xs
xsm
sm
md
lg

รีบแก้SME-บาทแข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เริ่มกันที่ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่กำลังเผชิญอุปสรรคผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทุกวัน แถมต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ตามนโยบาย "ยิ่งเละ!!.."

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประชุมกันแล้วเห็นว่าต้องมีมาตรการลดผลกระทบให้กับเอสเอ็มอี จึงคิดจัดตั้งกองทุนเลเบอร์ฟันด์ (Labor Fund) วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 430,000 ราย จากทั้งหมด 2,890,000 ราย...

หลักการกองทุนฯ จะช่วยอุดหนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3-4 ให้เอสเอ็มอีที่กู้เงินไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและแรงงาน ในวงเงินรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท...

"ยุทธศักดิ์ สุภสร" ผู้อำนวยการ สสว.บอกว่าการช่วยเหลือดังกล่าวไม่ได้หมายความว่านโยบายรัฐบาลใหม่ไม่ดี สสว.เห็นด้วยกับนโยบายพรรคเพื่อไทย เพียงแต่เห็นว่า "ควรปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ก็เท่านั้นเอง ทราบแล้วเปลี่ยน นะเจ๊!...

ไปกันที่เรื่องร้อนๆ ค่าเงินบาทแข็ง! แบงก์ชาติกำลังจับตาการเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะล่าสุดไม่ใช่มีเพียงปัจจัยการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ อาจมีสถาบันการเงินผสมโรงเก็งกำไร@!...

ไม่เพียงเท่านั้น แบงก์ชาติกำลังติดตามพฤติกรรมนักลงทุนไทยที่เป็นบริษัทค้าทองคำ หลังจากพักหลังเริ่มเป็นขาใหญ่ในตลาดแห่ขายทองคำช่วงที่ราคาแพง แล้วนำรายได้รูปเงินดอลลาร์กลับมาแลกเป็นเงินบาท จนทำให้เงินบาทแข็ง...

แว่วว่าสายตลาดการเงินติดตามมาได้ระยะหนึ่งแล้ว หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นคาดว่าในไม่ช้าจะมีหลักเกณฑ์ออกมากำกับเช่นเดียวกับผู้นำเข้า-ผู้ส่งออก เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีขบวนการทุบค่าเงิน ทำงานกันเป็นทีม???!!!...

แม้ผู้ว่าแบงก์ชาติจะยืนยันว่ามีเครื่องมือในการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่หากขบวนการทุบค่าเงินมีเงินทุนมากพอ แบงก์ชาติจะรับมือไหวหรือไม่??!!...

ค่าเงินบาทเมื่อกลางเดือน มิ.ย.54 อยู่ที่ 30.50 บาทต่อดอลลาร์ ล่าสุด 22 ก.ค.เงินบาทของไทยแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 29.81 บาท หรือแค่เดือนเศษเงินบาทแข็งค่ากว่า 70 ส.ต. ประเด็นที่ผู้ที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือการเคลื่อนไหวของเงินบาท หลังวันที่ 3 ก.ค. ยิ่งแข็งมากขึ้นเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา "พรรคเพื่อไทยชนะ..."

ไม่ใช่ตื่นตูม! แต่เห็นสัญญาณอันตราย จากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน หรือว่าภาพต้มยำกุ้งปี 40 กลับมาหลอน! ชนิดผุดขึ้นมาในหัว แบบไม่ตั้งใจ ยิ่งได้ยินแนวคิดจากทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ต้องการให้แบงก์ชาติกลับไปใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยแบบคงที่ "ยิ่งชัด" ว่าผีห่าซาตานในพรรคเพื่อไทยกำลังเห็นโอกาสในการทำกำไรจากการเล่นค่าเงิน@!...

วันที่ 6 ก.ค.54 "ปู-ยิ่งลักษณ์" ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอล สตรีต เจอร์นัล เอเชีย ว่าจะปล่อยเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยสกัดการปรับเพิ่มราคาสินค้านำเข้ารายการหลักๆ เธอต้องการนำเข้าน้ำมันในราคาถูกทั้งๆ ที่มูลค่านำเข้าน้ำมันน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้จากการส่งออก "เธอแกล้งไม่รู้ หรือว่า จงใจ??.."

ไม่อยากมองในแง่ร้ายว่าแนวคิดเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้ง่ายต่อการทุบเงินบาท ประเทศไทยเล็กมากเมื่อเทียบกับเงินกองทุนต่างชาติ ไม่อยากจะคิดว่า คนแถวดูไบจะถอนแค้น ด้วยการเก็งค่าบาทโดยไม่สนใจความย่อยยับของเศรษฐกิจไทย "ซ้ำรอยเดิม โอ้ว โนววว!!.."

แต่เพื่อความไม่ประมาท แบงก์ชาติกับผู้ส่งออก "รีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม!!!..."
กำลังโหลดความคิดเห็น