ASTVผู้จัดการรายวัน – “นมตรามะลิ” เตรีมกลับฟื้นฟูโรงงานที่บางปะอินแล้ว หลังน้ำลดลงหมด คาดม.ค.ปีหน้ากลับมาผลิตได้ ส่วนค่าเสียหายยังไม่สรุป พร้อมนำเข้าสินค้าโออีเอ็มจากตปท.ทำตลาดแทนชั่วคราว คาดปีนี้ตลาดนมไม่โต เพราะ 2 รายใหญ่จมน้ำ
นายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมข้นหวาน ตรามะลิ นมข้นจืด ตราเบิร์ดวิงซ์ ตราออร์คิด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับแจ้งจากทางนิคมอุสาหกรรมบางปะอินว่า สามารถสูบน้ำออกได้หมดแล้วตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. บริษัทจึงเตรียมเข้าไปฟื้นฟูโรงงานและตรวจสอบเครื่องจักรว่าได้รับความเสียหายเพียงใด เนื่องจากเครื่องจักรบางส่วนอยู่ชั้นล่างไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีบางส่วนที่สามารถย้ายหนีน้ำขึ้นชั้น 2 ได้
ทั้งนี้คาดว่า โรงงานแห่งนี้จะสามารถกลับมาผลิตได้อีกครั้งในเดือน ม.ค.55 ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ มีกำลังการผลิตต่อปีประมาณ 4-5 ล้านลัง ซึ่งเป็นฐานผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปในตลาดต่างประเทศมากกว่า 30 ประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายทั้งหมด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมิน แต่ก็ได้ทำประกันภัยครอบคลุมเรื่องอุทกภัยไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า
สำหรับในช่วงนี้ บริษัทฯมีแผนนำเข้า นมข้นหวานจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทำตลาดในไทย ทั้งจากมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยจะเริ่มนำเข้าในต้นเดือน ธ.ค.นี้ จำนวนมากกว่า 100,000 กระป๋อง ซึ่งบริษัทฯได้ว่าจ้างบริษัทในต่างประเทศ เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ นมตรามะลิ เพื่อให้สินค้าไม่เกิดปัญหาขาดตลาด ส่วนราคาขายจะตั้งไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคมากนัก
นายสุวิทย์กล่าวด้วยว่า บริษัทฯยังไม่สามารถประเมินยอดขายของบริษัทฯในสิ้นปี 54 ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แม้ว่าทุกปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทฯจะเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% และในปีก่อนมียอดขายรวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท จากหลายกลุ่มสินค้าในเครือ ทั้งนมข้นหวาน, นมยูเอชที, เนย และ นมข้นจืด โดยสัดส่วนยอดขายของบริษัทจะมาจากตลาดในประเทศ 80% และตลาดส่งออก 20% ส่วนปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของนมตรามะลิ ซึ่งบริษัทก็มีแผนทำแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่
ส่วนตลาดรวมนมข้นหวานของไทยที่มีมูลค่า 6,000 ล้านบาทนั้น จากเดิมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดเติบโตมากกว่า 5% แต่คาดว่าในปีนี้ ตลาดจะไม่มีการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และผู้ผลิตนมข้นหวานรายใหญ่ของประเทศทั้ง 2 แห่งถูกน้ำท่วมทั้งหมด ซึ่งทั้งสองรายมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 70-80% ส่งผลให้ในไตรมาสสุดท้ายของปีไม่มีสินค้านมข้นหวานจากหลายบริษัทออกสู่ตลาด
นายสุวิทย์ ผลวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมข้นหวาน ตรามะลิ นมข้นจืด ตราเบิร์ดวิงซ์ ตราออร์คิด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับแจ้งจากทางนิคมอุสาหกรรมบางปะอินว่า สามารถสูบน้ำออกได้หมดแล้วตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. บริษัทจึงเตรียมเข้าไปฟื้นฟูโรงงานและตรวจสอบเครื่องจักรว่าได้รับความเสียหายเพียงใด เนื่องจากเครื่องจักรบางส่วนอยู่ชั้นล่างไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีบางส่วนที่สามารถย้ายหนีน้ำขึ้นชั้น 2 ได้
ทั้งนี้คาดว่า โรงงานแห่งนี้จะสามารถกลับมาผลิตได้อีกครั้งในเดือน ม.ค.55 ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ มีกำลังการผลิตต่อปีประมาณ 4-5 ล้านลัง ซึ่งเป็นฐานผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปในตลาดต่างประเทศมากกว่า 30 ประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายทั้งหมด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมิน แต่ก็ได้ทำประกันภัยครอบคลุมเรื่องอุทกภัยไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า
สำหรับในช่วงนี้ บริษัทฯมีแผนนำเข้า นมข้นหวานจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาทำตลาดในไทย ทั้งจากมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยจะเริ่มนำเข้าในต้นเดือน ธ.ค.นี้ จำนวนมากกว่า 100,000 กระป๋อง ซึ่งบริษัทฯได้ว่าจ้างบริษัทในต่างประเทศ เป็นผู้ผลิตสินค้าให้ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ นมตรามะลิ เพื่อให้สินค้าไม่เกิดปัญหาขาดตลาด ส่วนราคาขายจะตั้งไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคมากนัก
นายสุวิทย์กล่าวด้วยว่า บริษัทฯยังไม่สามารถประเมินยอดขายของบริษัทฯในสิ้นปี 54 ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แม้ว่าทุกปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทฯจะเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% และในปีก่อนมียอดขายรวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท จากหลายกลุ่มสินค้าในเครือ ทั้งนมข้นหวาน, นมยูเอชที, เนย และ นมข้นจืด โดยสัดส่วนยอดขายของบริษัทจะมาจากตลาดในประเทศ 80% และตลาดส่งออก 20% ส่วนปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของนมตรามะลิ ซึ่งบริษัทก็มีแผนทำแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่
ส่วนตลาดรวมนมข้นหวานของไทยที่มีมูลค่า 6,000 ล้านบาทนั้น จากเดิมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดเติบโตมากกว่า 5% แต่คาดว่าในปีนี้ ตลาดจะไม่มีการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม และผู้ผลิตนมข้นหวานรายใหญ่ของประเทศทั้ง 2 แห่งถูกน้ำท่วมทั้งหมด ซึ่งทั้งสองรายมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 70-80% ส่งผลให้ในไตรมาสสุดท้ายของปีไม่มีสินค้านมข้นหวานจากหลายบริษัทออกสู่ตลาด
