ASTVผู้จัดการรายวัน -กทม.เผยสถานการณ์น้ำท่วมลดลงเล็กน้อย ดอนเมืองลดอีก 3 ซม. เฝ้าระวังสุขาภิบาลอาหารให้ประชาชน เน้นความสะอาดปลอดโรค เผยผู้ประภัยน้ำท่วมเครียดสูงกว่า 7 พันราย ด้าน สธ.คาดฟื้นฟูทุกพื้นที่เสร็จใน 45 วัน
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 27 พ.ย.2554 โดยสถานการณ์น้ำเหนือ ระดับน้ำเจ้าพระยาที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาอยู่ที่ 3.17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ลดลงจากวันที่ 26 พ.ย. 6 ซม. ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูง เวลา 10.00น.ระดับ 1.35 ม.ทรก.ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด สูงสุด เวลา 08.15น. อยู่ที่ระดับ 2.15 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 65 ซม. ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่เขตดอนเมือง กทม. ระดับน้ำลดลง 3 ซม. ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ระดับน้ำลดลง 2 ซม. ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
"ภาพรวมสถานการณ์น้ำในคลองในพื้นที่ กทม. 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่า คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-7 ซม. คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 5-7 ซม.คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม.คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม. คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน คลองควาย ระดับน้ำทรงตัว ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม."
นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงอย่างน่าพอใจ หวังว่าจะสร้างความสุขให้กับชาวดอนเมือง และไม่เป็นเขตสุดท้ายของ กทม. ที่น้ำจะแห้งตามที่คาดการณ์ไว้ ล่าสุดน้ำได้ลดลงอีก 3 ซม. แต่ระดับน้ำโดยเฉลี่ยในพื้นที่ยังท่วมขังสูงประมาณ 20-45 ซม. โดยจุดท่วมสูงสุดอยู่ที่ถนนสรงประภา ประมาณ 45 ซม. ซึ่งเป็นผลมาจากการสูบน้ำในพื้นที่ลงคลองเปรมประชากรและคลองรังสิตประยูรศักดิ์
***กทม.ให้ระวังอาหารการกิน
วานนี้ ( 27พ.ย.) นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงการฟื้นฟูการสุขาภิบาลอาหารในสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหารภายหลังน้ำท่วม ว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในการคุ้มครองความปลอดภัยและเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาลอาหารของประชาชน โดยเน้นด้านสถานที่ผลิตและสถานที่จำหน่ายอาหารหลังน้ำลด ไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ 1.ร้านจำหน่ายอาหาร ควรทำความสะอาดพื้นและผนังห้องครัว ห้องอาหาร โต๊ะอาหาร และรางระบายน้ำด้วยน้ำยาล้างทำความสะอาด จากนั้นใช้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและใช้น้ำสะอาดล้าง ส่วนภาชนะอุปกรณ์ที่ถูกน้ำท่วม ให้ล้างด้วยน้ำยาล้างจานและล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง แล้วแช่คลอรีนไว้อย่างน้อย 2 นาที จากนั้นผึ่งแดดให้แห้ง 2.ซูเปอร์มาเก็ต มินิมาร์ท ร้านขายของชำ ให้เคลื่อนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ที่ย้ายได้ออกจากบริเวณที่รับสินค้า ห้องเก็บสินค้า ห้องตัดแต่ง ห้องบรรจุ ไปทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยการเริ่มจากที่สูงไปยังที่ต่ำ ส่วนห้องแช่เย็นสินค้าหรือตู้แช่ต้องตัดระบบไฟฟ้าก่อนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค และต้องมีการตรวจสอบระบบอุปกรณ์ทำความเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน รวมถึงบริเวณที่วางจำหน่ายสินค้าด้วย
3.ตลาด ควรทำความสะอาดโดยการกำจัดคราบสกปรก และฆ่าเชื้อโรค บริเวณต่างๆ อาทิ เพดาน ผนัง แผงจำหน่ายสินค้า พื้น รางระบายน้ำ ทางเดิน บ่อดักไขมัน โดยเฉพาะแผงจำหน่ายอาหารต้องล้างทำความสะอาดเป็นพิเศษ รวมทั้งฉีดน้ำล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และ 4. ส่วนแผงจำหน่ายอาหารริมบาทวิถีนั้นให้ล้างทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างตามแผงจำหน่าย (รถเข็น) และอุปกรณ์ นอกจากนี้ควรล้างทำความสะอาดภาชนะและอุปกรณ์ ที่ใช้สัมผัสอาหาร ล้างด้วยวิธี 3 ขั้นตอน คือ ล้างด้วยน้ำยาล้างภาชนะและน้ำสะอาด 2 ครั้ง ลวกภาชนะด้วยน้ำร้อนหรือแช่น้ำคลอรีนนาน 2 นาที และเก็บให้แห้งในที่โปร่งโดยไม่ใช้ผ้าเช็ด
**สธ.เร่งฟื้นฟูทุกพื้นที่เสร็จใน 45 วัน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบมากถึง 64 จังหวัด หรือประมาณ 80 % ของพื้นที่ประเทศ ขณะนี้สถานการณ์ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายลง ยังเหลืออีก 22 จังหวัด ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ให้เห็นผลภายใน 45 วัน ประชาชนจะได้มีความมั่นใจ มีชีวิตความเป็นอยู่กลับคืนสู่ปกติ ระบบการแพทย์มีมาตรฐาน ไม่มีโรคระบาดหลังน้ำท่วม
**เปิดกิจกรรมรวมพลังคืนสุขภาพดี
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวภายหลังการเปิดกิจกรรมรวมพลังคืนสุขภาพดีว่า จะดำเนินการตามสภาพพื้นที่ 3 ประเภท ได้แก่ พื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังจะเน้นการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลสุขภาพกายสุขภาพจิต แก่กลุ่มเป้าหมายได้แก่เด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยเรื้อรัง พื้นที่น้ำเริ่มลด เน้นการฟื้นฟูสถานพยาบาลที่ถูกน้ำท่วม 561 แห่ง การเฝ้าระวังโรคที่สำคัญเช่นฉี่หนูไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง ไข้เลือดออก ตาแดง และพื้นที่ที่น้ำลดแล้วจะเน้นการควบคุมป้องกันโรคไม่ให้เกิดโรคระบาด มีการกำจัดการขยะ/แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ล้างตลาดสด บำบัดน้ำเน่าเสีย การดูแลความปลอดภัยอาหารและน้ำ ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาโรคระบาดใดๆ
**ผู้ประภัยเครียดสูงกว่า 7 พันราย
"สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคกลาง ขณะนี้แนวโน้มดีขึ้น โดยผลกระทบด้านสุขภาพจิต ผลการตรวจคัดกรองพบผู้ประสบภัยมีความเครียดสูง 7,047 ราย ซึมเศร้า 8,818 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,558 ราย และต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 2,513 ราย ซึ่งสธ.จะเร่งดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว" นายต่อพงษ์ กล่าว
**แรงงานทุ่ม10ล้านจัด “คลินิกช่าง”
นายประพันธ์ มนทการติวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนจัดโครงการคลินิกช่างเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลังน้ำลดโดยจัดตั้งจุดบริการซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การเกษตร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งจัดหน่วยคลินิกช่างเคลื่อนออกให้บริการเช่น ซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า ประตูบ้าน หน้าต่าง หลังคาบ้าน ทาสีบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กพร.เตรียมงบประมาณรองรับไว้กว่า 10 ล้านบาท และในวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.นี้ พบกับคลินิกช่างที่จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 7-9 ธ.ค.นี้ที่จ.อ่างทอง และวันที่ 13-15 ธ.ค.นี้ที่จ.ลพบุรี ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจใช้บริการโครงการคลินิกช่างติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2245-2367,0-2245-1704
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำ ประจำวันที่ 27 พ.ย.2554 โดยสถานการณ์น้ำเหนือ ระดับน้ำเจ้าพระยาที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาอยู่ที่ 3.17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ลดลงจากวันที่ 26 พ.ย. 6 ซม. ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูง เวลา 10.00น.ระดับ 1.35 ม.ทรก.ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตรวจวัดที่ปากคลองตลาด สูงสุด เวลา 08.15น. อยู่ที่ระดับ 2.15 ม.รทก. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 65 ซม. ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่เขตดอนเมือง กทม. ระดับน้ำลดลง 3 ซม. ระดับน้ำคลองหกวาสายล่าง ที่ประตูระบายน้ำคลองสอง ระดับน้ำลดลง 2 ซม. ฝั่งธนบุรี ระดับน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ระดับน้ำลดลง 3 ซม.
"ภาพรวมสถานการณ์น้ำในคลองในพื้นที่ กทม. 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบว่า คลองเปรมประชากร ระดับน้ำลดลง 2-7 ซม. คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 4-7 ซม. คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 5-7 ซม.คลองแสนแสบ ระดับน้ำลดลง 1-4 ซม.คลองประเวศน์บุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 2-4 ซม. คลองสายหลักพื้นที่ฝั่งธนบุรีตอนบน คลองควาย ระดับน้ำทรงตัว ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำลดลง 1-2 ซม."
นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ลดลงอย่างน่าพอใจ หวังว่าจะสร้างความสุขให้กับชาวดอนเมือง และไม่เป็นเขตสุดท้ายของ กทม. ที่น้ำจะแห้งตามที่คาดการณ์ไว้ ล่าสุดน้ำได้ลดลงอีก 3 ซม. แต่ระดับน้ำโดยเฉลี่ยในพื้นที่ยังท่วมขังสูงประมาณ 20-45 ซม. โดยจุดท่วมสูงสุดอยู่ที่ถนนสรงประภา ประมาณ 45 ซม. ซึ่งเป็นผลมาจากการสูบน้ำในพื้นที่ลงคลองเปรมประชากรและคลองรังสิตประยูรศักดิ์
***กทม.ให้ระวังอาหารการกิน
วานนี้ ( 27พ.ย.) นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงการฟื้นฟูการสุขาภิบาลอาหารในสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหารภายหลังน้ำท่วม ว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในการคุ้มครองความปลอดภัยและเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาลอาหารของประชาชน โดยเน้นด้านสถานที่ผลิตและสถานที่จำหน่ายอาหารหลังน้ำลด ไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ 1.ร้านจำหน่ายอาหาร ควรทำความสะอาดพื้นและผนังห้องครัว ห้องอาหาร โต๊ะอาหาร และรางระบายน้ำด้วยน้ำยาล้างทำความสะอาด จากนั้นใช้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและใช้น้ำสะอาดล้าง ส่วนภาชนะอุปกรณ์ที่ถูกน้ำท่วม ให้ล้างด้วยน้ำยาล้างจานและล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง แล้วแช่คลอรีนไว้อย่างน้อย 2 นาที จากนั้นผึ่งแดดให้แห้ง 2.ซูเปอร์มาเก็ต มินิมาร์ท ร้านขายของชำ ให้เคลื่อนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ที่ย้ายได้ออกจากบริเวณที่รับสินค้า ห้องเก็บสินค้า ห้องตัดแต่ง ห้องบรรจุ ไปทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยการเริ่มจากที่สูงไปยังที่ต่ำ ส่วนห้องแช่เย็นสินค้าหรือตู้แช่ต้องตัดระบบไฟฟ้าก่อนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค และต้องมีการตรวจสอบระบบอุปกรณ์ทำความเย็นโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน รวมถึงบริเวณที่วางจำหน่ายสินค้าด้วย
3.ตลาด ควรทำความสะอาดโดยการกำจัดคราบสกปรก และฆ่าเชื้อโรค บริเวณต่างๆ อาทิ เพดาน ผนัง แผงจำหน่ายสินค้า พื้น รางระบายน้ำ ทางเดิน บ่อดักไขมัน โดยเฉพาะแผงจำหน่ายอาหารต้องล้างทำความสะอาดเป็นพิเศษ รวมทั้งฉีดน้ำล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และ 4. ส่วนแผงจำหน่ายอาหารริมบาทวิถีนั้นให้ล้างทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างตามแผงจำหน่าย (รถเข็น) และอุปกรณ์ นอกจากนี้ควรล้างทำความสะอาดภาชนะและอุปกรณ์ ที่ใช้สัมผัสอาหาร ล้างด้วยวิธี 3 ขั้นตอน คือ ล้างด้วยน้ำยาล้างภาชนะและน้ำสะอาด 2 ครั้ง ลวกภาชนะด้วยน้ำร้อนหรือแช่น้ำคลอรีนนาน 2 นาที และเก็บให้แห้งในที่โปร่งโดยไม่ใช้ผ้าเช็ด
**สธ.เร่งฟื้นฟูทุกพื้นที่เสร็จใน 45 วัน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบมากถึง 64 จังหวัด หรือประมาณ 80 % ของพื้นที่ประเทศ ขณะนี้สถานการณ์ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายลง ยังเหลืออีก 22 จังหวัด ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ให้เห็นผลภายใน 45 วัน ประชาชนจะได้มีความมั่นใจ มีชีวิตความเป็นอยู่กลับคืนสู่ปกติ ระบบการแพทย์มีมาตรฐาน ไม่มีโรคระบาดหลังน้ำท่วม
**เปิดกิจกรรมรวมพลังคืนสุขภาพดี
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวภายหลังการเปิดกิจกรรมรวมพลังคืนสุขภาพดีว่า จะดำเนินการตามสภาพพื้นที่ 3 ประเภท ได้แก่ พื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังจะเน้นการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลสุขภาพกายสุขภาพจิต แก่กลุ่มเป้าหมายได้แก่เด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยเรื้อรัง พื้นที่น้ำเริ่มลด เน้นการฟื้นฟูสถานพยาบาลที่ถูกน้ำท่วม 561 แห่ง การเฝ้าระวังโรคที่สำคัญเช่นฉี่หนูไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง ไข้เลือดออก ตาแดง และพื้นที่ที่น้ำลดแล้วจะเน้นการควบคุมป้องกันโรคไม่ให้เกิดโรคระบาด มีการกำจัดการขยะ/แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ล้างตลาดสด บำบัดน้ำเน่าเสีย การดูแลความปลอดภัยอาหารและน้ำ ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีปัญหาโรคระบาดใดๆ
**ผู้ประภัยเครียดสูงกว่า 7 พันราย
"สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคกลาง ขณะนี้แนวโน้มดีขึ้น โดยผลกระทบด้านสุขภาพจิต ผลการตรวจคัดกรองพบผู้ประสบภัยมีความเครียดสูง 7,047 ราย ซึมเศร้า 8,818 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,558 ราย และต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 2,513 ราย ซึ่งสธ.จะเร่งดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว" นายต่อพงษ์ กล่าว
**แรงงานทุ่ม10ล้านจัด “คลินิกช่าง”
นายประพันธ์ มนทการติวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนจัดโครงการคลินิกช่างเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลังน้ำลดโดยจัดตั้งจุดบริการซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องใช้ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การเกษตร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งจัดหน่วยคลินิกช่างเคลื่อนออกให้บริการเช่น ซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า ประตูบ้าน หน้าต่าง หลังคาบ้าน ทาสีบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กพร.เตรียมงบประมาณรองรับไว้กว่า 10 ล้านบาท และในวันที่ 30 พ.ย.-4 ธ.ค.นี้ พบกับคลินิกช่างที่จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 7-9 ธ.ค.นี้ที่จ.อ่างทอง และวันที่ 13-15 ธ.ค.นี้ที่จ.ลพบุรี ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจใช้บริการโครงการคลินิกช่างติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2245-2367,0-2245-1704