงใจ กล่าว
***เฟซบุ๊ก"ปู"ลงแต่ภาพกิจกรรมของตัวเอง
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งประกาศงดให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง 2 วัน นับตั้งแต่วันที่ 4-5 ธ.ค. ก็ยังไม่มีการโพสต์ข้อความใหม่ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยทีมงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ภาพภารกิจสุดท้ายของนายกฯ ขณะลงพื้นที่ จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พร้อมข้อความประชาสัมพันธ์ว่า นายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดโครงการ "คืนที่นาให้เกษตรกร" บ้านปากจั่น อ.นครหลวง จ. อยุธยา โดยมีแฟนคลับของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2 ราย เข้ามาแสดงความชื่นชม แต่อีกรายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า SO Thick Man Overcome the stupid! PM. V've ever be
นอกจากนี้ ในภาพกิจกรรมการลงพื้นที่ ที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่เป็นสารถี ถีบรถสามล้อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์นั่ง มีคนเข้าไปคลิกไลท์ 46 คน แต่ก็มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นทวงถามเรื่องเงินเยียวยา ผ่านเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ด้วย โดยผู้ที่ใช้ชื่อ อัคนี แสนบริสุทธ์ มีข้อความดังนี้
"ท่านครับ ช่วยเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือห้าพันบาท และค่าซ่อมแซมบ้าน ที่คลองหลวง ปทุมธานี ด่วนด้วยครับ"
เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีแฟนคลับของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปใช้หน้าเพจของนายกรัฐมนตรี ในการถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแม้แต่รายเดียว แม้กระทั่งทีมงานเฟซบุ๊ก ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้มีการโพสต์ข้อความถวายพระพร แต่อย่างใด มีแต่การลงภาพกิจกรรม ที่นายกฯ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจเท่านั้น และหลังจากที่เฟซบุ๊ก นายกรัฐมนตรี กระทำการนำพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 8 มาประกอบในข้อความเชิญชวนให้คนไทยร่วมถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 ธ.ค. จนมีการลบออกจากหน้าเพจ พร้อมกับมีการโพสต์ข้อความอธิบายในภายหลังว่า
"ด้วยทางทีมงานของเฟซบุ๊กนี้ ได้ดำเนินการผิดพลาด ในการขึ้นพระบรมฉายาลักษณ์ และได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แก้ไข และจะได้มีหนังสือกราบเรียน
ท่านราชเลขาธิการ เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดดังกล่าว"
อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมิได้แสดงความเห็นใดๆในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ เพื่ออธิบาย หรือรับผิดชอบ ต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก ของตัวเอง แม้ว่าจะมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปแสดงความเห็น เรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ตาม
**ตะลึง! รบ.สั่งเลิกแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม
ในขณะที่ปัญหาความผิดพลาด บนหน้าเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ยังไม่สิ้นเสียงวิจารณ์ รัฐบาลก็ดำเนินการในสิ่งที่สร้างความเคลือบแคลงใจ ต่อประชาชนครั้งใหม่ จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ในโซเชียลมีเดีย ไม่แพ้กรณีการลงพระบรมฉายาลักษณ์ผิดรัชกาล คือ การลดกิจกรรม ในส่วนการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม "วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช" ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง ฝั่งพระบรมมหาราชวัง และการจัดฉายภาพยนตร์พาโนรามา สื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ " 84 ปี แห่งความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์" ตลอดแนวกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านถนนหน้าพระลาน ช่วงต้นถนนศาลหลักเมือง ถึงประตูวิเศษไชยศรี โดยมีการตัดกิจกรรมในส่วนนี้ลง จากเดิมมีกำหนดถึงวันที่ 9 ธ.ค. มาเป็นวันที่ 4 ธ.ค. เป็นวันสุดท้าย ซึ่งถือเป็นการยกเลิกแบบกระทันหัน
นายวชิรกรณ์ อาจคุ้มวงษ์ หรือ โบ๋ ซึ่งเป็นทีมงานและนักแสดงในการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม "วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช" ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @ BeauVajirakorn เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 5 ธ.ค. ว่า กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 งานยังมีอยู่ แต่การแสดงที่ถือเป็นไฮไลท์ของงาน ซึ่งจริงๆ ต้องแสดงจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. ยกเลิกตั้งแต่วันนี้ ( 5 ธ.ค.) เป็นต้นไป โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่การแสดงได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก แต่วันนี้นักแสดง และทีมงานรับทราบว่า มีคำสั่งให้ยกเลิก และไม่มีเหตุผลชี้แจงด้วย หลายฝ่ายก็งงกันไป
"จริงๆ วันที่ 5 ธ.ค. การแสดงจะเริ่มที่ 4 ทุ่มโดยประมาณ หลังพิธีจุดเทียนชัยฯ ครับ และไม่ได้เป็นข่าวลือแต่อย่างใด เพราะผมเป็นหนึ่งในทีมงาน และนักแสดงของการแสดงชุดนี้ครับ ตอนนี้ทางทีมงานเก็บของออกมากันหมดแล้วครับ มีอีกหลายคนที่สนใจ แต่ไม่ได้มาดูครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ไม่มีใครอยากให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่ายังมีส่วนอื่นๆ ที่สนามหลวงนะครับ แต่ขออย่าพูดอะไรกันไปเกินเลย จนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด อันไหนที่ไม่ทราบ ก็อย่าไปทึกทักเอาเองนะครับ สรุปง่ายๆว่า ชุดการแสดงไม่มีแล้วก็พอครับ"
ข้อความจากทวิตเตอร์ดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงตำหนิรัฐบาลอย่างรุนแรงว่า เป็นอีกหนึ่งการกระทำที่ไม่เหมาะสม เหมือนมีเจตนาที่จะลบหลู่พระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไม่ต้องการให้ประชาชนได้ซาบซึ้งในพระราชกรณียกิจตลอดพระชนมชีพของพระองค์ ทั้งๆที่ เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องรณรงค์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา
ตัวอย่างของประชาชนในโซเชียลมีเดีย ที่แสดงความเห็นเรื่องนี้ เช่น Tee Chanvud "รัฐบาลอาจจะกีดกันไม่ให้คนไทยแสดงความรักต่อพระองค์ท่านได้ แต่ 'ไม่' สามารถห้ามคนไทยรักและเคารพพระองค์ท่านได้หรอกครับ " BeBe Kunasinpongsa เพราะอะไร ควรชี้แจงด้วย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ จากรัฐบาล
ทั้งนี้ การแสดงดังกล่าว มีสองบริษัทดูแลมาตั้งแต่แรก คือ บริษัท ซี.เอ็ม.ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด และบริษัท คอมอาร์ตโปรดักชั่น จำกัด โดยจัดการแสดงคนละชุดกัน
***ปธ.กม.ปกป้องสถาบันฯเตรียมสอบ
พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.วรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หากพูดในแง่ของคนธรรมดา ก็อาจมีความผิดพลาดขึ้นได้ แต่คิดว่าการมาทำงานในระดับชาติควรระมัดระวังมากกว่านี้ และหากเป็นความผิดพลาดของทีมงานหรือออแกไนเซอร์ ก็ควรจะปลดผู้ที่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด ถือเป็นความบกพร่องของทีมงานไม่สามารถให้อภัยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ กมธ.ปกป้องสถาบันฯจะมีการดำเนินการสอบสวนในกรณีนี้ด้วยหรือไม่ พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังได้กำหนด แต่คาดว่าในการประชุมครั้งต่อไปอาจจะมี กมธ.บางคนนำประเด็นขึ้นมาหารือ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่ามีความเห็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่ากรที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีหนังสือกราบเรียนราชเลขาธิการ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในข้อผิดพลาดดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามตนตั้งข้อสังเกตว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ชี้แจงกรณีน้ต่อสาธารณชน อาจเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ขอให้นายกฯและทีมงานระมัดระวังให้มากกว่านี้ในอนาคต
“เห็นว่านายกฯควรจะเลิกใช้เฟสบุ๊คหรือสื่อออนไลน์ดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าอ่อนด้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำงานในระดับชาติ ปล่อยเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ไม่อยากมองว่าเป็นเจตนา เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร” พญ.พรพันธุ์ ระบุ
***“ยงยุทธ” อ้างน้ำท่วมไม่เหมาะจัดรื่นเริง
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการยกเลิกการจัดการแสดงแสง-สี-เสียง พาโนรามา ที่จัดแสดงอยู่ที่ริมกำแพงพระบรมมหาราชวังว่า ยอมรับว่ามีการยกเลิกจริง ทั้งนี้เพราะความเหมาะสม เนื่องด้วยประชาชนจำนวนมากยังคงเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม จึงไม่เหมาะหากมีงานรื่นเริง จึงต้องดูตามความเหมาะสม ต้องประหยัดไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หรือที่เรียกว่าทางสายกลางนั่นเอง
ด้าน นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายยงยุทธในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลงานมหรสพสมโภชและนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ในชื่องาน “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคมได้แจ้งว่า จะขอลดวันแสดงกิจกรรมกิจกรรมภาพยนต์พาโนรามาสื่อผสมเฉลิมพระเกียรติ ชุด 84 ปี โดยจะจัดในคืนที่ 5 ธ.ค.เป็นวันสุดท้าย ขณะที่ กิจกรรมการแสดงแสงเสียงและสื่อผสม “วัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษามหาราชา” ได้จัดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.เป็นวันสุดท้ายแล้ว
สำหรับการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช และการฉายภาพพาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง ถูกสั่งระงับอย่างกระทันหันเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า การสั่งระงับดังกล่าวเป็นความจริง โดยเป็นเรื่องของผู้ใหญ่แนะนำมาว่าในขณะนี้ประเทศไทยยังมีปัญหาน้ำท่วม แต่ การจัดงานดังกล่าวต้องใช้งบประมาณจำนวนมากหลายสิบล้านบาท จึงควรนำงบประมาณไปช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมจะดีกว่า ดังนั้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงตัวแทนสำนักพระราชวัง ได้ร่วมหารือกันในเรื่องนี้ และได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าควรลดจำนวนวันการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่องวัฒนธรรมทองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 84 พรรษา มหาราช ซึ่งได้จบไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่การฉายภาพพาโนรามาที่กำแพงพระบรมมหาราชวัง จะมีในวันนี้(5 ธ.ค.) เป็นวันสุดท้าย รวมถึงยังมีการแสดงบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ “น้อมใจภักดิ์ รักพ่อ” โดยบรรดาศิลปินนักร้องชื่อดัง และกิจกรรมการแสดงพิเศษจากชีวิตจริง “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ยังมีอยู่ในวันนี้ตามกำหนดเดิม
นางฐิติมา กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมการแสดงที่จะมีไปถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้ คือ กิจกรรมการแสดง “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้