ASTVผู้จัดการรายวัน - สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ "จีดีพี" ปี 54 เหลือโตแค่ 1.5% จากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่สำคัญทาง ศก. ส่วนแนวโน้มปี 55 มั่นใจโตได้ 4.5-5.5% โดยมีการลงทุนภาครัฐเป็นแกนหลักขับเคลื่อน ด้านแบงก์ชาติเห็นพ้อง จ่อปรับลดตาม ด้านคลังยังคงเป้าเดิมที่ 2.6%
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพัฒน์ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้เหลือเติบโต 1.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.5-4.0% เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหนัก แต่ในปี 2555 คาดว่าจีดีพีจะกลับมาขยายตัวได้สูงถึง 4.5-5.5%
สภาพัฒน์ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2554 ขยายตัวที่ระดับ 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ได้ปรับจีดีพีไตรมาส 2/2554 มาเป็นเติบโต 2.7% จากเดิมประกาศไว้ที่ 2.6% โดยการขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 3/2554 สืบเนื่องมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออก อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวจากผลกระทบสึนามิ ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลงจากรายได้เกษตรที่มีแนวโน้มชะลอตัว และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว
ขณะที่ในไตรมาส 4/2554 คาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหหญ่ที่ขยายวงกว้าง ซึ่งจะทำให้จีดีพีทั้งปี 2554 ชะลอตัวลงจากคาดการณ์เดิมด้วย
ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการปรับตัวดีขึ้นทั้งอุปสงค์ภายในและต่างประเทศ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการเร่งรัดการลงทุนเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหากจากน้ำท่วมในปลายปี 2554
พร้อมกันนี้ ภาครัฐยังมีมาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อ มาตรการภาษีที่มีส่วนสำคัญต่อการฟื้นฟูภาคเกษตร อุตสาหกรรม และภาคการบริการ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการสร้างงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการเพิ่มรายได้ ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
***แบงก์ชาติจ่อปรับลดต่ำกว่า 2.6%**
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.และสศช.ยังคงมองภาพรวมเศรษฐกิจในทิศทางเดียวกัน โดยเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนแรกยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระดับ 3.1% ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันที่ธปท.ประมาณการ แต่จากพัฒนาการความเสียหายเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลของธปท.ครั้งก่อนแค่ช่วงเดือนต.ค. จึงส่งผลให้มุมมองของธปท.ต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็น่าจะลดลงต่ำกว่า 2.6%
“ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เศรษฐกิจลดลงเยอะจากความเสียหายของปัญหาน้ำท่วม และมีผลโดยตรงต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะน้อยกว่า 2.6% และคาดว่าผลกระทบดังกล่าวยังคงมีผลเล็กน้อยต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 54 เช่นกัน”นายทรงธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 30 พ.ย.นี้ นอกจะมีการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีความเป็นไปได้จะปรับลดลงจากเหตุผลสำคัญเรื่องน้ำท่วมแล้ว ยังมีการพิจารณาเรื่องอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า.
***สศค.ยันจีดีพีปี 54 ยังขยายตัวได้ 2.6%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า การปรับจีดีพีของสศช. เหลือ 1.5% นั้นสศค.ยังยืนยันประมาณการขยายตัวของจีดีพีที่ 2.6% เหมือนเดิม เพราะจากสมมุติฐานของสศช.แล้วส่วนใหญ่จะเหมือนกัน ต่างกันเพียงจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่สศช.มองว่าจะปรับลดลงถึง 7 แสนคนจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศ ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งปีได้ แต่สศค.มองว่าจะลดลงเพียง 2 แสนคนเท่านั้น ขณะที่ภาคการผลิตคาดว่าจะมีความเสียหายประมาณ 2 แสนล้านบาท
โดยช่วงปลายปีจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาไทยจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยวทะเลทางภาคใต้ ซึ่งไม่ได้ประสบปัญหาอุทกภัยแต่อย่างใด จึงมองว่า ยอดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น่าจะลดลงมากขนาดนั้น ส่วนปัจจัยอื่นๆก็ยังมองตรงกัน รวมถึงจีดีพีปี 2555 ด้วยว่า จะยังขยายตัวได้ 5% ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อประมาณการจัดเก็บรายได้ทั้งปี ที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.98 ล้านล้านบาทแต่อย่างใด
ขณะที่การขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 4 ปีนี้ว่า สศค.ประมาณการว่าจะขยายตัวในอัตรา 0.9% เพราะสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว โดยระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง และภาคการผลิตนั้นหลายบริษัทเริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตได้แล้ว เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบด้านชิ้นส่วนยานยนต์ที่โรงงานถูกน้ำท่วม ก็มีการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ไม่มีความเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยปีนี้ แม้ สศช.จะคาดไตรมาส 4 ปีนี้ เศรษฐกิจจะติดลบ 2.7% และขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะออกนโยบายใดๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังถูกกระทบจากน้ำท่วมหนัก
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพัฒน์ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้เหลือเติบโต 1.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.5-4.0% เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหนัก แต่ในปี 2555 คาดว่าจีดีพีจะกลับมาขยายตัวได้สูงถึง 4.5-5.5%
สภาพัฒน์ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2554 ขยายตัวที่ระดับ 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ได้ปรับจีดีพีไตรมาส 2/2554 มาเป็นเติบโต 2.7% จากเดิมประกาศไว้ที่ 2.6% โดยการขยายตัวของจีดีพีไตรมาส 3/2554 สืบเนื่องมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออก อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวจากผลกระทบสึนามิ ค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลงจากรายได้เกษตรที่มีแนวโน้มชะลอตัว และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว
ขณะที่ในไตรมาส 4/2554 คาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหหญ่ที่ขยายวงกว้าง ซึ่งจะทำให้จีดีพีทั้งปี 2554 ชะลอตัวลงจากคาดการณ์เดิมด้วย
ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการปรับตัวดีขึ้นทั้งอุปสงค์ภายในและต่างประเทศ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการเร่งรัดการลงทุนเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหากจากน้ำท่วมในปลายปี 2554
พร้อมกันนี้ ภาครัฐยังมีมาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อ มาตรการภาษีที่มีส่วนสำคัญต่อการฟื้นฟูภาคเกษตร อุตสาหกรรม และภาคการบริการ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการสร้างงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการเพิ่มรายได้ ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
***แบงก์ชาติจ่อปรับลดต่ำกว่า 2.6%**
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.และสศช.ยังคงมองภาพรวมเศรษฐกิจในทิศทางเดียวกัน โดยเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนแรกยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระดับ 3.1% ถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันที่ธปท.ประมาณการ แต่จากพัฒนาการความเสียหายเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลของธปท.ครั้งก่อนแค่ช่วงเดือนต.ค. จึงส่งผลให้มุมมองของธปท.ต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็น่าจะลดลงต่ำกว่า 2.6%
“ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เศรษฐกิจลดลงเยอะจากความเสียหายของปัญหาน้ำท่วม และมีผลโดยตรงต่อภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะน้อยกว่า 2.6% และคาดว่าผลกระทบดังกล่าวยังคงมีผลเล็กน้อยต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 54 เช่นกัน”นายทรงธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 30 พ.ย.นี้ นอกจะมีการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีความเป็นไปได้จะปรับลดลงจากเหตุผลสำคัญเรื่องน้ำท่วมแล้ว ยังมีการพิจารณาเรื่องอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า.
***สศค.ยันจีดีพีปี 54 ยังขยายตัวได้ 2.6%
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า การปรับจีดีพีของสศช. เหลือ 1.5% นั้นสศค.ยังยืนยันประมาณการขยายตัวของจีดีพีที่ 2.6% เหมือนเดิม เพราะจากสมมุติฐานของสศช.แล้วส่วนใหญ่จะเหมือนกัน ต่างกันเพียงจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่สศช.มองว่าจะปรับลดลงถึง 7 แสนคนจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศ ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งปีได้ แต่สศค.มองว่าจะลดลงเพียง 2 แสนคนเท่านั้น ขณะที่ภาคการผลิตคาดว่าจะมีความเสียหายประมาณ 2 แสนล้านบาท
โดยช่วงปลายปีจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาไทยจำนวนมาก และส่วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยวทะเลทางภาคใต้ ซึ่งไม่ได้ประสบปัญหาอุทกภัยแต่อย่างใด จึงมองว่า ยอดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น่าจะลดลงมากขนาดนั้น ส่วนปัจจัยอื่นๆก็ยังมองตรงกัน รวมถึงจีดีพีปี 2555 ด้วยว่า จะยังขยายตัวได้ 5% ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อประมาณการจัดเก็บรายได้ทั้งปี ที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.98 ล้านล้านบาทแต่อย่างใด
ขณะที่การขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 4 ปีนี้ว่า สศค.ประมาณการว่าจะขยายตัวในอัตรา 0.9% เพราะสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว โดยระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง และภาคการผลิตนั้นหลายบริษัทเริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตได้แล้ว เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบด้านชิ้นส่วนยานยนต์ที่โรงงานถูกน้ำท่วม ก็มีการนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ไม่มีความเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยปีนี้ แม้ สศช.จะคาดไตรมาส 4 ปีนี้ เศรษฐกิจจะติดลบ 2.7% และขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะออกนโยบายใดๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังถูกกระทบจากน้ำท่วมหนัก
