xs
xsm
sm
md
lg

ติดน้ำท่วม

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

น้ำท่วมคราวนี้ ผู้คนต้องอพยพย้ายบ้านกันอย่างโกลาหล อย่างแรกที่คนส่วนใหญ่ทำก็คือ การย้ายรถไปอยู่ที่สูงตามศูนย์การค้า โรงแรม แม้กระทั่งบนที่จอดรถของโรงพยาบาลมีรถขึ้นไปจอดเต็มหมด ลูกชายคนเล็กของผมเอารถผมไปจอดอยู่ที่คอนโดฯ แถวๆ ซอยมหาดเล็กหลวง ซึ่งเป็นที่สูงและคาดว่าน้ำคงไม่ท่วมมาถึง

คนทำงานต้องไปหาโรงแรมเช่า ระดับผู้บริหารก็ไปอยู่โรงแรมห้าดาว ส่วนระดับล่างลงมาก็ไปหาโรงแรมระดับต่ำกว่าอยู่ ผู้อพยพไปอยู่หัวหิน พัทยา ก็ไปเช่าโรงแรมหาทาวน์เฮาส์โดยเหมาเป็นเดือนอยู่ ทำให้ที่พักเต็มไปหมด ร้านขายของก็ขายของหมด ร้านอาหารก็แน่น รถก็ติด

ผมมาพักอยู่หัวหินเกือบเดือนหนึ่งแล้ว ในหัวหินเต็มไปด้วยคนกรุงเทพฯ ที่หนีน้ำมา เพื่อนบางคนที่มีบ้านเขาใหญ่ก็ไปพักที่นั่น เมื่อหลายปีก่อนมีข่าวเล่าลือว่า น้ำจะท่วมโลก เมืองไทยจะเหลือแค่เชียงใหม่ หรือแถบพิษณุโลก บางคนไปซื้อที่บนภูเขาแถวๆ พิษณุโลก ผมคิดว่าเขาใหญ่น่าจะปลอดภัย บังเอิญลูกๆ ชอบแถบนั้น เราจึงมีที่อยู่ 4 ไร่ รับรองว่าไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน ผมเริ่มปลูกบ้านลงฐานรากได้ และกำลังจะขึ้นโครงบ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่บนเนิน และขุดบ่อน้ำ หากน้ำท่วมปีหน้า พวกเราคงอพยพไปอยู่เขาใหญ่

เรื่องน้ำท่วมโลกนี้มีเค้าว่าจะเป็นจริง แต่จะช้าจะเร็วแค่ไหนก็เหลือจะเดา บางคนก็ว่าปีหน้า 2012 พวกฝรั่งมีคำทำนายว่าโลกจะถึงแก่กาลอวสาน เรื่องน้ำท่วมโลกนี้ทุกชาติทุกเผ่าชนมีนิทานเล่าขานกันมา ดังนั้นจึงพออนุมานได้ว่าเป็นเรื่องที่ชาวโลกเคยมีประสบการณ์ร่วมมาแล้ว ในเมืองไทยเราก็มีตำนานหลายเรื่องว่าเมืองบางเมืองถูกน้ำท่วมหายไปหมด อย่างเช่น ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ เป็นต้น ตามตำนานระบุเหตุของความพินาศว่าเป็นเพราะผู้ปกครองไม่ได้ตั้งอยู่ในศีลในธรรมจึงเกิดอาเพศ มีข้อสังเกตว่าคนโบราณได้คิดว่าเป็นเรื่องภัยธรรมชาติอย่างเดียว แต่นำไปโยงกับการเมืองการปกครองด้วย อย่างสมัยนี้ก็มีคนพูดถึงคำทำนายของพระรูปหนึ่งที่ว่า จะมีผู้ปกครองเป็นผู้หญิงแล้วจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ นัยว่าเป็นกาลกิณี แต่ผมไม่เห็นด้วย เรื่องที่ว่าผู้หญิงแบบนี้

ต่อไปนี้เรื่องน้ำท่วมคงเป็นเรื่องใหญ่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เห็นว่าเมืองไทยเราไม่เหมาะกับเป็นเมืองอุตสาหกรรม เราเป็นเมืองเกษตรกรรม ภูมิประเทศของเราก็เหมาะกับการเพาะปลูกมากกว่า การก่อสร้างโรงงาน และบ้านจัดสรรในเขตรับน้ำ หรือทางน้ำไหลก่อให้เกิดน้ำท่วม ในอนาคตเราคงจะต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การเวนคืนพื้นที่บางส่วนเพื่อใช้เป็นที่รองรับน้ำ เป็นต้น

ผมมาอยู่หัวหินครั้งนี้นานกว่าเพื่อน ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงมากมาย บ้านผมอยู่สูงมองเห็นวิวทะเลด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็นวิวภูเขา เมื่อมาอยู่ทีแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว ฟากภูเขามองออกไปยังโล่ง ตอนกลางคืนก็มืดมิด เดี๋ยวนี้มีแสงไฟระยิบระยับแผ่ไปไกลเพราะมีบ้านจัดสรรผุดขึ้นมากมาย ตามที่ที่ติดอยู่กับเขา โดยเฉพาะชาวต่างชาติมาซื้อบ้านกันมาก ถึงกับมีเอเยนต์จัดสรรหลายบริษัท ได้ข่าวว่าพวกสแกนดิเนเวียมาอยู่กันมาก บางรายเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟก็มี

แต่ก่อนหัวหินมีชาวบ้านกับมีเจ้านาย และคนชั้นสูงมาตากอากาศ แต่ก็คึกคักเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น หัวหินจึงเป็นเพียงสถานที่ตากอากาศเล็กๆ มีตลาดเล็กๆ และมีร้านอาหารไม่กี่ร้าน สมัยก่อนนิยมทำอาหารกินกันที่บ้าน เวลาจะมาต้องยกครัวมีแม่ครัวมาด้วย เดี๋ยวนี้หัวหินมีร้านอาหารผุดขึ้นมากมาย ร้านอาหารอิตาเลียนมีหลายสิบร้าน แต่ก็มีเพียงร้านสองร้านเท่านั้นที่จัดว่าอยู่ในขั้นดี ส่วนร้านอาหารไทยมีมาก พวก “เจ๊ๆ” ต่างๆ อยู่ติดทะเล

ร้านที่คนนิยมมากที่สุดคือ ร้านน้องเมย์ คนแน่นมากอาหารเด็ดๆ ของเขาก็มีแกงป่าปลากราย ต้มส้มปลากระบอก กุ้งชาววัง ปลาทอดโบราณ เป็นต้น ส่วนร้านอื่นๆ ติดทะเลใกล้เมืองก็มีบ้านอิสระ ร้านอยู่เย็น เป็นต้น แถวๆ เขาตะเกียบก็มีบรรดา “เจ๊” ทั้งหลาย โดยเฉพาะเจ๊เขียว

ผมบ่นแล้วบ่นอีกว่าคนหัวหินนี้ทำโจ๊กไม่เป็น พอบ่นไปก็มีรุ่นน้องโอวี (วชิราวุธ) ส่งโจ๊กมาให้ทาน แต่ก็ยังไม่เข้าขั้น ดีหน่อยที่มีร้านขนมปังฝรั่งเศสทำขนมปัง และพวกพายต่างๆ อร่อย ร้านไส้กรอกเยอรมันที่นี่คนเยอรมันทำเองก็ใช้ได้

ก๋วยเตี๋ยวที่นี่มีหลายเจ้า แต่ไม่มีเจ้าใดเลยที่จะอร่อยเหมือนในกรุงเทพฯ ที่พอกินได้ เห็นจะเป็นร้านนายหอย ผมเห็นว่าชายทะเลแถบเมืองชล ศรีราชา ระยอง ทำอาหารอร่อยกว่าชาวหัวหิน แม้แถบสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และชะอำก็ทำอาหารเก่งกว่าหัวหิน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะแย่ไปหมด

ผมเองไม่รู้จะติดอยู่นี่กี่วัน แต่ละวันก็ได้แต่ว่ายน้ำ นวด ดูทีวี อ่านหนังสือ หวังว่าคงไม่ต้องอยู่ฉลองปีใหม่ที่นี่นะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น