xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ดับฝันคลังโอนหนี้FIDF เหตุ5ปีขาดทุนพุ่ง1.5ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – แบงก์ชาติดับฝันคลังโอนหนี้ FIDF 1.14 ล้านล้าน เหตุจะกดดันให้ ธปท.มีฐานะขาดทุนเพิ่มถึง 1.5 ล้านล้านบาทในอีก 5 ปี พร้อมสั่งให้เปิดช่อง บล.ทำธุรกรรมซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเฉพาะรายใหญ่ เพิ่มช่องซื้อขายอนุพันธ์ในตลาด TFLEX เพิ่มเติมป้องกันความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลังเปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ได้หารือถึงหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) ที่ค้างมานานว่า หากมีการโอนหนี้ทั้งหมด 1.14 ล้านล้านบาทที่เป็นภาระภาครัฐอยู่ในขณะนี้คืนกลับไปให้ ธปท.แล้วจะมีผลกระทบต่อฐานะ ธปท.อย่างไรบ้าง โดย ธปท.ได้ชี้แจงว่า เฉพาะบัญชี ธปท.อย่างเดียวที่ยังไม่นับรวมหนี้ที่จะโอนไปนั้นในอีก 5 ปีจะมีเงินกองทุนติดลบถึง 6.89 แสนล้านบาท และหากโอนหนี้ดังกล่าวไปจะทำให้เงินกองทุนติดลบเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านบาททีเดียว

“เราไม่ได้สอบถามว่าสาเหตุที่เงินกองทุนธปท.จะติดลบมากขนาดนั้นในอีก 5 ปีเกิดจากสาเหตุอะไร แต่หากภาพเป็นอย่างที่เห็น เราก็คงต้องจบประเด็นที่เคยคิดจะโอนหนี้ของกองทุนฟื้นฟูทั้งหมดกลับไปให้ธปท. เพราะจะทำให้ฐานะธปท.แย่ลงมาก ดังนั้นที่ใครๆ บอกว่า ธปท.ฐานะดีก็คงไม่จริง ดังนั้นหากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าในช่วง 5 ปีจากนี้ธปท.เองก็คงไม่ได้ชำระหนี้เงินต้นลงได้เลย จึงให้กลับไปศึกษาว่า หากกลับข้างรับผิดชอบกันคือ ธปท.รับผิดชอบจ่ายภาระดอกเบี้ย ขณะที่กระทรวงการคลังรับภาระจ่ายเงินต้นแล้วผลจะเป็นอย่างไรต่อไป”

นายธีระชัยกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ธปท.กลับไปศึกษาการเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทำธุรกรรมซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนได้ แต่ทำได้เพียงเป็นการซื้อขายกับรายใหญ่เท่านั้น โดยจะเริ่มต้นที่ หากเป็นรายได้ที่เกิดจากการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ เงินที่ไหลเข้าออก ให้สามารถหักกลบลบหนี้ในบัญชีได้เลย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มธุรกรรมให้กับบล.ได้มากขึ้นและในระยะยาวจะต้องสามารถทำธุรกิจให้ครบวงจรเหมือนระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธปท.ขอเวลาหารือในรายละเอียด โดยกำหนดเป้าหมายให้เสร็จในกลางปีหน้า

ขณะเดียวกันกำลังเร่งรัดให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดทำรายละเอียด กฎเกณฑ์ในการนำตราสารอนุพันธ์ที่เป็นการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินบาท เข้าซื้อขายในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFLEX) ได้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนให้สามารถเข้ามาซื้อขายตราสารอนุพันธ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้มากขึ้นแทนที่จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากระบบธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มซื้อขายได้ในครึ่งแรกปีหน้า ซึ่งพอรับได้ แม้ว่าจะต้องการให้เสร็จในไตรมาสแรกปีหน้าก็ตาม

สำหรับแนวทางการเร่งเปิดเสรีให้ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศทำธุรกิจได้ครบวงจรเร็วขึ้น เพื่อเพิ่มการแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ไทยในการปรับลดส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและจ่ายให้แคบลงนั้น นายธีระชัยกล่าวว่า ธปท.ได้ชี้แจงว่า ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินมีกรอบเวลาในการเปิดเสรีที่ชัดเจนอยู่แล้ว ก็ควรจะยึดตามกรอบดังกล่าว แต่ตนไม่เห็นด้วย เพราะ ธปท.ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีความพร้อมในการเปิดรับคู่แข่งใหม่ๆ ได้อยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง จึงมองว่า ธนาคารต่างประเทศเองที่เตรียมความพร้อมในไทยจะยิ่งพร้อมมากขึ้น เพราะที่อยู่ในไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ข้ามชาติขนาดใหญ่อยู่แล้ว จึงให้ไปศึกษาร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้เร่งเปิดตลาดให้แข่งขันกันให้เร็วขึ้นมากกว่านี้ เพื่อเปิดรับธนาคารทั้งจากเอเชียและอาเซียนที่จะเข้ามาทำธุรกิจในไทยมากขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น