00 สำหรับ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ คงนึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้อีกจนได้ เมื่อ กกต.ลงมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ให้พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. และเสนอให้ศาลรธน.ตีความเพื่อความชัวร์อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี เจ้าตัวคงต้องช็อก เพราะต้องมาสะดุดเอาดื้อๆแบบนี้ เป็นใครก็คงรับไม่ได้ ที่ผ่านมาถือว่าเขาได้เริ่มสะสมแต้ม ไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบทบาทในสภาเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงด้วยกัน ถือว่าล้ำหน้าไปหลายช่วงตัว แม้แต่เทียบกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ตาม ความเขี้ยวในสภาที่สะสมมานานกว่า แทบจะเทียบกันคนละเรื่อง
00 แม้ว่าในทางกฎหมายจะต้องว่ากันอีกพักหนึ่ง กว่าจะส่งไปให้ประธานรัฐสภาส่งให้ศาลรธน. แล้วกว่าที่ศาลจะตัดสินตีความออกมาต้องใช้เวลา แต่ในเมื่อเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่มีอะไรซับซ้อน คงจะพิจารณาได้รวดเร็ว แต่คำถามก็คือ ในเวลานับจากนี้ไปเขาจะดิ้นรนต่อไปอย่างไร
00 กรณีถูก กกต.ชี้ว่าพ้นสภาพในช่วงเวลานี้ สำหรับ ตู่ แล้วถือว่าเสียหายหลายแสน เพราะมีแนวโน้มสูงว่าจะพ้นจากเก้าอี้ ส.ส. แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ คดีความที่ตามมาเป็นหางว่าว โดย “ไม่มีเอกสิทธิ์” ส.ส.คุ้มครอง ซึ่งที่ผ่านมาเขาได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้มาใช้เพื่อซื้อเวลา นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา หลายคดีที่ค้างเติ่งอยู่ก็ต้องเดินหน้า ถึงได้บอกว่าสำหรับ จตุพร คิดว่าต้องเจ็บปวดรวดร้าวแน่นอน
00 ขณะที่ กกต.เที่ยวนี้ถือว่าก็ต้องตำหนิเช่นเดียวกัน เพราะปล่อยเรื่องลากยาวมานานเกือบครึ่งปี ทั้งที่น่าจะเร่งวินิจฉัยให้จบตั้งแต่แรก นี่กลับปล่อยเอาไว้ ให้จตุพร สร้างความวุ่นวายปั่นป่วนทั้งในและนอกสภา ทั้งที่เรื่องราวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงแค่ความผิดทางกฎหมาย ไม่ต้องค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเห็นหลังลงมติเป็นเสียงข้างน้อยของ สดศรี สัตยธรรม ถือว่าไร้น้ำหนัก และ “ไม่น่าเชื่อถือ” เอาเสียเลย
00 สังเกตหรือไม่ว่า ช่วงเวลาสองสามเดือนมานี้ เฉลิม อยู่บำรุง พยายามสะสมแต้มอย่างถี่ยิบ โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้ หากพิจารณากันอย่างผิวเผินนับว่าโดดเด่นกว่าใคร ล่าสุดกำลังไล่ถลุง “ปลัดพันล้าน” สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เพื่อกระทบชิ่งไปถึงขั้วอำนาจเก่า และส่งนับไปถึงรัฐบาลยุคพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเบี่ยงเบนความล้มเหลวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้เข้าตาพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร แอบฝันเรื่อง “นายกฯส้มหล่น” หรือขี้หมูขี้หมาหากมีการปรับครม. ก็หวังในใจว่าอาจได้ตำแหน่งรัฐมนตรีมีอำนาจมากกว่าลอยๆในเก้าอี้รองนายกฯ ใช่ คนเรามีสิทธิ์ฝันกันได้ !!
00 แม้ว่าในทางกฎหมายจะต้องว่ากันอีกพักหนึ่ง กว่าจะส่งไปให้ประธานรัฐสภาส่งให้ศาลรธน. แล้วกว่าที่ศาลจะตัดสินตีความออกมาต้องใช้เวลา แต่ในเมื่อเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่มีอะไรซับซ้อน คงจะพิจารณาได้รวดเร็ว แต่คำถามก็คือ ในเวลานับจากนี้ไปเขาจะดิ้นรนต่อไปอย่างไร
00 กรณีถูก กกต.ชี้ว่าพ้นสภาพในช่วงเวลานี้ สำหรับ ตู่ แล้วถือว่าเสียหายหลายแสน เพราะมีแนวโน้มสูงว่าจะพ้นจากเก้าอี้ ส.ส. แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ คดีความที่ตามมาเป็นหางว่าว โดย “ไม่มีเอกสิทธิ์” ส.ส.คุ้มครอง ซึ่งที่ผ่านมาเขาได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้มาใช้เพื่อซื้อเวลา นอกเหนือจากนี้ ยังเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา หลายคดีที่ค้างเติ่งอยู่ก็ต้องเดินหน้า ถึงได้บอกว่าสำหรับ จตุพร คิดว่าต้องเจ็บปวดรวดร้าวแน่นอน
00 ขณะที่ กกต.เที่ยวนี้ถือว่าก็ต้องตำหนิเช่นเดียวกัน เพราะปล่อยเรื่องลากยาวมานานเกือบครึ่งปี ทั้งที่น่าจะเร่งวินิจฉัยให้จบตั้งแต่แรก นี่กลับปล่อยเอาไว้ ให้จตุพร สร้างความวุ่นวายปั่นป่วนทั้งในและนอกสภา ทั้งที่เรื่องราวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงแค่ความผิดทางกฎหมาย ไม่ต้องค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเห็นหลังลงมติเป็นเสียงข้างน้อยของ สดศรี สัตยธรรม ถือว่าไร้น้ำหนัก และ “ไม่น่าเชื่อถือ” เอาเสียเลย
00 สังเกตหรือไม่ว่า ช่วงเวลาสองสามเดือนมานี้ เฉลิม อยู่บำรุง พยายามสะสมแต้มอย่างถี่ยิบ โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้ หากพิจารณากันอย่างผิวเผินนับว่าโดดเด่นกว่าใคร ล่าสุดกำลังไล่ถลุง “ปลัดพันล้าน” สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เพื่อกระทบชิ่งไปถึงขั้วอำนาจเก่า และส่งนับไปถึงรัฐบาลยุคพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเบี่ยงเบนความล้มเหลวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้เข้าตาพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร แอบฝันเรื่อง “นายกฯส้มหล่น” หรือขี้หมูขี้หมาหากมีการปรับครม. ก็หวังในใจว่าอาจได้ตำแหน่งรัฐมนตรีมีอำนาจมากกว่าลอยๆในเก้าอี้รองนายกฯ ใช่ คนเรามีสิทธิ์ฝันกันได้ !!
