ปรับเกณฑ์ออกหุ้นกู้ให้รัดกุม

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจระดมทุนในรูปของการออกหุ้นกู้ระยะสั้นมากขึ้นแทนการออกตั๋วเงิน เนื่องจากหุ้นกู้ระยะสั้นเป็นตราสารที่ออกง่าย มีต้นทุนต่ำ สามารถออกต่อเนื่องให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้เงินของภาคธุรกิจได้โดยไม่มีความเสี่ยงด้านกฎหมายในหลายด้านเหมือนตั๋วเงิน ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกหุ้นกู้ระยะสั้นให้มีความสะดวกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมบางประการสำหรับตั๋วเงิน เพื่อให้มีการใช้เครื่องมือทางการเงินตรงตามวัตถุประสงค์และลักษณะของตราสารแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจจนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 54
โดยหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะสั้นที่จะปรับปรุงให้มีความสะดวกแก่ผู้ออกหลักทรัพย์ยิ่งขึ้น ได้แก่ (1) อนุญาตให้ผู้ออกสามารถจัดทำแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบ filing) โดยอ้างอิงแบบที่ได้ยื่นกับ ก.ล.ต. และเปิดเผยต่อสาธารณชนไว้แล้วไม่เกิน 1 ปี (2) ลดระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของแบบ filing เหลือ 5 วันทำการ และหากผู้ออกเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งออกตราสารที่ไม่ซับซ้อนหรือมีลักษณะเหมือนตราสารที่เคยออกไปก่อนหน้า ระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของแบบ filing จะเหลือเพียง 1 วันทำการ (3) ผ่อนคลายให้ผู้ออกที่เป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน สามารถยื่นงบการเงินต่อ ก.ล.ต. ตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลหลักกำหนดไว้ได้ และ (4) อนุญาตให้ผู้ออกสามารถใช้ผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ออกตราสาร ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศได้
สำหรับการกำกับดูแลการออกตั๋วเงิน มีหลักการที่จะป้องกันไม่ให้ตั๋วเงินกระจายไปสู่ผู้ลงทุนรายย่อยในวงกว้าง เนื่องจากตั๋วเงินมีความเสี่ยงด้านกฎหมายที่ผู้สลักหลังตั๋วเงินอาจถูกไล่เบี้ยโดยผู้ซื้อในทอดต่อไป และตั๋วเงินที่มีอนุพันธ์แฝงยังมีความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นตั๋วเงินที่ออกโดยสถาบันการเงิน ผู้ลงทุนอาจเข้าใจผิดว่าตั๋วเงินจะได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้
ดังนั้น แนวทางของหลักเกณฑ์การกำกับดูแลตั๋วเงินที่จะกำหนดต่อไป คือ ให้ตั๋วเงินทุกประเภทที่ออกเพื่อระดมทุนจากประชาชนทั่วไป เป็นหลักทรัพย์และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. (โดยยังคงยกเว้นตั๋วเงินบางประเภทที่ไม่เป็นหลักทรัพย์ เช่น ตั๋วเงินที่ออกเพื่อชำระหนี้การค้า ตั๋วเงินที่บริษัทออกเพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินและเปลี่ยนมือไม่ได้ เป็นต้น) โดยตั๋วเงินที่เป็นหลักทรัพย์จะต้องมีลักษณะดังนี้ (1) มีมูลค่าหน้าตั๋วขั้นต่ำ 10 ล้านบาท (2) มีเงื่อนไขห้ามเปลี่ยนมือ (3) ไม่มีอนุพันธ์แฝง และ (4) มีคำเตือนหน้าตั๋วและเอกสารประกอบการขายว่าตั๋วเงินดังกล่าวไม่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารแสดงความคิดเห็นและร่างประกาศไว้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียดและแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่เว็บไซต์ดังกล่าว หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2695-9856 หรือทางอีเมล์ที่ msec@sec.or.th