“สัญญา”ออกโรงเคลียร์คดีดีแทคฉาว อัด”บรรยงค์-ยรรยง”ขัดคำสั่งรัฐมนตรีเรื่องตั้งทีมสอบ ยันไม่เคยเสนอตัวเองเป็นประธานสอบ ส่วนการชี้ขาดคดีตาม“อลงกรณ์”มอบหมาย คาดวันจันทร์นี้รู้ผลและฟันธงได้ ทรูขย่มซ้ำ ส่งหนังสือบีบพาณิชย์ฟันดีแทคเลิกกิจการ ข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงมติขัดคำสั่ง หากสั่งให้ฟ้องดีแทค เหตุทำลายระบบนิติรัฐ
นายสัญญา สถิรบุตร ประธานที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เปิดเผยถึงกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการตรวจสอบโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ว่า ขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดีแทคตามที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องที่นายอลงกรณ์ได้สั่งการให้แต่งตั้งตนเป็นประธานสอบ โดยมีนายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นเลขานุการ แต่นายบรรยงค์ กลับเสนอนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แต่งตั้งให้ตัวเองเป็นประธานสอบ ก็เลยเป็นปัญหา
“รัฐมนตรีได้สั่งการให้นายบรรยงค์ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องดีแทค โดยให้ผมเป็นประธาน ผมไม่ได้เสนอให้ตั้งตัวเอง และคำสั่งดังกล่าวก็ยังคงอยู่ แต่นายบรรยงค์ไปเสนอปลัดพาณิชย์ให้ตั้งตัวเองเป็นประธาน มีกรรมการจากหลายๆ ที่มาร่วม และเมื่อตั้งแล้ว ปลัดพาณิชย์ก็เสนอเรื่องให้รัฐมนตรีทราบ รัฐมนตรีก็สั่งการให้แก้ไขตรงคำสั่งที่สั่งการไว้ก่อนหน้า
(ให้ตั้งนายสัญญา เป็นประธาน) แต่นายบรรยงค์ก็ไม่ทำ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการขัดคำสั่งรัฐมนตรี”นายสัญญากล่าว
นายสัญญากล่าวว่า สำหรับการพิจารณาคดีดีแทคตามที่นายอลงกรณ์ได้มอบหมายให้ไปหาข้อสรุปนั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาผลสรุปของคณะทำงานฯ ชุดนายบรรยงค์อยู่ ซึ่งจากการอ่านเอกสารในเบื้องต้น เห็นว่า เป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่จะมีช่องโหว่อะไรหรือไม่ โปร่งใสหรือไม่ และมีอะไรที่ควรจะทำ ขอศึกษาข้อมูลก่อน โดยคาดว่าจะสรุปและส่งคืนให้นายอลงกรณ์ได้ภายในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค.นี้ และจะเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่เป็นความลับ จะเปิดเผยทุกอย่าง ไม่เหมือนที่คณะทำงานฯ ที่ทำมาก่อนหน้านี้
“วิธีการทำงาน ไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการมาดู เพราะทุกอย่างมันมีข้อสรุปอยู่แล้ว โดยจะเอาเอกสารที่คณะทำงานฯ สรุปแล้วมาดู เอาผลที่คณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคมที่สรุปไว้แล้วมาดู ถ้าสรุปได้ก็จะสรุป และเสนอให้นายอลงกรณ์ ส่วนจะเชื่อไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ท่าน”
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าตนได้เดินทางไปจีนในช่วงที่มีปัญหาการสอบสวนคดีดีแทคและได้มีโอกาสพบปะกับผู้บริหารของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ด้วยนั้น ได้เดินทางไปจริง แต่ไปตามคำเชิญของรัฐบาลจีนที่เชิญมาล่วงหน้า 6 เดือนแล้ว และเมื่อไปก็เจอกับผู้บริหารของซี.พี.จริง แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้
นายสัญญากล่าวว่า วานนี้ (7 ก.ค.) บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ได้มีหนังสือถึงนายอลงกรณ์ สรุปขอให้พาณิชย์ดำเนินการกับดีแทค หลังจากที่นายยรรยงให้ข่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ว่า ไม่ชัดเจน 100% ว่าดีแทคเป็นต่างด้าว แต่มีข้อเท็จจริงว่าเข้าข่าย โดยทรูมีความเห็นว่าความเห็นของนายยรรยงขัดแย้งกันเอง เพราะไม่ยืนยัน แต่ระบุว่ามีข้อเท็จจริงว่าเข้าข่าย จึงอยากให้พาณิชย์ที่ดูแลพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ต้องมีความชัดเจน เมื่อพบความผิดต้องดำเนินการ และร้องทุกข์ตามกฎหมาย
“ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทรู ได้ขอให้รมช.พาณิชย์ ได้โปรดพิจารณาทบทวนผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานฯ ชุดนายบรรยงค์ และได้โปรดสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ทำความเห็นเกี่ยวกับสถานะความเป็นนิติบุคคลไทยหรือนิติบุคคลต่างด้าวของดีแทคให้ชัดเจน และในกรณีที่พบการกระทำผิด ขอให้สั่งการให้ดีแทคเลิกการประกอบธุรกิจ หรือเลิกกิจการตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด”นายสัญญากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายสัญญาได้ทำการแถลงข่าว ผู้บริหารระดับสูงของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการติดตามการแถลงข่าวอย่างใกล้ชิด และได้มีการประชุมหารือและลงความเห็นกันว่า หากในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ นายอลงกรณ์สั่งการให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ดีแทค ก็จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะเห็นว่า การสั่งดำเนินคดีกับใคร หากข้อกล่าวหาไม่ชัดเจน ชัดแจ้ง ไม่สามารถทำได้ จะโดนฟ้องร้องได้ และขอให้จับตาดูว่า หากมีการสั่งการตามที่มีการตั้งข้อสมมติฐานไว้จริง มีรายงานข่าวว่า อธิบดีและข้าราชการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทั้งหมด จะเปิดแถลงข่าวในวันจันทร์เพื่อแสดงจุดยืนเช่นเดียวกัน