เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนเตือน ภาวะชะลอตัวทั่วโลกกำลังคุกคามเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกันนี้ปักกิ่งยังมีคำเตือนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ปรับระบบบริหารจัดการทางสังคม เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์ไม่สงบอันเป็นผลพวงด้านลบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (4) โดยอ้างคำเตือนของหวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ร้ายแรงและซับซ้อน บ่งชี้ว่าดีมานด์ทั่วโลกจะลดลงรุนแรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เพื่อประคับประคองการส่งออก บริษัทจีนควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีขีดความสามารถแข่งขันมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลจะผ่อนคลายภาระด้านภาษีสำหรับผู้ส่งออก ตลอดจนให้การสนับสนุนด้านการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิสาหกิจขนาดเล็ก
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของจีนในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 157,490 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.9% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ลดลงจากระดับ 169,700 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เนื่องจากอุปสงค์ลดลงอันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายในยุโรปและสหรัฐฯ
ข้อมูลนี้ประกอบกับรายงานที่เปิดเผยออกมาในวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (1) ที่ระบุว่า กิจกรรมการผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนพฤศจิกายนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 33 เดือน รวมถึงข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่เอชเอสบีซีเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (5) ที่บ่งชี้ว่าภาคบริการแดนมังกรมีอัตราเติบโตต่ำสุดในรอบ 3 เดือนนั้น ช่วยกันกระตุ้นความกังวลว่า มหาอำนาจเอเชียแห่งนี้กำลังเสียศูนย์
สัปดาห์ที่แล้ว ปักกิ่งประกาศลดสัดส่วนทุนสำรองที่แบงก์พาณิชย์ต้องฝากเอาไว้กับแบงก์ชาติลงมาเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและผลักดันการเติบโต เป็นการรับมือสัญญาณเตือนภัยภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และวิกฤตในตลาดส่งออกสำคัญ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์ เฉิน เต๋อหมิง ยังแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้การเติบโตของจีนลดลงเล็กน้อยในปีหน้า
อนึ่ง ไตรมาส 3 ของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9.1% ลดลงจาก 9.5% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 9.7% ในไตรมาสแรก
ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ (2) มีรายงานว่า โจว หย่งคัง สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ทางภาคเหนือของประเทศว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับระบบบริหารจัดการทางสังคมที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจแนวสังคมนิยมของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มบุคลากรในระดับชุมชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบแง่ลบจากการเติบโตชะลอตัว
คำพูดเช่นนี้ของโจว ซึ่งเป็นบิ๊กบอสด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของแดนมังกร ตอกย้ำความกังวลของปักกิ่งว่า ภาวะชะลอตัวอาจนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ มีการประท้วงขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้งในศูนย์กลางการผลิตทางใต้ของประเทศ จากการเผชิญหน้าระหว่างพนักงานกับนายจ้างที่ถูกกดดันจากต้นทุนที่พุ่งขึ้นแต่การส่งออกลดต่ำตามดีมานด์ที่ตกฮวบในชาติตะวันตกที่มีปัญหาหนี้รุนแรง
ตัวอย่างเช่นเดือนที่แล้ว มีพนักงานกว่า 7,000 คนในมณฑลกวางตุ้งนัดหยุดงานเพื่อประท้วงการเลิกจ้างและการลดเงินเดือน ส่งผลให้โรงงานแห่งหนึ่งที่ผลิตรองเท้านิวบาลานซ์ อาดิดาส และไนกี้ ต้องหยุดการผลิต นอกจากนั้น ยังเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (4) โดยอ้างคำเตือนของหวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ร้ายแรงและซับซ้อน บ่งชี้ว่าดีมานด์ทั่วโลกจะลดลงรุนแรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เพื่อประคับประคองการส่งออก บริษัทจีนควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีขีดความสามารถแข่งขันมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลจะผ่อนคลายภาระด้านภาษีสำหรับผู้ส่งออก ตลอดจนให้การสนับสนุนด้านการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิสาหกิจขนาดเล็ก
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของจีนในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 157,490 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.9% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ลดลงจากระดับ 169,700 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เนื่องจากอุปสงค์ลดลงอันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเลวร้ายในยุโรปและสหรัฐฯ
ข้อมูลนี้ประกอบกับรายงานที่เปิดเผยออกมาในวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (1) ที่ระบุว่า กิจกรรมการผลิตทางอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนพฤศจิกายนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 33 เดือน รวมถึงข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่เอชเอสบีซีเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (5) ที่บ่งชี้ว่าภาคบริการแดนมังกรมีอัตราเติบโตต่ำสุดในรอบ 3 เดือนนั้น ช่วยกันกระตุ้นความกังวลว่า มหาอำนาจเอเชียแห่งนี้กำลังเสียศูนย์
สัปดาห์ที่แล้ว ปักกิ่งประกาศลดสัดส่วนทุนสำรองที่แบงก์พาณิชย์ต้องฝากเอาไว้กับแบงก์ชาติลงมาเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและผลักดันการเติบโต เป็นการรับมือสัญญาณเตือนภัยภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และวิกฤตในตลาดส่งออกสำคัญ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์ เฉิน เต๋อหมิง ยังแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงฯ เมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้การเติบโตของจีนลดลงเล็กน้อยในปีหน้า
อนึ่ง ไตรมาส 3 ของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9.1% ลดลงจาก 9.5% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 9.7% ในไตรมาสแรก
ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ (2) มีรายงานว่า โจว หย่งคัง สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ทางภาคเหนือของประเทศว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับระบบบริหารจัดการทางสังคมที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจแนวสังคมนิยมของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มบุคลากรในระดับชุมชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบแง่ลบจากการเติบโตชะลอตัว
คำพูดเช่นนี้ของโจว ซึ่งเป็นบิ๊กบอสด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของแดนมังกร ตอกย้ำความกังวลของปักกิ่งว่า ภาวะชะลอตัวอาจนำมาซึ่งความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ มีการประท้วงขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้งในศูนย์กลางการผลิตทางใต้ของประเทศ จากการเผชิญหน้าระหว่างพนักงานกับนายจ้างที่ถูกกดดันจากต้นทุนที่พุ่งขึ้นแต่การส่งออกลดต่ำตามดีมานด์ที่ตกฮวบในชาติตะวันตกที่มีปัญหาหนี้รุนแรง
ตัวอย่างเช่นเดือนที่แล้ว มีพนักงานกว่า 7,000 คนในมณฑลกวางตุ้งนัดหยุดงานเพื่อประท้วงการเลิกจ้างและการลดเงินเดือน ส่งผลให้โรงงานแห่งหนึ่งที่ผลิตรองเท้านิวบาลานซ์ อาดิดาส และไนกี้ ต้องหยุดการผลิต นอกจากนั้น ยังเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ