xs
xsm
sm
md
lg

ประปาวิกฤติ น้ำเน่าทะลักไม่เลิก ไม่ต่อวันหยุด"ปู"อ้างคลี่คลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - เอาไม่อยู่! น้ำเน่าจากหมู่บ้านเมืองเอกทะลักคลองประปาต่อเนื่อง ส่อวิกฤตน้ำประปา ผู้ว่าฯ กปน.ต้องออกโรงยันตรวจแล้วไม่พบอีโคไล-สารพิษ ยกเว้นเรื่องสีและกลิ่น ให้ต้มก่อนดื่ม ส่วนสถานการณ์ใน กทม.ทุกจุดยังวิกฤติ ทั้งสามเสน-สุมขุมวิท "สุขุมพันธุ์" สั่ง "ตลิ่งชัน" ให้เตรียมอพยพ ด้าน ครม.ไม่ขยายวันหยุดราชการ "ปู" อ้างอีก 1-2 วัน กทม.คลี่คลาย!

ปัญหาน้ำประปายังไม่คลี่คลายภายหลังประชาชนในพื้นที่พยายามรื้อคันกั้นน้ำบริเวณวัดนาวง ย่านดอนเมือง เพื่อให้น้ำเน่าไหลออกจากหมู่บ้านเมืองเอก ส่งผลน้ำยังคงได้ทะลักเข้ามาในคลองประปา กระทบต่อการผลิตและคุณภาพน้ำประปาในขณะนี้ ล่าสุดการประปานครหลวง (กปน.) ต้องเร่งหาวิธีแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ได้แก่ การเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เพิ่มคลอรีนฆ่าเชื้อโรค เพิ่มการใช้ด่างทับทิมและถ่านกัมมันต์เพื่อดูดสีและกลิ่นในน้ำ

นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่า กปน. กล่าวว่า ขณะนี้น้ำจากเมืองเอกที่มีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ไหลบ่าท่วมเข้าคลองประปาเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ไซฟอนรังสิตถึงแยกสรงประภา ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้กปน.จะได้แก้ปัญหาโดยร่วมมือกับ กทม.เร่งระบายน้ำทิ้งลงคลองบางเขน บางซื่อและสามเสนแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ทันกับปริมาณน้ำที่ไหลบ่าเข้าคลองประปา

โดย กปน.ได้ร่วมกับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองพล ปตอ. กรมชลประทานและกรมเจ้าท่า ระดมเรือขุด พร้อมกับขอความร่วมมือการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคติดตั้งระบบไฟแสงสว่างให้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำแนวคันดินเสริมตลอด 24 ชม.เพื่อกั้นไม่ให้น้ำหลากเข้าคลองประปา

ทั้งนี้ กปน.จะมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกวัน ซึ่งยังตรวจไม่พบเชื้ออี.โคไล และเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ไม่พบสารพิษ โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคทเมียม โครเมียม ปรอท สารหนู ยกเว้นสีและกลิ่น แต่เพื่อความมั่นใจในช่วงนี้ จึงขอให้ประชาชนต้มน้ำก่อนบริโภค

"กปน.จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆสู้กับน้ำท่วมครั้งนี้เต็มที่ เพื่อป้องกันแนวคลองประปาและรักษาระบบผลิตน้ำเพื่อจ่ายน้ำให้กับประชาชนต่อไป" นายเจริญกล่าว

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศปภ. กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการซ่อมแซมกระบวนการผลิตน้ำประปาที่มหาสวัสดิ์เรียบร้อยแล้ว ทำให้เพิ่มการผลิตได้ 9 แสน ลบ.ม.ต่อวันตามปกติ แต่ก็มีปัญหาใหม่ขึ้นมาคือ น้ำล้นที่คันกั้นน้ำคลองประปา ที่กำลังซ่อมแซมอยู่ ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีผลกระทบอะไร ส่วนเรื่องคุณภาพน้ำทางการประปานครหลวง (กปน.) ก็ยืนยันว่าปลอดภัยดีอยู่ และมีคำแนะนำว่าหากให้ดี ประชาชนควรต้มก่อนบริโภค

สำหรับพื้นที่ฝั่งธนฯ กปน.ยังได้ออกประกาศลดกำลังการผลิตน้ำของโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์เมื่อวันที่ 30 ต.ค. เนื่องจากน้ำดิบมีคุณภาพต่ำและจ่ายน้ำเป็นช่วงเวลาในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำให้โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์สามารถผลิตและจ่ายน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 05.00 น. สำหรับในบริเวณปลายเส้นท่อเขตรอบนอกยังคงมีน้ำไหลอ่อนอยู่บ้าง และจะปรับแรงดันน้ำสูงขึ้นเป็นลำดับ

**‘ฉิมพลี-ตลิ่งชัน-บางระมาด’ เตรียมอพยพ

ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงสถานการณ์ท่วมว่า กทม.ได้ลงนามประกาศให้ แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน เป็นเขตเฝ้าระวังพิเศษ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยในแขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน แขวงระมาด เขตตลิ่งชัน เตรียมพร้อมในการอพยพทุกขณะ

“ขณะนี้ที่เขตตลิ่งชัน มีปริมาณน้ำไหลบ่าเข้ามาในคลองมหาสวัสดิ์ ทำให้ระดับน้ำในคลองสูงขึ้น เป็นผลให้คันกั้นน้ำบางส่วนชำรุด มีกระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว รวมทั้งไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เขตทวีวัฒนา ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แขวงฉิมพลี ถ.สวนผัก ตั้งแต่ริมทางรถไฟ ถึง ถ.กาญจนาภิเษก ด้านถ.บรมราชชนนีฝั่งขาเข้า จำนวน 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหมู่บ้าน 2521 และชุมชนหมู่บ้านพัฒนา หมู่ 7 ฉิมพลี อีกทั้งแขวงตลิ่งชัน ตั้งแต่ถ.สวนผัก ซ.36 ถึงริมทางรถไฟ และชุมชนหลังวัดไก่เตี้ย รวมถึงแขวงบางระมาด เฉพาะชุมชนวัดมะกอก เขตตลิ่งชัน ขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ ปลั๊กไฟฟ้าขึ้นที่สูง ”ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

**ทุบสถิติน้ำหนุนสูง 2.53 ม. อีกรอบ

สำหรับสถานการณ์น้ำในวันนี้ น้ำทะเลหนุนสูงสุดเวลา 10.21 น.ที่ระดับ 1.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาดจะสูงสุดที่ระดับ 2.53 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้พื้นที่ทรงวาด และสามเสน 21 และ 23 ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเจ้าพระยา

ขณะนี้พื้นที่เขตดอนเมือง เกิดภาวะน้ำท่วมเกือบจะเต็ม 100% โดย กทม. ทั้งนี้ กทม.ได้ทำหนังสือถึง ศปภ.ให้ดำเนินการสกัดน้ำที่ไหลมาจากคลองรังสิต บริเวณถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิต

**ดอนเมือง-บางพลัดน้ำเริ่มเน่า

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ปัญหาที่พบเพิ่มเติม คือ ปัญหาขยะ และปัญหาน้ำเสีย กทม.จะนำจุลินทรีย์บอลเพื่อเข้าไปช่วยบำบัดน้ำเสียในพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขตดอนเมือง และเขตบางพลัด

**น้ำท่วมขยายวง ใกล้ วงเวียนบางเขน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ตอนเหนือของกทม.ส่งผลให้ถนนวิภาวดี-รังสิต ขาออก ใช้ได้ถึงแยกหลักสี่เท่านั้น เนื่องจากน้ำได้ท่วมถึงช่วงวัดหลักสี่ ทำให้พื้นที่ในวัดน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร ส่วนบริเวณถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกกรมพลาธิการทหารอากาศ ซอยพหลโยธิน 54/1 มวลน้ำจากรังสิตและคลอง 2 ได้ไหลทะลักเข้ามา ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมสูง และเลยไปจนถึงหน้าห้างบิ๊กซี สะพานใหม่ ต้องปิดการจราจร ตั้งแต่แยกกรมพลาธิการทหารอากาศ ไปจนถึงแยกอนุสรณ์สถาน ขณะที่หน้าโรงพยาบาลภูมิพลฯ ได้มีน้ำไหลล้นคันกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนมีคนไข้ติดค้างประมาณ 70 ราย ทั้งนี้คาดอีกไม่เกิน 20 เมตรจะเข้าสู่วงเวียนบางเขน ก่อนที่น้ำจะลงไปในอุโมงค์บางเขน

**น้ำไหลเข้า ม.เกษตรแล้ว

บริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน น้ำได้เอ่อจากคลองบางเขนทางด้านทิศเหนือไหลเข้าท่วมชุมชนริมคลอง และไหลมายังกลางมหาวิทยาลัยโดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยที่มาพักพิงที่มหาวิทยาลัย ไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ขณะที่ยังมีบุคลากรของมหาวิทยาลัยปฏิบัติหน้าที่จำนวน 1,300 คน โดยได้มีการนำกระสอบทรายและก่อกำแพงป้องกัน

**น้ำคลองลาดพร้าวลด -เร่งระบายแสนแสบ

ส่วนระดับน้ำภายในคลองลาดพร้าว หน้าวัดลาดพร้าวลดลงจากวานนี้ แต่ยังคงเอ่อล้นคันคลอง ซึ่งเป็นแนวเขื่อนกั้นริมคลองลาดพร้าว ทำให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หากปริมาณน้ำมากขึ้น โดยเฝ้าสังเกตระดับน้ำและยกของขึ้นที่สูง รวมถึงยังมีบางส่วนกักตุนน้ำดื่มของอุปโภคบริโภค ทำให้ร้านค้าบริเวณดังกล่าวเริ่มขาดแคลนสินค้า ส่วนบริเวณถนนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เอ่อล้นคันคลอง เพราะสามารถระบายน้ำออกได้ เนื่องจากมีเรือของเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจำนวน 2 ลำมาช่วยในการดันน้ำ รวมถึงสำนักการระบายน้ำได้เร่งสูบน้ำระบายออกทางคลองแสนแสบ เพื่อลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ขณะที่การจราจรทั้งบริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ และลาดพร้าว มีรถสัญจรไปมาน้อย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นำรถไปจอดไว้บนทางด่วน รวมถึงบางส่วนยังคงเดินทางออกต่างจังหวัด

**น้ำผุดท่อท่วมหลัง มธบ.-มก.-รามอินทรา

ที่บริเวณสี่แยกภาสยาด้านหลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พบน้ำเริ่มผุดขึ้นจากท่อระบายน้ำ และไหลเข้าท่วมพื้นที่บริเวณหมู่บ้านชินเขต 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ทำให้ภายในซอยเริ่มมีน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

**ท่วม ถ.รามอินทรา กม.1-5 รถติดหนัก

การจราจรบน ถ.รามอินทราตั้งแต่ กิโลเมตรที่ 1- 5 ติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากมีรถจำนวนมากหลีกเลี่ยงน้ำท่วมออกจาก กทม. มีน้ำได้เอ่อล้นขึ้นมาบนถนนรามอินทรา ซึ่งบางจุดท่วมขึ้นมาถึง 2 ช่องการจราจร ราว 40 เซนติเมตรส่วนตามซอยต่างๆ ได้มีน้ำท่วมขัง ตลอดฝั่งขาออก

**ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาเพิ่ม 20 ซม.

ส่วนเขตทวีวัฒนาระดับน้ำยังคงท่วมสูง โดยระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาสูงกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ประมาณ 20 เซนติเมตร ส่งผลให้ถนนในพื้นที่หลายสาย ถูกตัดขาด ถนนศาลาธรรมสพน์ รถไฟสายใต้ ไม่สามารถวิ่งได้ ถนนพุทธมณฑล จ.นครปฐม ถนนบรมราชชนนี ส่วนประชาชนในพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมสูง อาทิ แขวงศาลาธรรมสพน์ ยังมีจำนวนมาก ที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่คิดว่าน้ำจะไม่ท่วมสูงมากหนัก

ส่วนความคืบหน้าคุณภาพน้ำดิบ ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีคลองมหาสวัสดิ์ ได้มีสาหร่ายไปอุดระบบการกรองต่างๆ ส่งผลให้ เจ้าหน้าที่ต้องลดกำลังการผลิตลง ร้อยละ 50 นั้น ล่าสุดแก้ไขแล้ว และสามารถจ่ายน้ำได้ตามปกติ

**น้ำทะลัก “สุขุมวิท50-บางนา”

วันเดียวกัน นางวิภารัตน์ ไชยยานุกิจ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 ต.ค. พนังกั้นน้ำคลองพระโขนงในพื้นที่พังทลายลง 2 จุด คือ บริเวณใต้ทางด่วนใกล้วัดสะพาน และอีกจุดหนึ่ง คือใกล้ลานหิมะทองคำจุดเดิมที่เคยแตก แต่ครั้งนี้ขยับมาทางด้านหมู่บ้านเปรมฤทัย ซึ่งสองจุดนี้เป็นจุดที่ทางเขตมีการค้ำยัน และเสริมแนวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่เนื่องจากเป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำและความแรงค่อนข้างมาก การเข้าซ่อมแซมจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมยาวไปจนถึงซอยสุขุมวิท 50 ในพื้นที่สำนักงานเขตพระโขนง

**คันกั้นคลองเตยพังทะลัก ม.เปรมฤทัย

นางวิภารัตน์ กล่าวว่า พนังกั้นน้ำบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเปรมฤทัย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการทำพนังกั้นน้ำไว้อย่างดี แต่ล่าสุดได้พังลง ส่งผลให้น้ำได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านแล้ว โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจ และสำนักการระบายน้ำ ทางเขต ได้พยายามเอาทรายลงอุด แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากน้ำมีความแรงมาก ล่าสุด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายก่อน แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ให้ทราบ เพื่อหาทางป้องกัน

ปัญหาที่พบอีกอย่าง คือ สถานีสูบน้ำบริเวณลานหิมะทองคำ น้ำได้ไหลเข้าทำให้สูบน้ำไม่ได้ ทำให้การระบายน้ำไม่ดีเท่าที่ควร

**กำแพงซอยสามเสนแตกน้ำทะลัก

ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยายังวิกฤติ กำแพงบริเวณซอยสามเสน 21 เขตดุสิตของเอกชนพังอีกจุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมแล้ว โดยยังเหลือระยะอีกราว 1 เมตรจะสามารถซ่อมเสร็จ แต่ก็ยังส่งผลให้เป็นช่องที่น้ำยังสามารถไหลเข้าท่วมอย่างแรง และเริ่มขยายวงกว้างสู่ซอยสามเสน 23

ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมฯ พระราชทานอาหารกล่อง และน้ำดื่ม แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ กู้คัน ซ.สามเสน 21 จำนวน 150 ชุด

นางสาวอารีย์ วงศ์นพรัตน์เลิศ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดุสิต กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน4 รอ.) กองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ (ม.พัน3 รอ.) และประชาชน อยู่ระหว่างช่วยกันลำเลียงกระสอบทราย เข้าซ่อมแซมจุดที่คันกั้นน้ำแตก ขณะนี้สามารถซ่อมแซมพนังกั้นน้ำในซอย สามเสน 21 ได้แล้ว ทำให้ระดับน้ำค่อยๆ ลดลง โดยขณะนี้ไม่ท่วมพื้นถนนแล้ว

**บางพลัดน่าห่วง-ตั้งฮั่วเส็งน้ำสูง 1 ม.

บริเวณแยกบางพลัด ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะนอกจากระดับน้ำยังไม่ลดลงแล้ว การเดินทางของประชาชนที่ต้องการเดินเข้า ออก พื้นที่ ก็มีอย่างทุลักทุเล

โดยเฉพาะ บริเวณห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี พบว่า ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

**จรัญสนิทวงศ์ น้ำปกคลุมเต็มพื้นที่

ที่เชิงสะพานกรุงธนหรือสะพานซังฮี้ ถึงสะพานบางขุนนนท์ บนถนนจรัญสนิทวงศ์ หากเดินทางโดยรถทหารต้องใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที พบว่า น้ำได้ปกคลุมเต็มพื้นที่ ทั้งบนถนน รวมทั้งซอยต่างๆ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร

**สะพานอรุณฯน้ำสูงเรือนำเรือช่วยปชช.

บริเวณเชิงสะพานอรุณอมรินทร์ พบว่า น้ำยังคงท่วมเป็นบริเวณกว้าง จึงทำให้การเดินทางของประชาชนต้องใช้เรือในการเดินทาง กองทัพเรือได้นำเรือจำนวน 6 ลำ มาให้บริการรับ - ส่งประชาชนที่บริเวณเชิงสะพานอรุณอมรินทร์ โดยไปที่บริเวณแยกปิ่นเกล้า และเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งเมื่อถึงจุดดังกล่าวแล้ว ก็จะมีรถทหารให้บริการต่อไป โดยเรือ 1 ลำ บรรทุกประชาชนได้ 15 - 18 คน

**สาทรเตรียมพร้อมรับมือน้ำทะเลหนุน

ที่บริเวณท่าเรือสาทร กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังไหลเชี่ยว และมีระดับน้ำสูงเลยแนวคอนกรีต ทำให้มีน้ำไหลทะลักเข้ามาด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้มีการวางกระสอบทรายเป็นแนวกั้นอีกชั้น ป้องกันไม่น้ำไหลทะลักเข้าถนนเจริญกรุงอีก

ที่ซอยเจริญกรุง 58 ก็ยังมีน้ำไหลเอ่อเข้ามาที่บริเวณท้ายซอยอย่างต่อเนื่อง ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนถนนเจริญกรุง มีการเตรียมพร้อมรับมือ ด้วยการก่ออิฐและวางกระสอบทรายสูงกว่า 50 เซนติเมตร

**เรือคลองแสนแสบเปิดให้บริการบางช่วง

บริษัทครอบครัวขนส่ง ผู้ให้บริการเรือคลองแสนแสบ เปิดเผยว่า วานนี้30 ต.ค.เรือคลองแสนแสบ

ยังเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 19.00 น. แต่เปิดให้บริการเพียงบางช่วงเท่านั้น โดยเปิดให้บริการระหว่างท่าวัดศรีบุญเรือง ถึงท่าประตูน้ำเท่านั้น เนื่องจากกทม. เริ่มปล่อยน้ำเข้ามายังคลองแสนแสบบ้างแล้ว ทำให้เรือสามารถวิ่งได้ ส่วนเส้นทางระหว่างท่าราชเทวีถึงท่าผ่านฟ้า ยังไม่เปิดให้บริการ

**ท่วมมหิดล ศาลายา ถนน กว่า 50 ซม.

ส่วนที่บริเวณถนนทางเข้า มหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา ขณะนี้ ได้ท่วมผิวการจราจรสูงกว่า 50 เซนติเมตรแล้ว แต่บางจุดบริเวณบ้านเรือนของประชาชนท่วมสูงกว่า 1.30 เมตร และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นขึ้นมาบ้างแล้ว ขณะพบว่า ประชาชนยืนรอรถที่ทำการอพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้จุดอพยพที่ วิทยาลัยนาฏศิลป์ศาลายา รองรับผู้มาพักพิงแล้วกว่า 600 คน โดยเป็นประชาชนที่มาจากชุมชนย่านศาลายา และใกล้เคียง

ขณะที่พื้นที่จ.นครปฐม และสมุทสาคร ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อไปก็มีการเตรยีมตัวของภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง

**ผวจ.ปากน้ำยันรับมือน้ำเหนือได้

นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่ของ จ.สมุทรปราการ ยังไม่ได้รับผลกระทบมากหนัก มีเพียงบางจุด อาทิ ด้านตะวันออก คลองพระองค์ไชยานุชิต ซึ่งเป็นจุดที่ใช้เป็นที่ระบายน้ำลงสู่คลองแสนแสบ และคลองประเวศบุรีรมย์ ก็มีปัญหาเล็กน้อย ส่วนปัญหาพนังกั้นน้ำแตก ยังไม่พบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อาศัยการระบายน้ำโดยใช้ประตูระบายน้ำ มีคลองใหญ่ 5 คลอง การขุดลอกคูคลอง อีกทั้งขณะนี้ เครื่องสูบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังตอนนี้ คือ เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งอยู่ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด

**ปูควง "น้องไปป์" เข้าตึกก.พลังงาน

อีกด้าน วานนื้ถือเป็นวันที่สอง ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ (ศปภ.) ย้ายออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง มาที่ตึกเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน แต่ไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนขึ้นไปบนชั้น 15 ซึ่งเป็นศูนย์ศปภ. แต่กำหนดพื้นที่บริเวณชั้น 1 ให้สื่อมวลชนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้านหน้าอาคารมีการเสริมพนังกั้นน้ำที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร แม้แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ"น้องไปป์" หรือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ที่เข้ามาด้วยก็จะต้องเดินข้าม

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ แม้ต่อมานายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะอ้างว่าไม่ใช้เป็นการประชุมครม.นัดพิเศษ แต่เป็นการประชุมคณะทำงานด้านการระบายน้ำของศปภ. ที่มีหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมเท่านั้น

**ไม่ขยายวันหยุดราชการต่ออีก

ช่วงบ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาขยายวันหยุดราชการตามที่ได้ประกาศให้หยุดราชการกรณีพิเศษตั้งแต่วันที่ 27-31 ต.ค.ซึ่งจะครบกำหนดแล้ว ว่า ในส่วนของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่าจนถึงวันนี้แล้วเมื่อมีการสำรวจจากที่ได้ประกาศวันหยุด เอกชนบางส่วนก็ไม่ได้มีการหยุดงาน ซึ่งก็เป็นห่วงในภาพรวมที่จะเกิดความติดขัด จึงเห็นว่าไม่ควรมีการประกาศเพิ่มวันหยุดในช่วงนี้ แต่ก็ขอความร่วมมือเหมือนเดิมว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ถ้ามีพนักงานที่ต้องประสบอุทกภัยให้ได้หยุด เพื่อให้คนเราเหล่านี้สามารถเข้าไปแก้ปัญหาของครอบครัวได้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับวันหยุดและวันลา

ดังนั้น ต้องรอดูวันที่ 31 ต.ค.อีกหนึ่งวัน แต่จากที่เราพยายามประสานงานในทุกส่วนและควบคุม ดังนั้นจาก 1-2 วันนี้ ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เกินที่คาดไว้ หวังว่าสถานการณ์น่าจะทรงตัวในวันนี้และวันจันทร์นี้ จากการที่น้ำทะเลลดลง แต่ยังไม่เห็นการลดลงอย่างทันควัน

ก่อนหน้านั้นช่วงเช้า นายกฯกล่าวเรื่องนี้ว่า สถานการณ์แบบนี้ ถ้าจะหยุดต้องหยุดจนสถานการณ์ดีขึ้นไม่อยากเป็นขยักๆ

**มั่นใจ 1-2 วันสถานการณ์คลี่คลาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มั่นใจ1-2 วันที่คลี่คลาย แสดงว่าจะไม่มีน้ำเหนือไหลบ่าลงมาอีกใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า น่าจะ น้ำเหนือ ณ วันนี้ จากการรับฟังการรายงานของกรมอุทกศาสตร์ที่บอกว่า ปริมาณน้ำเหนือต่างๆที่เราเห็นจะเข้ามาเยอะคงไม่เป็นอย่านั้น เพราะเราใช้วิธีการดูแลเรื่องของเขื่อนต่างๆในการควบคุมปริมาณน้ำให้ค่อยๆไหลมา และบางส่วนน้ำไหลกลับสู่คลอง มีการระบายลงคลองมากขึ้น แต่วันนี้ต้องรอน้ำทะเลลด ดังนั้นจะมาสู่ กทม.ไม่มาก แต่ไม่มาเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะน้ำต้องกั้นอยู่ แต่ไม่ใช่มวลก้อนใหญ่อย่างที่ห่วงกัน

ทั้งนี้ พูดได้หรือไม่กรุงเทพฯชั้นในอาจไม่เจอวิกฤติน้ำหากพ้นวันที่ 31 ต.ค.นี้ นายกฯกล่าวว่า หากพนังกั้นน้ำต่างๆไม่แตกน่าจะไม่เจอ ดังนั้นวันนี้เราต้องปกป้องพนังกั้นน้ำทั้งหมดให้อยู่ได้ ดังนั้นจะเป็นแค่การล้นอย่างเดียวและล้นต้องดูว่าจะเลยไปที่ไหน แต่ล้มไม่ใช่ว่าจะจมน้ำทั้งพื้นที่ เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์จะคลี่คลายได้เมื่อไรขอให้พ้นวันที่ 31 ต.ค.นี้ก่อนค่อยประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

**“New Thailand” งบ8 แสนล้านแก้วิกฤต

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า นายกฯ ยังได้เสนอแผนฟื้นฟูสองระยะ คือ ระยะแรกภายใน 1 ปีหลังจากน้ำลด จะใช้งบประมาณ 1 แสนล้านบาทเข้าไปฟื้นฟู เช่น การฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจและอัตราการว่างงาน ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานได้สั่งซื้อเครื่องสูบน้ำอีก 140 เครื่องมาเตรียมการไว้แล้ว ที่จะมาถึงภายใน 20 วัน รวมทั้งการฟื้นฟูรถยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วม พร้อมพิจารณาลดค่าน้ำมันเครื่อง และอาจจะพิจารณาลดค่าไฟฟ้า

ส่วนในแผนระยะยาวจะเป็นการวางแผนประเทศไทยใหม่ หรือ “New Thailand” โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 6 - 8 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอมเมริกา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ได้เสนอแผนฟื้นฟูประเทศไทยเป็นแบบแพ็คเกจมาแล้ว ทั้งเงินทุนและวิทยาการ แต่ทางเรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้แผนใด

**“ปู” ห่วงประชาชนดึงพนังกั้นคลอง

ก่อนหน้าเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังห่วงพื้นที่ตามแนวกั้นน้ำคันคลองที่ตั้งไว้เป็นผนังกั้นน้ำ ขออย่าพังทลายหรือดึงออก เพราะจะทำให้การควบคุมน้ำเป็นไปได้ยาก เพราะวันนี้ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจจะล้นแนวผนังกั้นน้ำ แต่การล้นไม่ได้แตกแรง จะเป็นลักษณะของน้ำนอง ซึ่งทางกทม.ต้องเร่งสูบน้ำ

ส่วนการขุดถนนที่บริเวณคลอง 8 คลอง 9 สถานการณ์น้ำดีขึ้น เป็นการลดแรงกดดันน้ำ ใต้ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งการบริหารน้ำเราจะบริหารเป็นบล็อคๆ โดยใช้แนวคันคลองต่างๆ เช่น ฝั่งตะวันออก จะใช้คลองระพัพัฒน์ฒน์ระบายน้ำลงสู่ทะเล และผ่านมาทางคลองหกวาสายล่าง ทั้งหมดเพื่อชะลอน้ำไม่ให้เข้ากรุงเทพมหานคร ส่วนน้ำที่อยู่ในกรุงเทพฯตามแนวคลองต่างๆ กทม.จะเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ไม่ใช่ว่าปล่อยน้ำจากภาคเหนือไหลลงมากรุงเทพฯ โดยที่ไม่พยุงเลยและสื่อก็จะเห็นว่า เรามีการชะลอน้ำประตู 1ถึง 5 และเปิดเต็มประตู 6 ถึง 13 เพื่อให้น้ำไหลออกทางฝั่งตะวันออก

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตัวประตูจุฬาลงกรณ์ได้ให้วิศวกรไปเช็คแล้วแข็งแรงพอ คงไม่พัง แต่เกรงและห่วงคือ กลัวน้ำจะล้นเพราะ ถ้าล้นกลัวว่า แนวที่กั้นไว้ ช่วงรังสิตคลองหกวา แนวคันพระราชดำริ ภัยพิบัติครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติภูมิภาค ลาว และกัมพูชามีความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่พื้นที่กทม.เป็นด่านสุดท้ายก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่ทะเล ดังนั้นจึงต้องทำงานหนักในช่วงภาวะที่น้ำทะเลหนุนสูง

**รับแนวคิด"ฟรีเวย์น้ำ"ของแม้ว

ส่วนข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการสร้างเส้นทางระบายน้ำออกทะเลหรือ ฟรีเวย์ ป้องกันน้ำในอนาคต น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นข้อเสนอหนึ่งคงจะรับไว้กับอีกหลายแนวทาง ถือเป็นแนวทางที่ดีคงจะนำเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องที่รู้ให้ศึกษารอบคอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า บริเวณหน้าบ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ปรากฏมีการวางกระสอบทราย หรือมาตรการรับมือน้ำท่วมแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ บริเวณจุดต่างๆ เท่านั้น ซึ่งรวมถึงบ้านเรือนประชาชน โดยรอบที่ไม่ปรากฏมีการนำกระสอบทราย ทำเป็นพนังกั้นน้ำ

**“พิชัย” เล็งตัดโทลล์เวย์เข้าศูนย์ศปภ.

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวแสดงความพร้อมของการย้ายที่ทำการ ศปภ.มายังอาคารเอนเนอร์ยี คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน ว่า พื้นที่กระทรวงพลังงานมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2.20 เมตร หากท่วมพื้นที่นี้ก็เชื่อว่า กทม.ก็จะท่วมทั้งหมด ส่วนด้าน ถ.วิภาวดี-รังสิต อาจมีระดับที่ต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ก็กำลังจะมีการดำเนินการเชื่อมต่อเส้นทางจากทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ลงมาที่ถนนด้านหน้าอาคารได้เลย ซึ่งได้มีการเตรียมแผนไว้แล้ว หากเกิดน้ำท่วมก็สามารรถทำได้ทันที และแล้วเสร็จภายใน 2 วัน โดยทางกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้รับผิดชอบ

“ลักษณะจะเป็นสะพานหินโรยลงมา เพราะหากใช้เหล็กค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ยืนยันว่าไม่น่าเป็ฯห่วง เพราะหากสังเกตจัเห็นว่าสถานที่นี้ได้เตรียมการมานานแล้ว มีแผ่นเหล็กกั้นน้ำเตรียมไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่เชื่อว่าน้ำจะท่วมถึงขนาดนั้น มิเช่นนั้นคงไม่กล้าชวนให้มาอยู่ที่นี่” นายพิชัย กล่าวและว่าขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มดำเนินแผนในการฟื้นฟู โดยเฉพาะในจังหวัดที่น้ำลดแล้ว เช่น จ.นครสวรรค์ และ จ.พิษณุโลก รวมไปถึงในส่าวนของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ

**รับปั๊มน้ำมันปิด 200 แห่ง

นายพิชัย กล่าวถึงสถานีน้ำมันหรือแก๊สที่ไม่สามารถเปิดบริการได้ว่า ปั๊มน้ำมันที่ต้องปิดบริการมี 200 กว่า ไม่กระทบต่อผู้บริโภค เพราะรถยนต์ในบริเวณดังกล่าวก็ไม่สามารถวิ่งได้อยู่แล้ว ส่วนสถานีก๊าซเอ็นจีวี 4 ปั๊มหลักจมน้ำ ทำให้การกระจายมีปัญหา แต่ไม่ถึงกับขาดแคลน เพียงแต่ต้องส่งก๊าซจากที่อื่นเข้ามาแทน

ส่วนกรณีการปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆนั้นที่อาจกระทบต่อสถานการณ์ยิ่งขึ้นนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ผู้บริหารของกระทรวงมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและพบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนต่างๆลดลงมาก เช่นที่เขื่อนภูมิพลขณะนี้มีน้ำอยู่ 99.42 เปอร์เซ็นต์ และปล่อยน้ำอยู่ที่ประมาณ 29 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าเดิมที่ปล่อยถึง 100 ล้าน ลบ.ม. เป็นต้น

**26จังหวัดจมมิด กทม.อพยพ6พัน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.รายงานว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 26 จังหวัด 144 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 691,619 ครัวเรือน 2,035,119 คน มีผู้เสียชีวิต 381 ราย สูญหาย 2 คน โดยจังหวัดนครปฐมน้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณมาก ประกอบกับฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 7 อำเภอ จ.สมุทรสาครมีพื้นที่ประสบภัย 3 อำเภอ กรุงเทพมหานครมีพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำที่ประสบอุทกภัยจำนวน 27 ชุมชน 1,209 ครัวเรือน โดยบริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานครน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตดอนเมือง เขตสายไหม เขตสะพานสูง เขตหลักสี่ บริเวณด้านฝั่งตะวันออกน้ำท่วมขังในพื้นที่ ได้แก่ เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตคันนายาว เขตลาดกระบัง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาส่งผลกระทบใน 9 เขต และบริเวณด้านฝั่งตะวันตกมีน้ำท่วมขังจำนวน 8 จุด ล่าสุดได้จัดโรงเรียนรองรับ 171 แห่งใน 25 สำนักงานเขต มีจำนวนผู้อพยพ 6,013 คน 55 ศูนย์

**ขยายเวลาทางด่วนฟรี ถึง14พ.ย.

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ขยายเวลายกเลิกการจัดเก็บค่าผ่านทางด่วนทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ และทางด่วนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 บางปะอิน-บางพลี จากเดิมทึ่จะสิ้นสุดในเวลา 24.00 น.ของวันที่31ต.ค.นี้ ออกไปเป็นวันที่ 14พ.ย.2554 เวลา24.00น.แทน

นอกจากนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยังได้ขยายเวลายกเลิกการจัดเก็บค่าผ่านทางด่วนใน 1.เส้นทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และ2.ทางหลวงพิเศษกาญจนาภิเษก ช่วงบางพลี-พระราม 2 และ3.ทางพิเศษฉลองรัช (ช่วง อาจณรงค์-รามอินทรา-ลำลูกกา) ออกไปเป็นวันที่14พ.ย.2554 เวลา 24.00น. จากเดิมจะหมดระยะเวลาวันที่ 31ต.ค. 2554 เวลา 24.00 น.

**รถไฟสายใต้ เปิดบริการปกติแล้ว

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า รถไฟสายใต้ช่วงสถานีบางบำหรุ ร.ฟ.ท.ยังคงเปิดบริการเดินขบวนรถด่วน-รถเร็วในเส้นทางสายใต้ไปยังสถานีปลายทางได้ตามกำหนดเวลาเดินทางที่มีอยู่ โดยมีขบวนรถออกจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง)ให้บริการประมาณ 18 ขบวนต่อวัน สำหรับผู้ที่ห่วงปัญหาน้ำท่วมเส้นทางรถไฟในช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ระดับน้ำท่วมเส้นทางรถไฟด้วยนั้น ร.ฟ.ท.ยังยืนยันที่จะสามารถจัดเดินขบวนรถได้

นอกจากนี้ได้เตรียมแผนสำรองหากมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น ร.ฟ.ท.ได้เตรียมจัดรถจักรลากจูงที่มีความสูงเหนือน้ำทำการลากขบวนรถก่อนไปเปลี่ยนถ่ายที่สถานีนครปฐม

**สายเหนือเปิดเดินรถถึงเชียงใหม่

ส่วนเส้นทางการเดินรถไฟสายเหนือได้ปล่อยขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 ออกจากสถานีกรุงเทพฯแล้วจะวิ่งอ้อมไปยังสถานีมักกะสันผ่านสถานีฉะเชิงเทราเพื่อไปยังสถานีแก่งคอยและกลับสู่เส้นทางสายเหนือที่สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปเช่นเดียวกับทางสถานีรถไฟเชียงใหม่ ช่วงกรุงเทพ-ดอนเมือง-อยุธยา การรถไฟฯได้จัดเดินรถไป-กลับ เพิ่มเป็น 34 ขบวนต่อวัน ได้แก่ ช่วงสถานีกรุงเทพ-ดอนเมือง-กรุงเทพ จำนวน 30 ขบวน , ช่วงระหว่างสถานีดอนเมือง-อยุธยา-ดอนเมือง จำนวน 4 ขบวน

***ม็อบคลองสามวายุติ-กทม.เปิดประตู

พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ ระบุถึงกรณีชาวบ้านในเขตคลองสามวา กว่า 1,000 คน ชุมนุมปิดถนนแยกหทัยมิต เรียกร้องสำนักการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร ให้เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เพิ่มจากเดิมอีก 50 เซนติเมตร ว่า ขณะนี้ทาง ส.ก.เขตคลองสามวา ส.ก.เขตมีนบุรี และชาวบ้านไ ด้เจรจาตกลงกันได้แล้ว โดยให้เปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา เพิ่มอีก30 เซนติเมตร ทางตำรวจได้เปิดจราจรให้วิ่งได้ตามปกติแล้ว

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุ การปิดเปิดประตูระบายน้ำ ต้องมีการเฉลี่ยน้ำให้เท่าเทียม อย่างในจุดที่ประตูระบายน้ำคลองสามวาจะมี 5 เขต ที่ได้รัลบผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลก็พร้อมจะชดเชยเยียวยาให้กับพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ.
กำลังโหลดความคิดเห็น