โดย นักประวัติศาสตร์
จนถึงวันนี้(31 ตุลาคม ) ที่ฝรั่งเขาถือว่าเป็นวันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผี ก็เลยลองคิดดูว่าผีห่าซาตานตัวไหนถูกปล่อยออกมาทำน้ำท่วมประเทศไทย ซึ่งข้อเท็จจริงรับฟังได้เบื้องต้นว่า มีผีห่าเป็นนายหน้าพาแขกซาอุมาซื้อที่ดินสุพรรณปลูกข้าว เจ้าของที่ดินเห็นว่าที่ดินสุพรรณดินดี น้ำดี ไม่ควรปลูกข้าวปีละ 3 ครั้ง แต่ควรปลูกได้ถึงปีละ 4 ครั้ง จึงสั่งผ่านมายังซาตานที่ดูแลนาข้าว สั่งให้เขื่อนเก็บน้ำไว้เต็มที่สำหรับการทำนาครั้งที่ 4 พอพายุเข้ามา 4-5 ลูก เขื่อนกักน้ำไว้ไม่ไหวก็ระบายลงมาท่วม ซาตานก็สั่งปิดประตูระบายน้ำ เพราะกลัวข้าวจะถูกน้ำท่วม สรุปแล้วเพื่อที่จะรักษานาข้าวมูลค่า 3 พันล้านของแขกซาอุไว้ ผีห่าซาตานก็เลยเอานิคมอุตสาหกรรมและทรัพย์สินชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 9 ล้านคน มูลค่าเก้าแสนล้านบาทมาแลก
ถ้าจะให้สรุปลงด้วยคำภาษาไทยเพียงคำเดียวสำหรับการกระทำของผีห่าซาตานพวกนี้ คำนี้เหมาะสมที่สุดที่สื่อความหมายของการตัดสินใจเอาทรัพย์สินชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 9 ล้านคน มูลค่าเก้าแสนล้านบาทมาแลกกับนาข้าวราคา 3 พันล้าน ก็คือคำว่า “กาลีบ้านกาลีเมือง” ลองคิดถึงคำอื่นที่มีความหมายใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบคำที่เหมาะสม พบคำนี้เพียงคำเดียวที่สรุปการกระทำของบรรดาพวกผีห่าซาตานเหล่านี้ ภาษาไทยคงจะบัญญัติศัพท์ไว้น้อยเกินไป
มองลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ เหตุกาลีบ้านกาลีเมืองที่นักประวัติศาสตร์ถือกันว่าสุดยอดแห่งกาลีบ้านกาลีเมืองก็ถือว่า ในทางตะวันตกการที่จักรพรรดิเนโรสั่งเผากรุงโรมเพราะประสงค์จะเห็นแสงเพลิงจับท้องฟ้าผู้คนแตกตื่นหนีตายกันจ้าละหวั่น เป็นความสุขของพระองค์ เป็นเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองระดับ สุดยอดทางด้านตะวันออกก็ถือว่า การที่สมุหนายกตั๋งโต๊ะนำกองทัพออกล่าสัตว์แล้วนึกได้ว่าถ้าได้กลับมาพร้อมกับผลงานปราบกบฏก็จะดีกว่าออกล่ากวางธรรมดา จึงเข้าไปในหมู่บ้านชานเมืองหลวงจับลูกเด็กเล็กแดงผู้เฒ่าผู้แก่ กว่า 800 คน ฆ่าทั้งหมู่บ้านตัดหัวห้อยเกวียนกลับเมืองหลวง แล้วประกาศชัยชนะปราบกบฏ ตัดหัวกบฏกว่า 800 คน รายงานจักรพรรดิให้อวยยศตนเองและทหาร เป็นสุดยอดกาลีบ้านกาลีเมืองเช่นกัน
สองเหตุการณ์ข้างต้นในประวัติศาสตร์อยากให้ท่านผู้อ่านลองนำมาเปรียบเทียบกับเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในบ้านเราดูว่า ผีห่าซาตานที่เอาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเก้าล้านคนทรัพย์สินของประชาชนเก้าแสนล้านไปแลกกับนาข้าวมูลค่า 3 พันล้าน ของแขกซาอุ แล้วเทียบกับจักรพรรดิเนโรหรือ สมุหนายกตั๋งโต๊ะแล้วใครเลวกว่ากัน ไม่ต้องตอบผมหรอก ตอบใจท่านเองดีกว่า
อีกอย่างหนึ่ง หลังเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในกรุงโรม ประชาชนลุกฮือขึ้นมาจับจักรพรรดิเนโรฆ่า หลังจากเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในประเทศจีน อ้องอุ้นคบคิดกับลิโป้หลอกตั๋งโต๊ะมาฆ่าทิ้ง ผมไม่กล้าเดาเลยสำหรับเมืองไทย
จนถึงวันนี้(31 ตุลาคม ) ที่ฝรั่งเขาถือว่าเป็นวันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผี ก็เลยลองคิดดูว่าผีห่าซาตานตัวไหนถูกปล่อยออกมาทำน้ำท่วมประเทศไทย ซึ่งข้อเท็จจริงรับฟังได้เบื้องต้นว่า มีผีห่าเป็นนายหน้าพาแขกซาอุมาซื้อที่ดินสุพรรณปลูกข้าว เจ้าของที่ดินเห็นว่าที่ดินสุพรรณดินดี น้ำดี ไม่ควรปลูกข้าวปีละ 3 ครั้ง แต่ควรปลูกได้ถึงปีละ 4 ครั้ง จึงสั่งผ่านมายังซาตานที่ดูแลนาข้าว สั่งให้เขื่อนเก็บน้ำไว้เต็มที่สำหรับการทำนาครั้งที่ 4 พอพายุเข้ามา 4-5 ลูก เขื่อนกักน้ำไว้ไม่ไหวก็ระบายลงมาท่วม ซาตานก็สั่งปิดประตูระบายน้ำ เพราะกลัวข้าวจะถูกน้ำท่วม สรุปแล้วเพื่อที่จะรักษานาข้าวมูลค่า 3 พันล้านของแขกซาอุไว้ ผีห่าซาตานก็เลยเอานิคมอุตสาหกรรมและทรัพย์สินชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 9 ล้านคน มูลค่าเก้าแสนล้านบาทมาแลก
ถ้าจะให้สรุปลงด้วยคำภาษาไทยเพียงคำเดียวสำหรับการกระทำของผีห่าซาตานพวกนี้ คำนี้เหมาะสมที่สุดที่สื่อความหมายของการตัดสินใจเอาทรัพย์สินชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 9 ล้านคน มูลค่าเก้าแสนล้านบาทมาแลกกับนาข้าวราคา 3 พันล้าน ก็คือคำว่า “กาลีบ้านกาลีเมือง” ลองคิดถึงคำอื่นที่มีความหมายใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบคำที่เหมาะสม พบคำนี้เพียงคำเดียวที่สรุปการกระทำของบรรดาพวกผีห่าซาตานเหล่านี้ ภาษาไทยคงจะบัญญัติศัพท์ไว้น้อยเกินไป
มองลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ เหตุกาลีบ้านกาลีเมืองที่นักประวัติศาสตร์ถือกันว่าสุดยอดแห่งกาลีบ้านกาลีเมืองก็ถือว่า ในทางตะวันตกการที่จักรพรรดิเนโรสั่งเผากรุงโรมเพราะประสงค์จะเห็นแสงเพลิงจับท้องฟ้าผู้คนแตกตื่นหนีตายกันจ้าละหวั่น เป็นความสุขของพระองค์ เป็นเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองระดับ สุดยอดทางด้านตะวันออกก็ถือว่า การที่สมุหนายกตั๋งโต๊ะนำกองทัพออกล่าสัตว์แล้วนึกได้ว่าถ้าได้กลับมาพร้อมกับผลงานปราบกบฏก็จะดีกว่าออกล่ากวางธรรมดา จึงเข้าไปในหมู่บ้านชานเมืองหลวงจับลูกเด็กเล็กแดงผู้เฒ่าผู้แก่ กว่า 800 คน ฆ่าทั้งหมู่บ้านตัดหัวห้อยเกวียนกลับเมืองหลวง แล้วประกาศชัยชนะปราบกบฏ ตัดหัวกบฏกว่า 800 คน รายงานจักรพรรดิให้อวยยศตนเองและทหาร เป็นสุดยอดกาลีบ้านกาลีเมืองเช่นกัน
สองเหตุการณ์ข้างต้นในประวัติศาสตร์อยากให้ท่านผู้อ่านลองนำมาเปรียบเทียบกับเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในบ้านเราดูว่า ผีห่าซาตานที่เอาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเก้าล้านคนทรัพย์สินของประชาชนเก้าแสนล้านไปแลกกับนาข้าวมูลค่า 3 พันล้าน ของแขกซาอุ แล้วเทียบกับจักรพรรดิเนโรหรือ สมุหนายกตั๋งโต๊ะแล้วใครเลวกว่ากัน ไม่ต้องตอบผมหรอก ตอบใจท่านเองดีกว่า
อีกอย่างหนึ่ง หลังเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในกรุงโรม ประชาชนลุกฮือขึ้นมาจับจักรพรรดิเนโรฆ่า หลังจากเหตุกาลีบ้านกาลีเมืองในประเทศจีน อ้องอุ้นคบคิดกับลิโป้หลอกตั๋งโต๊ะมาฆ่าทิ้ง ผมไม่กล้าเดาเลยสำหรับเมืองไทย
