“ดีแทค” ส่ง เจ้าหน้าที่ฝ่าย กม.เข้าชี้แจงกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันสถานะบริษัทไทย ด้านเจ้ากรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมสรุปผลตรวจสอบ 4 ก.ค.นี้
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า นางวีระนุช กมลยะบุตร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานกฎหมาย และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะทำงานตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2554 โดยยืนยันว่ามีสถานะเป็นบริษัทไทยและปฏิบัติตามกฎหมายไทย และข้อมูลที่ให้เป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ
สำหรับบริษัทและบุคคลที่ถือหุ้นใหญ่ในดีแทคอีก 8 ราย ที่คณะทำงานได้เชิญมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ ยังไม่มีรายใดเข้าให้ข้อมูล ซึ่งไม่ถือเป็นปัญหา เพราะทางคณะทำงานมีข้อมูลรายละเอียดการถือหุ้นต่างๆ อยู่แล้ว แต่การไม่มาให้ข้อมูล ไม่เป็นประโยชน์กับทางผู้ถือหุ้นและดีแทคเอง
ทั้งนี้ คณะทำงานยังไม่ได้ตั้งข้อข้อกล่าวหา แต่เป็นเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเชิญหน่วยงานต่างๆ มาสอบถามเพื่อให้ข้อมูลพิจารณาอย่างรอบด้าน ซึ่งคณะทำงานยังคงเปิดโอกาสให้ ทั้ง ดีแทค ทรูมูฟ และบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการถือหุ้นดีแทค เข้าชี้แจงและยื่นเอกสารข้อมูล จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เพื่อที่คณะทำงานจะได้สรุปผลการตรวจสอบเสนอให้กับนายยรรยงค์ พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว สรุปผลทั้งหมดในวันที่ 4 กรกฎาคม 2554
“จากข้อมูลที่มีอยู่ในเบื้องต้น จะสรุปผลการตรวจสอบได้ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2554 อย่างแน่นอน แต่จะไม่มีการฟันธงว่าใครผิด ใครถูก เพราะคณะทำงานชุดนี้เป็นผู้ที่ตรวจสอบตามประเด็นข้อกล่าวหาที่มีการตั้งข้อสังเกตและมีเหตุอันควรเชื่อถือได้ว่าดีแทคเป็นคนต่างด้าวเท่านั้น ส่วนการจะตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา”
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสัญญา สถิรบุตร ประธานที่ปรึกษานายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงกรณีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบดีแทคในวันที่ 30 มิถุนายน 2554
ก่อนหน้านี้ นายสัญญา ได้ออกมาระบุว่า มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างข้าราชการประจำกับฝ่ายการเมืองเกิดขึ้น และขอให้กรมยืนยันไปยังกรรมาธิการ สื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรว่า เห็นด้วยกับข้อสรุปของกรรมาธิการ ที่ระบุว่า ดีแทคมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นต่างด้าว และขอให้กรมร่างคำสั่งตั้งคณะทำงาน โดยระบุว่ามีหนังสือจากนายอลงกรณ์เขียนกำกับให้ นายสัญญาเป็นประธาน และไม่จำเป็นต้องมีกรรมการจากหน่วยงานอื่น และไม่ตั้งคณะทำงานตรวจสอบจะมีความผิดข้อหาละเว้น