ปลัดพาณิชย์เผย ปชช.แห่ซื้อสินค้าควบคุมที่ "อ.ต.ก." ระบุ ไข่ไก่ขายดีที่สุด แม้จะจำกัดการซื้อคนละ 2 ถาด ขณะที่ "สหกรณ์" จัดโครงการสหกรณ์เอื้ออาทรผู้ประสบภัย จำหน่ายข้าว-ไข่ราคาถูก ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 พ.ย.54 โพลระบุ ปชช. เรียกร้อง "ปู" เร่งแก้ปัญหาสินค้าแพงซ้ำเติมผู้เดือดร้อน ค่าใช้จ่ายพุ่งพรวด ทั้งน้ำดื่ม อาหาร และยารักษาโรค รวมถึงของขวัญปีใหม่ในการซ่อมแซมบ้านเรือน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการที่กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน นำไข่ไก่และสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพมาจำหน่ายในราคาควบคุมนั้น ที่ตลาดสด อตก. ได้นำไข่ไก่มาจำหน่ายทุกวัน โดยเน้นวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาซื้อในวันธรรมดาได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีไข่ไก่หายไปจากระบบประมาณ 3-4 ล้านฟองต่อวัน เนื่องจากประชาชนซื้อมากักตุน ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แก้ไขปัญหา โดยการจัดระบบให้การขนส่งกระจายไปยังผู้ค้าให้มากขึ้น ส่วนปัญหาการนำเข้าไข่ไก่ที่ติดขัดเรื่องการออกใบอนุญาตควบคุมโรคจากรมปศุศัตว์ เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดโรคระบาดเข้ามาจากต่างประเทศ ขณะนี้ ได้เจรจาให้นำเข้าได้แล้ว
สำหรับบรรยากาศที่ตลาดสด อตก.มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะไข่ไก่ที่ภาคเอกชนนำมาจำหน่ายในราคาควบคุม โดยจำกัดจำนวนการซื้อคนละ 2 ถาด โดยไข่ไก่เบอร์ 2 ถาดละ 90 บาท นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆ อาทิ ข้าวสาร น้ำมันพืช นมยูเอชที เป็นต้น
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดโครงการสหกรณ์เอื้ออาทรผู้ประสบภัย จัดจำหน่ายสินค้าราคาถูก เช่น ไข่ไก่ฟองละ 4 บาท ถาดละ120 บาท ข้าวหอมมะลิ 5 กก. ถุงละ175 บาท ข้าวขาว 5 กก. ราคา115 บาท นมสหกรณ์หนองโพขนาด 200 ซีซี แพคละ4 กล่องราคา 32 บาท น้ำดื่มขวด 600 ซีซีโหลละ 66 บาท
โดยจะเริ่มจำหน่ายวันนี้ถึง 14 พ.ย. 2554 ประชาชนสามารถซื้อได้ที่สหกรณ์ 20 แห่งในกทม. เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงศึกษา สหกรณ์เทเวศน์ สหกรณ์กรุงเทพ ที่ทำการเขตคลองสามวา สหกรณ์เครดิตยูเนียน เป็นต้นหรือที่สหกรณ์ข้างพรรคชาติไทยพัฒนา
ทั้งนี้ การจำหน่ายดังกล่าวกรมตั้งเป้าหมายจำหน่ายไข่ 2 ล้านฟอง เพื่อยืนยันในประเทศยังมีไข่จำหน่ายแต่มีปัญหาเรื่องการขนส่งซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทหารในการขนย้ายให้
ชณะที่เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเชิงสำรวจ เรื่อง "เสียงสะท้อนของผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อผู้ให้ความช่วยเหลือในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล" พบว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่รายได้หรือเงินเดือนเท่าเดิม โดยร้อยละ 72.6 เดือดร้อนในเรื่องอาหาร ร้อยละ 65.7 เดือดร้อนในเรื่องราคาน้ำดื่ม ยารักษาโรค และอื่นๆ
ทั้งนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจ พบว่าผู้ประสบภัยส่วนใหญ่อยากได้ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล ในเรื่องการซ่อมแซมที่พักอาศัย ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 65.0 แก้ปัญหาราคาสินค้าแพง ร้อยละ 59.3 แก้ปัญหาคนว่างงาน ร้อยละ 54.6 หาแนวทางป้องกันน้ำท่วมในอนาคต ร้อยละ 50.4 ส่วนเสียงสะท้อนของผู้ที่อยู่ศูนย์พักพิงส่วนใหญ่ ร้อยละ 66.3 อยากให้ทำฐานข้อมูลด้านการเงินหลังน้ำลด