00 คิดว่าเสียงวิจารณ์เสียงด่าของชาวบ้านที่ต้องจมอยู่กับน้ำเน่าขังอยู่ในบ้านนานนับเดือนคงจะเข้าหู นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ให้ได้ยินกันบ้าง หลังจากที่สภาเสียงข้างมากลงมติอุ้ม “ฟอก” ดำให้เป็นขาว ผ่านการการันตีว่า แก้ปัญหา บริหารจัดการน้ำได้อย่างดียิ่ง จนต้องลงมติโหวตหนุนไว้วางใจให้อยู่ในตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
00 แม้ว่าปากแข็งกันอย่างไร “เลีย” กันอย่างไรก็ตาม แต่รับรองว่าสามัญสำนึก แม้จะสักกระผีกหนึ่งก็คงคิดได้บ้างว่า สิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นมันสวนทางกับความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ว่าใครก็ตามถ้าได้ยินการอภิปรายในสภาของ พล.ต.อ.ประชา ถือว่า ไม่ได้ความ เพราะไม่ได้ชี้แจงหรืออธิบายข้อกล่าวหาใดๆ เลย อาจเป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน ล้มเหลวจนพูดไม่ออก นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสภา แต่ขณะเดียวกันลองไปถามความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป ไม่ต้องไปนับรวมเอาชาวบ้านที่เขากำลังเดือดร้อนก็ได้ น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนว่า เขานี่แหละที่เป็นตัวการของความล้มเหลว ทำให้เกิดหายนะได้อย่างไม่น่าเชื่อ
00 หากบอกว่า พล.ต.อ.ประชา ล้มเหลว คนที่สมควรที่ต้องรับผิดชอบหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ยิ่งลักษณ์ นั่นเอง เพราะในฐานะนายกฯ เป็นคนแต่งตั้งเป็น ผอ.ศปภ. อีกทั้งในทางปฏิบัติเธอก็เข้ามาเป็นประธาน นั่งหัวโต๊ะทุกครั้ง อีกทั้งสาเหตุที่แต่งตั้ง พล.ต.อ.ประชา นั้นเป็นเพราะต้องการให้มาเป็น “หนังหน้าไฟ” จนไหม้เกรียมไปเท่านั้นเอง
00 นาทีนี้ไม่ต้องไปถามถึงเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี เพราะคำตอบที่ได้รับทันควันก็คือ ไม่ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแรงกระเพื่อมภายใน จะเกิดการแย่งเก้าอี้กันวุ่นวาย เพราะในเมื่อคนอย่างเอ็งเป็น รมต.ได้ ทำไมคนอย่างข้าถึงเป็นบ้างไม่ได้ ในเมื่อดูสติปัญญาไล่เรียงกันแต่ละคนแล้วมันไม่ได้แตกต่างกัน นอกจากนี้คำถามที่น่ารำคาญใจอีกก็คือ ในเมื่อจะปรับครม.แล้วทำไมไม่เอา ปู-ยิ่งลักษณ์ ออกไป เพราะนี่แหละคือตัวปัญหาที่สร้างความล้มเหลว และไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง แค่นี้ปัญหาก็บรรเทาลง
00 สังเกตหรือไม่ว่าเวลานี้สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้พยายาม “เบี่ยงเบน” หันเหความสนใจออกไปให้มากที่สุด ทำเหมือนกับว่าน้ำได้ลดลงจน “แห้งสนิท” ไปแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ในพื้นที่รอบนอก ทั้งที่ปทุมธานี นนทบุรี รวมไปนครปฐม หรือแม้แต้ด้านเหนือขึ้นไป เช่น อยุธยา บางอำเภอ ระดับน้ำก็ยังท่วมขัง เน่าเสียจนไม่รู้ว่าจะเน่ายังไงแล้ว
00 ปัญหานับจากนี้จะเริ่มประดังเข้ามาและประจานความสามารถของ นายกฯยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่าเป็นอย่างไร เท่าที่เห็นก็คือปัญหาการ “เลิกจ้าง” ซึ่งเริ่มทยอยให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำเป็นเวลานาน ล่าสุดที่นิคมโรจนะ ได้ลอยแพคนงานเมื่อวันที่ 28 พ.ย. วันเดียวเกือบ 2 พันคน และคาดว่ากำลังจะตามมาอีกหลายแห่ง ถามว่า รมว.แรงงาน เผดิมชัย สะสมทรัพย์ เตรียมรับมือเอาไว้อย่างไร นาทีนี้คงไม่ต้องมาคิดเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาทกันแล้ว แค่มีงานทำ มีรายได้ก็บุญโขแล้ว
00 นั่นเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่รัฐบาลหนีไม่พ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องอาชญากรรม ปัญหาเรื่องข้าวของแพง ความขัดสนทางเศรษฐกิจ การย้ายฐานการลงทุน และสุดท้ายการกู้เงิน การฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งแต่ละหน่วยงานกำลังหมายมั่นปั้นมือ และเชื่อขนมกินไว้ล่วงหน้าก็คือจะต้องมีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอน เพราะขนาดถุงยังชีพที่มีเงินจำนวนเล็กน้อย มันยังไม่เว้น แล้วงบประมาณนับพันนับหมื่นล้านบาท มันจะไปเหลืออะไร !!
00 จะเรียกว่ากรรมตามทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับ “ปลัดพันล้าน” สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เนื่องจากเวลานี้โดนรุกฆาตเข้ามาจากรอบทิศ ล่าสุดทาง ป.ป.ช.ได้เข้าตรวจค้นบ้าน และงานนี้น่าจะเจอของจริง อีกทั้งยังต้องเจอกับจอม “แบล็กเมล์” ชื่อดังเจ้าเก่าอย่าง เฉลิม อยู่บำรุง รู้กันอยู่ว่าเรื่องนี้มีแต่กำไร หนึ่ง เบี่ยงเบนจากความล้มเหลวเรื่องน้ำท่วมให้ ยิ่งลักษณ์ สอง ถล่มขั้วการเมืองกลุ่ม “ห้อย-เทือก” ให้จมดิน เป็นการล้างแค้นเก่าให้แม้ว สาม สร้างราคาโชว์ผลงานให้ตัวเอง มีแต่ได้ไม่มีเสีย รับรองว่าเหลิมลุยเต็มที่อยู่แล้ว!!
00 แม้ว่าปากแข็งกันอย่างไร “เลีย” กันอย่างไรก็ตาม แต่รับรองว่าสามัญสำนึก แม้จะสักกระผีกหนึ่งก็คงคิดได้บ้างว่า สิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นมันสวนทางกับความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ว่าใครก็ตามถ้าได้ยินการอภิปรายในสภาของ พล.ต.อ.ประชา ถือว่า ไม่ได้ความ เพราะไม่ได้ชี้แจงหรืออธิบายข้อกล่าวหาใดๆ เลย อาจเป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน ล้มเหลวจนพูดไม่ออก นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสภา แต่ขณะเดียวกันลองไปถามความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป ไม่ต้องไปนับรวมเอาชาวบ้านที่เขากำลังเดือดร้อนก็ได้ น่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนว่า เขานี่แหละที่เป็นตัวการของความล้มเหลว ทำให้เกิดหายนะได้อย่างไม่น่าเชื่อ
00 หากบอกว่า พล.ต.อ.ประชา ล้มเหลว คนที่สมควรที่ต้องรับผิดชอบหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ยิ่งลักษณ์ นั่นเอง เพราะในฐานะนายกฯ เป็นคนแต่งตั้งเป็น ผอ.ศปภ. อีกทั้งในทางปฏิบัติเธอก็เข้ามาเป็นประธาน นั่งหัวโต๊ะทุกครั้ง อีกทั้งสาเหตุที่แต่งตั้ง พล.ต.อ.ประชา นั้นเป็นเพราะต้องการให้มาเป็น “หนังหน้าไฟ” จนไหม้เกรียมไปเท่านั้นเอง
00 นาทีนี้ไม่ต้องไปถามถึงเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี เพราะคำตอบที่ได้รับทันควันก็คือ ไม่ เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแรงกระเพื่อมภายใน จะเกิดการแย่งเก้าอี้กันวุ่นวาย เพราะในเมื่อคนอย่างเอ็งเป็น รมต.ได้ ทำไมคนอย่างข้าถึงเป็นบ้างไม่ได้ ในเมื่อดูสติปัญญาไล่เรียงกันแต่ละคนแล้วมันไม่ได้แตกต่างกัน นอกจากนี้คำถามที่น่ารำคาญใจอีกก็คือ ในเมื่อจะปรับครม.แล้วทำไมไม่เอา ปู-ยิ่งลักษณ์ ออกไป เพราะนี่แหละคือตัวปัญหาที่สร้างความล้มเหลว และไร้ความสามารถอย่างสิ้นเชิง แค่นี้ปัญหาก็บรรเทาลง
00 สังเกตหรือไม่ว่าเวลานี้สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้พยายาม “เบี่ยงเบน” หันเหความสนใจออกไปให้มากที่สุด ทำเหมือนกับว่าน้ำได้ลดลงจน “แห้งสนิท” ไปแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ในพื้นที่รอบนอก ทั้งที่ปทุมธานี นนทบุรี รวมไปนครปฐม หรือแม้แต้ด้านเหนือขึ้นไป เช่น อยุธยา บางอำเภอ ระดับน้ำก็ยังท่วมขัง เน่าเสียจนไม่รู้ว่าจะเน่ายังไงแล้ว
00 ปัญหานับจากนี้จะเริ่มประดังเข้ามาและประจานความสามารถของ นายกฯยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่าเป็นอย่างไร เท่าที่เห็นก็คือปัญหาการ “เลิกจ้าง” ซึ่งเริ่มทยอยให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำเป็นเวลานาน ล่าสุดที่นิคมโรจนะ ได้ลอยแพคนงานเมื่อวันที่ 28 พ.ย. วันเดียวเกือบ 2 พันคน และคาดว่ากำลังจะตามมาอีกหลายแห่ง ถามว่า รมว.แรงงาน เผดิมชัย สะสมทรัพย์ เตรียมรับมือเอาไว้อย่างไร นาทีนี้คงไม่ต้องมาคิดเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาทกันแล้ว แค่มีงานทำ มีรายได้ก็บุญโขแล้ว
00 นั่นเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งที่รัฐบาลหนีไม่พ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องอาชญากรรม ปัญหาเรื่องข้าวของแพง ความขัดสนทางเศรษฐกิจ การย้ายฐานการลงทุน และสุดท้ายการกู้เงิน การฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งแต่ละหน่วยงานกำลังหมายมั่นปั้นมือ และเชื่อขนมกินไว้ล่วงหน้าก็คือจะต้องมีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอน เพราะขนาดถุงยังชีพที่มีเงินจำนวนเล็กน้อย มันยังไม่เว้น แล้วงบประมาณนับพันนับหมื่นล้านบาท มันจะไปเหลืออะไร !!
00 จะเรียกว่ากรรมตามทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับ “ปลัดพันล้าน” สุพจน์ ทรัพย์ล้อม เนื่องจากเวลานี้โดนรุกฆาตเข้ามาจากรอบทิศ ล่าสุดทาง ป.ป.ช.ได้เข้าตรวจค้นบ้าน และงานนี้น่าจะเจอของจริง อีกทั้งยังต้องเจอกับจอม “แบล็กเมล์” ชื่อดังเจ้าเก่าอย่าง เฉลิม อยู่บำรุง รู้กันอยู่ว่าเรื่องนี้มีแต่กำไร หนึ่ง เบี่ยงเบนจากความล้มเหลวเรื่องน้ำท่วมให้ ยิ่งลักษณ์ สอง ถล่มขั้วการเมืองกลุ่ม “ห้อย-เทือก” ให้จมดิน เป็นการล้างแค้นเก่าให้แม้ว สาม สร้างราคาโชว์ผลงานให้ตัวเอง มีแต่ได้ไม่มีเสีย รับรองว่าเหลิมลุยเต็มที่อยู่แล้ว!!