xs
xsm
sm
md
lg

เยียวยาเพิ่มวืด! คนนนท์ขู่พังคัน กทม.ยอมระบายน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์"ขอทบทวนเงินเยียวยาเพิ่มเติม บอกทุกที่ลำบากเหมือนกัน พร้อมสั่งเร่งระบายน้ำในจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ชาวนนท์สุดทน! บุกจวนผู้ว่าฯ ขู่พังคันกั้นน้ำ หากไม่เปิดระบายน้ำช่วยลดผลกระทบ ผู้ว่าฯ กทม. ยอมเปิดประตูคลองมหาสวัสดิ์ 75 ซม. พร้อมติดตามผลใกล้ชิด หวั่นกทม.ชั้นในกระทบ สั่งเลื่อนเปิดโรงเรียน 7 เขตจมน้ำเป็น 13 ธ.ค. ด้านน้ำท่วมนิคมฯ เริ่มคลี่คลาย "แม้ว"ไม่เลิก อัดรัฐประหารทำแผนจัดการน้ำล่ม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่อยู่เหนือบริเวณแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังมานานนับเดือน วานนี้ (22 พ.ย.) ว่า ภาพรวมการพิจารณาฟื้นฟูเยียวยานั้น สัปดาห์ที่แล้ว มีการพิจารณาเรื่องการฟื้นฟูของแต่ละกระทรวงที่เสนอมา แต่วันนี้ได้มีการเพิ่มเติมในส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอมา ทั้งในส่วนของการเยียวยา และในส่วนของการฟื้นฟูสาธารณประโยชน์ต่างๆ ก็จะนำมาบูรณาการรวมกัน ก็คงจะเป็นหลักตรงนั้นก่อน

สำหรับเรื่องของการเยียวยาเพิ่มเติม ก็คงต้องขอไปดู ถ้าเป็นเม็ดเงินก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะทุกที่ก็ลำบากเหมือนกัน และเราก็เห็นใจ เราก็พยายามเข้าไปดูแลให้ทั่วถึง วันนี้ขอไปดูรายละเอียดก่อน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ และผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปหารือ และดูรายละเอียด อยากขอให้เป็นรูปแบบของการดูแลให้เต็มที่ดีกว่า ขอความกรุณาว่า ทุกๆ จังหวัดก็ลำบากเหมือนกัน และวันนี้ค่าดูแลเยียวยา ก็ไม่ได้เป็นแค่ 5,000 บาท ก็จะมีในส่วนของบ้านเรือนที่เสียหายด้วย

เมื่อถามว่า ปัญหาความไม่พอใจของคนในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง รัฐบาลจะเข้าไปดูแลอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า แน่นอนการดูแลคนกลุ่มใหญ่ก็ต้องมีบ้าง ทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ แต่ก็จะพยายามทำอย่างดีที่สุด เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้เพิกเฉย มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกท่าน ก็ขอกราบขออภัยในการดูแลไม่ทั่วถึง และยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยเข้าไปในพื้นที่เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และขอให้รัฐมนตรีทุกท่าน ลงไปประจำพื้นที่ เพื่อที่จะได้ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และให้แน่ใจว่าการดูแลต่างๆ นั้น เป็นไปอย่างทั่วถึง

ขณะเดียวกัน ได้มีการอนุมัติงบพิเศษ ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัด กรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง สำหรับการระบายน้ำ ได้เร่งสั่งการไปแล้ว เพราะวันนี้น้ำในกรุงเทพฯ ได้ระบายลงไปบ้าง และจะให้มีการหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน ทั้งในจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี ที่มีผลกระทบในเรื่องน้ำท่วมขังสูงเพิ่มเติม

***ชาวนนท์500คนเดือดขู่พังคันกั้นน้ำ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ได้มีประชาชนจากหลายอำเภอในจังหวัดนนทบุรีร่วมตัวกันเกือบ 500 คน มาฟังคำตอบที่ได้ยืนข้อเสนอเรียกร้องไปก่อนหน้านี้ให้มีการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในหลายอำเภอของจังหวัดนนทบุรีจากนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมชูป้ายนนทบุรีไม่ใช้เขื่อนเก็บน้ำ ไม่อยากมีชายแดนติดกทม. คนนนท์เป็นพลเมืองชั้น 2 ใช่มั้ย พร้อมกับโจมตีการแก้ปัญหาน้ำของทางกทม. และขู่ว่าหากเวลาบ่ายโมงยังไม่ได้รับคำตอบจนเป็นที่พอใจแล้วจะร่วมตัวกันขึ้นไปยังที่ประชุมชั้น 5 ก่อนจะเดินทางไปรื้อแนวเขื่อนที่ประตูระบายน้ำทุกจุด แต่จะไม่มีการปิดถนนเหมือนที่ผ่านมา เพราะไม่อยากให้คนนนท์เดือนร้อนเพิ่มขึ้นอีก แต่จะแก้ปัญหาจากต้นเหตุแทน

**หารือล้มเหลวพร้อมโห่ไล่ผู้ว่าฯนนท์

ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้เปิดห้องประชุมชั้น 5 เพื่อให้ตัวแทนชาวบ้านอำเภอละ 10 คนร่วมถึงชาวบ้านจากกทม. ขึ้นไปทำการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม ผู้แทนจากกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลากว่า 1 ชม. ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เนื่องจากตัวแทนชาวบ้านแต่ละอำเภอมีการเรียกร้องเพิ่มเติมอีกหลายข้อและเริ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกันจนเกิดการโต้เถียงกันเองอย่างรุนแรง ซึ่งในที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้

ภายหลังนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ชี้แจงผ่านโทรโข่งกับกลุ่มชาวบ้านกว่า 500 คน ที่มารวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรีว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำของกรุงเทพฯ ที่เชื่อมต่อกับ จ.นนทบุรี จุดละ 1 เมตรนั้น ทางกทม.เกรงว่า จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำ จึงจะขยับเปิดขึ้นได้เพียง 0.70 เมตร จากเดิม 0.50 เมตร สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องการให้ทางกทม. เปิดประตูระบายน้ำทุกบานที่มีแนวคลองเชื่อมต่อกับจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้แบ่งเบาน้ำที่ท่วมขังมาเดือนกว่าออกไปจนมีการโห่ตะโกนขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีเป็นระยะ

จากนั้นผู้ว่าฯ นนทบุรี ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า หากขอเสนอที่กทม. เปิดประตูระบายน้ำได้เพิ่มเป็น 0.70 เมตร ยังไม่เป็นที่พอใจกับชาวบ้าน ก็ขอเวลาสักพัก เพื่อติดต่อกับทางกทม. และแจ้งข้อมูลให้ทางกทม. พิจารณามาตรการความช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านในจ.นนทบุรี ต่อไป

***จวกกทม.ชอบลักไก่เปิด-ปิดปตร.

นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี ได้ประกาศผ่านทางโทรโข่งเพื่อชี้แจงต่อชาวบ้านว่า กำลังส่งคนไปดูที่ประตูระบาย (ปตร.) น้ำคลองมหาสวัสดิ์ว่า ทาง กทม.เปิดประตูระบายน้ำ 0.70 เมตร ตามที่ได้แจ้งกับผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีหรือไม่ แต่ชาวบ้านตะโกนย้อนกลับไปว่า กทม.ชอบลักไก่บอกเปิดประตูระบายน้ำเท่านั้นเท่านี้ แต่พอชาวบ้านคล้อยหลัง ก็ปิดลงมาเหลือ 0.50 เมตรเท่าเดิม แล้วเมื่อไรน้ำมันจะหมดไปจากจ.นนทบุรี

***"พงศพัศ"มั่วบอกกทม.ยอมเปิด1 เมตร

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และโฆษกศปภ. ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้านที่หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี และออกมาบอกกับชาวบ้านว่า ทาง กทม.ยอมแล้วเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ 1 เมตรแล้วทันที ทำให้ชาวบ้านเฮลั่น แต่ขอไปดูให้เห็นด้วยตา ทั้งนี้ ในช่วงเย็นผู้ว่าฯ นนทบุรีจะนำตัวแทนชาวบ้านไปล่องเรือเพื่อดูการเปิดประตูระบายน้ำตามข้อเรียกร้อง ซึ่งทุกคนพอใจจากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน

**ผู้ว่าฯกทม.ห่วงกระทบกทม.ชั้นใน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีที่ชาวนนทบุรีเรียกร้องให้กทม.เปิดประตูระบายน้ำที่คลองทวีวัฒนาที่ระดับ 1 เมตร และลดแนวคันกระสอบทราย ภายหลังเข้าพบนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนและนายยงยุทธเห็นตรงกันว่าควรใช้เหตุและผลในการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยไม่อยากให้ใช้ความรู้สึกแก้ปัญหา ขณะเดียวกันรู้สึกเป็นห่วงผู้ได้รับผลกระทบทุกคนด้วย ส่วนการประตูระบายน้ำที่คลองทวีวัฒนายืนยันเปิดที่ 50 ซม.และตามแนวคลองมหาสวัสดิ์มีการประตูระบายน้ำที่ 75 ซม. โดยกทม.ขอประเมินสถานการณ์น้ำภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อดูผลกระทบที่จะมีต่อพื้นที่ชั้นในกทม.ก่อน

**ระดับน้ำในคลอง-ถนนลดลงต่อเนื่อง

วันเดียวกันนี้ ที่ศาลาว่าการกทม. นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาว่า ขณะนี้ระดับน้ำบริเวณประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ลดลง รวมถึงประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ลดลง 4 ซม. บริเวณคลองหก น้ำลดลง 7 ซม. คลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรมย์ ลดลง 1-2 ซม.คลองลาดพร้าว ลดลง 2-4 ซม. คลองเปรมประชากร ช่วงดอนเมืองลดลง 2 ซม. ในเมืองลด 4 ซม. คลองบางเขน ลดลง 2 ซม. บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงคลองลาดยาว รถเล็กผ่านได้ชิดเกาะกลาง ซึ่งกทม.จะเร่งเคลียร์น้ำบริเวณคลองบางบัว เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม ในส่วนของ ถ.แจ้งวัฒนะ จากถ.วิภาวดีรังสิต ถึงคลองถนนน้ำแห้ง ทั้งสองฝั่ง คลอมอญ 78 ซม. ลดลงเหลือ 70 ซม. คลองบางกอกใหญ่ 52 ซม. ลดลงเหลือ 50 ซม. ลาดพร้าว 56 อยู่ในเกณฑ์ปกติ จะถอนเครื่องสูบน้ำบริเวณนี้เพื่อไปกู้พื้นที่อื่นๆ บริเวณหน้านสพ.เดลินิวส์ลดลงไปอีก 20 ซม.

ทั้งนี้ กทม.ยังคงเฝ้าระวังการเปิดกระสอบทรายและเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมในกทม. ยาวนานขึ้น รวมถึงเฝ้าระวังแนวริมน้ำเจ้าพระยาทุกจุด เนื่องจากระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงช่วงปลายเดือนนี้ หรือประมาณวันที่ 27 พ.ย. บวกกับฐานน้ำเดิมมีระดับสูงอยู่แล้ว อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนริมแม่น้ำดังที่ผ่านมา

**เลื่อนเปิดเทอม7 เขตน้ำท่วมเป็น 13 ธ.ค.

นายวสันต์กล่าวอีกว่า ในปัจจุบัน มีผู้ประสบภัยพักพิงในศูนย์ของกทม. จำนวน 15,204 คน โดยกทม.จะเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยซึ่งพักพิงภายในโรงเรียนสังกัดกทม.ไป ยังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย ศูนย์เยาวชนในสังกัดของกทม. และที่ค่ายลูกเสือกรุงธนฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศปภ. เพื่อทำความสะอาดโรงเรียนและให้พร้อมเปิดเทอมกลุ่มแรก 6 ธ.ค. 2554 แต่ในส่วนของพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูง เช่น ดอนเมือง สายไหม หลักสี่ ทวีวัฒนา หนองแขม บางแค และบางบอน จะรอให้ระดับน้ำลดลงก่อนจากนั้นจึงจะทำความสะอาดและเปิดเรียนเป็นกลุ่มที่สองในวันที่ 13 ธ.ค.2554

**น้ำท่วมในนิคมฯ เริ่มคลี่คลาย

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงการกู้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ว่า สถานการณ์ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ขณะนี้ได้คลี่คลายลงตามลำดับ และได้ยกเลิกการประกาศแผนฉุกเฉินที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และบางโรงงานเริ่มกลับมาเดินเครื่องการผลิตแล้ว

ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่ แลนด์ มี 29 โรงงาน กลับมาเดินเครื่องการผลิตแล้ว คาดว่าในช่วงปลายเดือนธ.ค.ถึงต้นม.ค. โรงงานต่างๆ น่าจะเดินเครื่องได้ครบ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร จะมีทหารจากกรมทหารพัฒนาเข้ามาดูแลการกู้นิคมฯ และจะมีการเจาะถนนระบายน้ำ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน จึงจะเริ่มสูบน้ำออกจากนิคมฯ ได้ นอกจากนั้น ในวันที่ 25 พ.ย. โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินบางส่วน จะเริ่มเดินเครื่องจักรได้ และนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี จะเริ่มสูบน้ำออกจากพื้นที่ โดยในวันที่ 30 พ.ย. นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค น้ำน่าจะแห้ง และเริ่มทำความสะอาดพื้นที่ได้ คาดว่าตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.เป็นต้นไป โรงงานบางส่วนในนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่งน่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรได้

***ดึง"ไจก้า"เป็นที่ปรึกษาแก้น้ำท่วม

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารทรัพยากรน้ำ (กยน.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด คือ 1.คณะอนุกรรมการที่มีภารกิจดำเนินการเร่งด่วนทันที โดยมีนายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการที่มีภารกิจวางระบบระบายน้ำอย่างยั่งยืน โดยมีนายกิจจา ผลภาษี กรรมการ กยน. เป็นประธานคณะอนุกรรมการ และเห็นชอบให้องค์กรระหว่างประเทศ คือ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) เข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้วย

***"แม้ว"อ้างรัฐประหารทำแผนกันน้ำท่วมล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หลบหนีคดี ได้เดินทางเยือนเกาหลีใต้เป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ที่ 21-24 พ.ย. โดยได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ตั้งโครงการขุดลอกคูคลอง สร้างเขื่อนกั้นน้ำ และพัฒนาทัศนียภาพของแม่น้ำทั้ง 4 สาย ซึ่งประกอบไปด้วยแม่น้ำฮัน (Han) แม่น้ำนักดง (Nakdong) แม่น้ำกึม (Geum) และแม่น้ำยองซาน (Yeongsan) มูลค่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.9 แสนล้านบาท พร้อมให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ โชซุน อิลโบ ว่า จะรายงานผลการสำรวจโครงการพัฒนาแม่น้ำ 4 สาย ของเกาหลีใต้ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบ และยังระบุอีกว่า เขาได้ผลักดันแผนป้องกันน้ำท่วมและปัญหาแล้งระยะยาว ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่โครงการเหล่านี้ต้องยกเลิกไป เนื่องจากเกิดการรัฐประหารเสียก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น