ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -น้ำท่วมใหญ่ปีนี้ พื้นที่ทางการเกษตรต้องจมอยู่ใต้น้ำไปครึ่งค่อนประเทศ โดยเฉพาะนาข้าว ทั้งในภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า หลังจากนี้ประเทศไทยคงหนีไม่พ้นภาวะข้าวยาก หมากแพง ข้าวสารต้องราคาพุ่งสูงแน่ เพราะนาข้าวเสียหาย ชาวนาไม่มีข้าวจะขาย และจะส่งผลถึงการส่งออกด้วย
แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกของชาวนากลับอยู่ที่ราคาแค่ 5 พันบาทต่อตัน
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตั้งกระทู้ถามสดถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องโครงการรับจำนำข้าว ในระหว่างการประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายสงกรานต์ บอกว่า ตนก็เป็นเกษตรกร เอาข้าวเปลือกไปจำนำ แต่ถูกโรงสีกดราคาเหลือแค่ตันละ 5,000 บาท ไม่ได้ 15,000 บาท ตามที่รัฐบาลกำหนด โดยโรงสีอ้างสารพัด ทั้งเรื่องคุณภาพ ความชื้น สถานที่เก็บข้าวเปลือก เพราะโรงสีก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน ถ้าไม่ขายก็ให้ขนกลับไป
นายสงกรานต์ ยังระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลด้วยว่าส่อเค้าจะล้มเหลว ไม่เป็นไปตามราคาคุยว่า ขณะนี้รัฐบาลเพิ่งตั้งจุดรับจำนำข้าว 600 จุด แต่มีผู้มาจำนำเพียง 1.2 แสนตันเท่านั้น ทั้งที่ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะรับจำนำข้าวถึง 18 ล้านตัน และขณะนี้ก็เหลือเวลาเพียงแค่ 30 วันก็จะครบตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันว่า รัฐบาลได้กำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือก 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิ 20,000 บาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการรับจำนำข้าวอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วม ทำให้ยอกรับจำนำยังไม่เป็นไปตามเป้า
แต่เชื่อว่า ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จะมีข้าวส่วนที่ไม่เสียหาย และส่วนที่ปลูกใหม่ ออกมาประมาณ 10 ล้านตัน จึงไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องปริมาณข้าวของโครงการ
ส่วนที่บอกว่าชาวนาเอาข้าวไปจำนำแล้วราคาไม่เป็นไปตามกำหนดนั้น ก็ขอให้บอกมาว่า โรงสีชื่ออะไร อยู่ที่ไหน จะได้ไปตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะเป็นบทพิสูจน์ว่า นโยบายประชานิยมที่หาเสียงกันไว้จนชวนให้เคลิบเคลิ้มนั้นจะทำได้จริงหรือไม่
หรือจะเหมือนกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ปริญญาตรี 15,000 บาท แจกแทปเล็ตนักเรียน บ้านหลังแรก รถยนต์คันแรก ที่ยังไม่มีอะไรในก่อไผ่ โดยมี"น้องน้ำ"ตกเป็นจำเลย