“อลงกรณ์” สั่งระงับผลสอบสถานะ “ดีแทค” ส่งให้ตำรวจ เจ้าตัวขอพิจารณาประเด็น “นอมินี” คาดใช้เวลา 2-3 วัน เพื่อให้ “สัญญา สถิรบุตร” ที่ปรึกษาเช็กรายละเอียดให้รอบคอบ เพราะยังถือว่ามีอำนาจ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคนใหม่ ยันไม่มีการเมืองเอี่ยว
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนเองได้มีหนังสือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อสั่งระงับการนำส่งผลตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่จะส่งให้ตำรวจเอาไว้ก่อน หลังจากที่คณะทำงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ตรวจสอบสถานะในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ตามการฟ้องดำเนินคดีของบริษัท ทรูมูฟ จำกัด
สำหรับเหตุผลที่สั่งให้ระงับไว้ก่อนนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เป็นเพราะตนเพิ่งได้รับรายงานผลสรุปของคณะทำงานเมื่อเช้านี้ และยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียด ซึ่งในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตนเองก็ยังถือว่ามีอำนาจในการที่จะพิจารณาเรื่องนี้ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคนใหม่
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า จะใช้เวลาในการพิจารณา และทบทวนผลการตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นดีแทคไม่เกิน 10 วัน หลังจากนั้นจะเสนอให้ รมว.พาณิชย์ พิจารณาว่า ดีแทคเข้าข่ายฝ่าฝืนกฏหมายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกชุด โดยมอบหมายให้ นายสัญญา สถิรบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อให้เข้าไปตรวจรายงานผลตรวจสอบสถานะของดีแทคอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่า ดีแทคมีการถือหุ้นในลักษณะที่เข้าข่ายการเป็นนอมินีจริงหรือไม่
“เนื่องจากคณะทำงานของกรมยังไม่ได้ชี้ชัดหรือฟันธงได้ 100% ว่า เป็นนอมินีต่างชาติ เพียงแต่มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่าจะเข้าข่ายการเป็นนอมินีเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการเมือง”
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ภายหลังคณะทำงานชุดของนายสัญญา ตรวจสอบแล้วเสร็จจะสรุป และรายงานผลกลับมาที่ตนอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าจะสามารถฟันธงเรื่องการเป็นนอมินีได้หรือไม่ ถ้าชี้ชัดได้ก็จะส่งเรื่องให้อัยการเพื่อดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป แต่หากไม่สามารถชี้ชัดได้ ก็จะส่งผลการตรวจสอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนข้อมูลในเชิงลึกต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 (วานนี้) นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะทำงานตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นดีแทค ได้นำเสนอรายงานการตรวจสอบมาให้แล้ว 35 หน้า แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ดีแทคมีสถานะเป็นบริษัทต่างด้าวหรือไม่ เพียงแต่มีมูลว่ามีการถือหุ้นแทนต่างด้าว หากเป็นจริงถือว่าขัดต่อมาตรา 36 ใน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนเชิงลึกต่อไป