ASTVผู้จัดการรายวัน - รมช.คลังยังเดินหน้าสั่งแบงก์รัฐอุ้มหนี้เสียที่เกิน 5 แสนบาท ลั่นพร้อมรับข้อเสนอลดภาษีซื้ออสังหาฯ ไปพิจารณาแต่ต้องดูความเหมาะสมก่อน เหตุมีโครงการบ้านหลังแรกกระตุ้นอยู่แล้ว เผยประชาชนต้องการเงินไปซ่อมแซมบ้านมากกว่าซื้อใหม่ "กรณ์" อัดยับ! อุ้มNPLแต่ลอยแพหนี้ดีทำระบบพัง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง กล่าวถึงการช่วยเหลือหนี้เสีย (NPL) ว่า นอกเหนือจากการพักหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาทต่อรายของ 6 สถาบันการเงินของรัฐที่มีประมาณ 7.7 แสนรายแล้ว ยังมอบหมายให้แต่ละสถาบันการเงินดูแลNPLส่วนที่เกิน 5 แสนบาทด้วย แต่ต้องเป็นหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่ได้เกิดจากหนี้บัตรเครดิต
"ให้แต่ละแบงก์จะพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น อาจจะลดภาระดอกเบี้ยหรือยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปตามความเหมาะสม โดยที่รัฐไม่ได้มีภาระในการจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมจากที่ต้องจ่ายให้ส่วนของมูลหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาทรวม 6 แบงก์กว่าหมื่นล้านบาทหรือคิดเทียบเท่าดอกเบี้ย 4%" นายบุญทรงกล่าว
รมช.คลังยังกล่าวถึงข้อเสนอของภาคเอกชนเกี่ยวกับฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักและได้เรียกร้องให้รัฐพิจารณามาตรการภาษีที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งหมด เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะนั้นกระทรวงการคลังพร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพร้อมสนับสนุนแต่คงต้องดูความเหมาะสมก่อน
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าที่ผ่านมาสถาบันการเงินของรัฐได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วในระดับหนึ่งทั้งการผ่อนผันภาระหนี้สินและการให้กู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย แต่หลังจากน้ำลดแล้วคงต้องมาประเมินอีกครั้งว่าต้องมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่
“ภาคอสังหาริมทรัพย์นั้นรัฐมีมาตรการกระตุ้นไปก่อนหน้านี้แล้วในโครงการคืนภาษีบ้านหลังแรกจึงน่าจะเพียงพอแล้วและยังเดินหน้าต่อไป ส่วนบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้นประชาชนน่าจะเน้นไปที่การซ่อมแซมมากกว่าจะซื้อใหม่การช่วยเหลือได้สินเชื่อจึงน่าจะเหมาะสมกว่า"นายบุญทรงกล่าว
ส่วนผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีนั้นมองว่าแม้ภาคธุรกิจจะเสียหายและมีผลต่อรายได้นิติบุคคลบ้างแต่หลังจากนี้เมื่อรัฐมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและอัดฉีดเงินเข้าระบบน่าจะทำให้ได้เม็ดเงินภาษีกลับคืนมาและไม่กระทบเป้าหมายการจัดเก็บในปี 2555 ที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท ขณะที่โครงการรถยนต์คันแรกนั้นยังยืนยันเดินหน้าต่อและไม่ขยายระยะเวลาโครงการออกไป ซึ่งล่าสุดเดือน ต.ค.มีผู้ขอคืนภาษีเข้ามาแล้วพันกว่าราย
***"กรณ์" จวกยับอุ้มNPL-ลอยแพหนี้ดี
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขียน เฟสบุ๊ก โดยใช้ชื่อ "Korn Chatikavanij" ว่า ครม.ยิ่งลักษณ์มีมติพักหนี้ 500,000 บาท ให้กับผู้ที่เป็น NPL แต่ไม่พักให้กับผู้ที่เป็นลูกหนี้ที่ดี
"พูดง่ายๆ ก็คือใครไม่ชำระหนี้ก็ได้สิทธิไม่ชำระต่อไป ส่วนใครยังชำระอยู่ก็ชำระต่อไปนอกจากนั้นผู้เสียภาษียังต้องมารับภาระการชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารอีก 12,000 ล้านบาท ทั้งๆที่ในปัจจุบันธนาคารก็เก็บดอกเบี้ยจากสินเชื่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว"
นายกรณ์กล่าวว่า ที่ไม่ยุติธรรมที่สุดก็คือชาวบ้านที่หมดความสามารถในการชำระหนี้เนื่องจากน้ำท่วมกลับไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการพักหนี้จากโครงการนี้ได้เลยและสิ่งที่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนก็คือ ลูกหนี้ดีๆ จะเริ่มงดชำระต้น และดอกเบี้ยเพราะรัฐบาลจะเอาเงินภาษีมาจ่ายให้แทน.
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง กล่าวถึงการช่วยเหลือหนี้เสีย (NPL) ว่า นอกเหนือจากการพักหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาทต่อรายของ 6 สถาบันการเงินของรัฐที่มีประมาณ 7.7 แสนรายแล้ว ยังมอบหมายให้แต่ละสถาบันการเงินดูแลNPLส่วนที่เกิน 5 แสนบาทด้วย แต่ต้องเป็นหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่ได้เกิดจากหนี้บัตรเครดิต
"ให้แต่ละแบงก์จะพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น อาจจะลดภาระดอกเบี้ยหรือยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปตามความเหมาะสม โดยที่รัฐไม่ได้มีภาระในการจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมจากที่ต้องจ่ายให้ส่วนของมูลหนี้ต่ำกว่า 5 แสนบาทรวม 6 แบงก์กว่าหมื่นล้านบาทหรือคิดเทียบเท่าดอกเบี้ย 4%" นายบุญทรงกล่าว
รมช.คลังยังกล่าวถึงข้อเสนอของภาคเอกชนเกี่ยวกับฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักและได้เรียกร้องให้รัฐพิจารณามาตรการภาษีที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งหมด เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะนั้นกระทรวงการคลังพร้อมรับข้อเสนอไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพร้อมสนับสนุนแต่คงต้องดูความเหมาะสมก่อน
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าที่ผ่านมาสถาบันการเงินของรัฐได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วในระดับหนึ่งทั้งการผ่อนผันภาระหนี้สินและการให้กู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย แต่หลังจากน้ำลดแล้วคงต้องมาประเมินอีกครั้งว่าต้องมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่
“ภาคอสังหาริมทรัพย์นั้นรัฐมีมาตรการกระตุ้นไปก่อนหน้านี้แล้วในโครงการคืนภาษีบ้านหลังแรกจึงน่าจะเพียงพอแล้วและยังเดินหน้าต่อไป ส่วนบ้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้นประชาชนน่าจะเน้นไปที่การซ่อมแซมมากกว่าจะซื้อใหม่การช่วยเหลือได้สินเชื่อจึงน่าจะเหมาะสมกว่า"นายบุญทรงกล่าว
ส่วนผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีนั้นมองว่าแม้ภาคธุรกิจจะเสียหายและมีผลต่อรายได้นิติบุคคลบ้างแต่หลังจากนี้เมื่อรัฐมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและอัดฉีดเงินเข้าระบบน่าจะทำให้ได้เม็ดเงินภาษีกลับคืนมาและไม่กระทบเป้าหมายการจัดเก็บในปี 2555 ที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท ขณะที่โครงการรถยนต์คันแรกนั้นยังยืนยันเดินหน้าต่อและไม่ขยายระยะเวลาโครงการออกไป ซึ่งล่าสุดเดือน ต.ค.มีผู้ขอคืนภาษีเข้ามาแล้วพันกว่าราย
***"กรณ์" จวกยับอุ้มNPL-ลอยแพหนี้ดี
เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขียน เฟสบุ๊ก โดยใช้ชื่อ "Korn Chatikavanij" ว่า ครม.ยิ่งลักษณ์มีมติพักหนี้ 500,000 บาท ให้กับผู้ที่เป็น NPL แต่ไม่พักให้กับผู้ที่เป็นลูกหนี้ที่ดี
"พูดง่ายๆ ก็คือใครไม่ชำระหนี้ก็ได้สิทธิไม่ชำระต่อไป ส่วนใครยังชำระอยู่ก็ชำระต่อไปนอกจากนั้นผู้เสียภาษียังต้องมารับภาระการชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารอีก 12,000 ล้านบาท ทั้งๆที่ในปัจจุบันธนาคารก็เก็บดอกเบี้ยจากสินเชื่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว"
นายกรณ์กล่าวว่า ที่ไม่ยุติธรรมที่สุดก็คือชาวบ้านที่หมดความสามารถในการชำระหนี้เนื่องจากน้ำท่วมกลับไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการพักหนี้จากโครงการนี้ได้เลยและสิ่งที่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนก็คือ ลูกหนี้ดีๆ จะเริ่มงดชำระต้น และดอกเบี้ยเพราะรัฐบาลจะเอาเงินภาษีมาจ่ายให้แทน.
