“เหลือบแดง” สูบเลือดผู้ประสบภัย ฮุบของบริจาคใน “ศปภ.” ถ่อย “เลว” ไม่มีที่ติ!

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติกำลังเผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมหนัก ประชาชนทุกภาคส่วนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเป็น “จิตอาสา” เพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ทว่าในท่ามกลางความเสียสละของพี่น้องร่วมชาติ กลับมีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจาก “เหลือบน้ำท่วม” คอยสูบกินจากความทุกข์ยากของประชาชน และ “ฉกฉวย” เอาแต่ประโยชน์ใส่ตนเอง

โดยเฉพาะที่ “ศปภ.” หรือศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มี “เหลือบแดง” ที่คอยสูบกินของบริจาคผู้ประสบภัย เบียดบังเอาไปแอบอ้างเป็นชื่อของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการโชว์ถ่อย “เบ่งสี” ไม่ให้เกียรติอาสาสมัครและนักข่าวที่มาทำงานใน ศปภ. แม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวคราวอันน่า “สะอิดสะเอียน” ออกมาจาก ศปภ. อย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ทำเป็นนิ่งเฉยราวกับไม่รู้ไม่เห็นว่ามีพฤติกรรม “เลวๆ” เกิดขึ้น

กระทั่งนำมาซึ่งความรู้สึกที่ “สุดจะทน” ของคนที่มีโอกาสเข้าไปสัมผัสและร่วมงานกับรัฐบาลและศปภ. โดยกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม ที่เข้าไปช่วยรัฐบาลทำงานรับมือกับน้ำท่วมที่ ศปภ.ดอนเมือง หลายกลุ่มออกมาเปิดเผยตรงกันว่ามี “การเมือง” และ “เหลือบน้ำท่วม” อยู่ใน ศปภ.จริง อย่างที่ไม่สมควรเกิดขึ้นในภาวะวิกฤตเช่นนี้

อย่างกรณีของ รศ.ดร.ทวีวงศ์ ศรีบุรี กรรมการผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ออกมาเปิดเผยว่า เดิมทางศูนย์จะส่งคนไปช่วยงานที่ ศปภ. แต่ได้รับแจ้งว่า “ให้ใส่เสื้อสีแดงเข้ามา” จึงต้องเรียกเด็กในศูนย์วิชาการกลับ เพราะรับไม่ได้ที่มีการแบ่งฝ่ายกันในช่วงที่ประเทศกำลังมีวิกฤต

“พอเราจะส่งเด็กเข้าไปทำงาน เขาบอกว่า ให้ใส่เสื้อสีแดงเข้ามา แค่นี้ก็ต้องเรียกเด็กกลับแล้ว นี่คือคำถามที่ว่า เราต้องการจะไปช่วยเขา เวลาเขาเดือดร้อน แต่พอเจอเวลาถ้าจะเข้ามาก็ต้องใส่เสื้อสีแดงมาด้วย มันหมายความว่ายังไง... เหมือนถูกแบ่งชั้นวรรณะ บอกได้เลยว่าคนที่ตั้งใจจะช่วยเขาถอยมาหมดแล้ว” รศ.ดร.ทวีวงศ์ ให้ความเห็น

เช่นเดียวกับการถอนตัวของกลุ่มไทยฟลัด (thaiflood) กลุ่มองค์กรภาคประชาชนซึ่งไปตั้งทีมเป็นอาสาสมัคร และส่งคนไปช่วยรัฐบาลอยู่ที่ ศปภ.ดอนเมือง ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการเปิดศูนย์ โดยกลุ่มนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อยในการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนในเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมแบบเรียลไทม์ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในด้านต่างๆ เพื่อรับมือกับภัยน้ำท่วมผ่านโลกไซเบอร์ ตลอดจนรับเรื่องร้องเรียนปัญหาต่างๆ จากผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ

“ปรเมศวร์ มินศิริ” เจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอตคอม ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไทยฟลัดดอตคอม (www.thaiflood.com) ออกมาบอกถึงสาเหตุที่ถอนตัวจากการทำงานร่วมกับ ศปภ.ดอนเมือง ว่ามีสาเหตุมาจากการถูกกีดกันด้านข้อมูล และศปภ.ไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ถึงขนาดมีการโทรศัพท์มาขอเซ็นเซอร์ข้อมูลก่อนที่จะแถลงข่าว

นอกจากนี้ “ปรเมศวร์” ยังเห็นว่าการบริหารจัดการของ ศปภ. ไม่เป็นเอกภาพ ไม่มีการแจ้งข้อมูลต่อประชาชนอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

นอกจากนี้ สิ่งที่น่าตกใจก็คือ กรณีที่กลุ่มไทยฟลัดเปิดเผยว่า “ของบริจาค” เมื่อถูกลำเลียงออกไปแจกจ่ายประชาชน พบว่ามีการร้องเรียนมาจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่ามีการ “เลือกปฏิบัติ” เช่น หากหมู่บ้านหรือชุมชนไหนมีการติดธงแดง หรือสัญลักษณ์สีแดงก็จะได้รับการแจกสิ่งของ แต่ชุมนุมไหนไม่ใช่เสื้อแดงก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และการนำสิ่งของออกไปจากดอนเมืองจะต้องผ่านนักการเมืองใน ศปภ. ก่อน โดยเขาจะเป็นคนเลือกจุดลงเอง

“การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะต้องก้าวข้ามความเห็นต่าง หลายหมู่บ้านบ่นกันเยอะว่ารถส่งของบริจาคไม่ยอมจอด ถ้าไม่ยอมติดธงแดง อีกทั้งของบริจาคเข้าสำนักนายกรัฐมนตรีจำนวนมาก ถูกขนไปร่วมคาราวานเสื้อแดง ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว จริงหรือไม่...

“ผมรู้สึกยินดีกับพี่น้องเสื้อแดงที่อาสามาช่วยงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ที่กล่าวมาไม่ได้จะเหมารวมว่าทุกคน แต่มีคนคิดฉวยโอกาสสร้างความเข้มแข็งให้กับ ‘ตำบลเสื้อแดง’ ในช่วงที่มีผู้ประสบภัยมากขนาดนี้ผ่านกลไกของรัฐ โปรดจับตาให้ดี” ปรเมศ ให้ข้อมูล(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทสัมภาษณ์)

ความ “เหลวแหลก” ขาดความโปร่งใส และไร้ระบบเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ “ความร่วมมือ” จากภาคส่วนต่างๆ กำลังหดหายไปจาก ศปภ. บวกกับกว่าสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แทบไม่ได้ยินข่าว “เชิงบวก” ที่เกี่ยวกับ ศปภ. เลยด้วยซ้ำ เพราะนอกจากเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีเรื่องที่ใครได้ยินได้ฟังก็รู้สึก “ทุเรศทุรัง” ไปตามๆ กัน

อย่างกรณีของ ฯพณฯ “เจ๋ง ดอกจิก” หรือ นายยศวริศ ชูกล่อม อดีตตัวตลกคาเฟ่ ผู้ต้องหาเผาบ้านเผาเมือง ที่เพิ่งได้รับการตบรางวัลให้เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย หมาดๆ พร้อมลูกสมุนประกบซ้ายขวา ได้เข้าไป “กร่าง” ใส่นักข่าว หลังจากที่บริษัท แมกซ์ลายเนอร์ ออโต้พาร์ท ได้นำเรือไฟเบอร์กลาสสีดำ จำนวน 2 ลำ มามอบให้แก่ ศปภ. เพื่อเตรียมบริจาคให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย

โดยขณะที่สื่อมวลชนกำลังตรวจสอบความแข็งแรงของเรือ อดีตตัวตลกคาเฟ่ในชุดเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้น ได้เดินตรงมาบริเวณที่พักเรือพาย พร้อมกับถามว่า “เรือนี้ใครดูแลอยู่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ผมอยากได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงกลับไปว่า เป็นเรือที่บริษัทแมกซ์ลายเนอร์ฯ นำมาทยอยบริจาคให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวนกว่า 200 ลำ อดีตตัวตลกคาเฟ่จึงถามอีกว่า “ส่งมอบแล้วหรือยัง แล้วใครรับผิดชอบ” ผู้สื่อข่าวตอบกลับไปว่า ในเรื่องนี้ต้องไปถามหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างทาง ศปภ. หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง พร้อมทั้งถามอดีตตัวตลกด้วยว่า “คุณมาจากหน่วยงานไหน” โดยอดีตตัวตลกคาเฟ่ได้ตอบสวนกลับมาทันทีว่า “ผมมาจากมหาดไทย”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามจี้ไปว่า ถ้าเป็นมหาดไทยก็น่าจะประสาน ปภ.ได้เลย เมื่อได้ยินคำถามอย่างนั้น อดีตตัวตลกจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ผมคุม ปภ.และใหญ่กว่าอธิบดี ปภ.อีก!”

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะเอาเรือไปช่วยประชาชนที่จังหวัดไหน อดีตตัวตลกคาเฟ่ตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “เรื่องของผม ผมจะเอาไปไหนก็สิทธิ์ของผม” หลังจากนั้นอดีตตัวตลกได้สั่งให้ผู้สื่อข่าวช่วยกันยกเรือพายทั้ง 2 ลำ แต่ไม่มีผู้สื่อข่าวคนใดปฏิบัติตาม

นั่นคือวิธีการหากินกับน้ำท่วมของพวก “เหลือบแดง” ในขณะที่ชาวบ้านกำลังจมน้ำตายอยู่รอมร่อ

เช่นเดียวกับแดงตัวพ่อ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ที่ปรากฏภาพและข่าวสารจำนวนมากในเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยมีการนำเสนอภาพเรือที่พ่นชื่อ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” รวมถึงภาพรถบรรทุกของบริจาคโดยมีป้ายข้างรถเขียนว่า “บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วยรักและห่วงใยจาก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร”

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยฉากหลังตรงที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ยืนปราศรัย มีป้ายของ “นช.ทักษิณ” เขียนที่รถขนของบริจาคว่า “เราไม่เคยลืมกัน ด้วยความรักและห่วงใย จากครัวต่างแดนดูไบ” ทั้งนี้ มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวในเว็บไซต์ของรัฐบาลไทยด้วย โดยทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมาอย่างแนบเนียน เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ “ทักษิณ” ในสถานการณ์น้ำท่วมประชาชนครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม การฉกฉวย “เบียดบัง” หาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมยังมีอีกมาก และที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่า “เลวไม่มีที่ติ” ก็คือพฤติกรรมที่ “ส.ส.พรรคเพื่อไทย” ขนเอาของบริจาคจาก “ศปภ.” ไปแจกจ่ายประชาชน(ที่ติดธงแดง)โดยติดป้ายบนสิ่งของและข้างรถเป็นชื่อของตัวเอง

กระทั่ง “ฉลอง เรี่ยวแรง” ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวระบายความรู้สึกถึงการทำงานของ ศปภ. อย่างฉุนเฉียวว่า “ตกลงผมเป็นส.ส.เพื่อไทย หรือพรรคเสื้อแดงกันแน่ ไปศูนย์ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)ไปขอถุงยังชีพให้ชาวบ้าน 2000ชุด แต่มันให้มาแค่ 500ชุด เมื่อให้มาแค่นี้มันไม่พอ เลยคืนมันไปเลย ขอได้เท่านี้สู้เอาเงินไปซื้อเองไม่ดีกว่าหรือ...

“ทีพวกเสื้อแดงไปขอถุงยังชีพ มีรถเอาไปส่งให้ถึงที่ แถมยังได้มากกว่าจำนวนที่ขอไปอีก เลยสงสัยตกลงกูเป็นส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือพรรคเสื้อแดงกันแน่”

ทั้งนี้ “ฉลอง” ยังกล่าวอีกว่า... “ส.ส.ไปขอของ บอกให้เราเอารถไปขนเอง อีก ครั้งหนึ่งเคยไปขอตอนเที่ยง แต่ได้ของมาตอนสองทุ่ม ทีพวกไอ้ตู่ (จตุพร พรหมพันธุ์)หรือไอ้เจ๋ง (ดอกจิก-ยศวริศ ชูกล่อม)ไปขอ กลับมีรถขนของไปส่งให้ถึงที่เลย จัดรถ5คัน จัดถุงยังชีพไปให้ ผมมาพูดวันนี้พูดในนาม ส.ส. อีก3คน

“พวกเสื้อแดงจะลงไปพื้นที่อย่างน้อยควรต้องประสานมายัง ส.ส. พื้นที่ก่อน จะได้ช่วยเหลือกัน ไม่สนอยู่แล้วพูดอย่างนี้จะกระทบกับคนเสื้อแดงหรือไม่ พวกเสื้อแดงไม่ได้มาหาเสียงให้กูนี่ ลูกน้องไอ้เปีย (พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย) ยังเคยบอก เขตผม ตกแน่ โถ่! แล้วเป็นไง ตกกะใจเลยได้ที่หนึ่ง”

“ฉลอง” กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่นนทบุรี ไม่ใช่ไม่อยากลงพื้นที่ แต่คนเป็นส.ส.ถ้าลงไปมือเปล่า หรือนำของไปแจกไม่ครบทุกหลังคาเรือนจะโดนชาวบ้านด่าอีก... “ทุกวันนี้ต้องประสานไปยังอบต. นนทบุรี ซึ่งเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเอาถุงยังชีพมาช่วยเหลือประชาชน ตกลงเป็นส.ส.เพื่อไทย หรือพรรคเสื้อแดงกันแน่!”

ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลง “ฉลอง” เป็นส.ส.เพื่อไทย หรือพรรคเสื้อแดงกันแน่ รู้แต่ว่า “ศปภ.” ในสายตาของคนไทยวันนี้ กลายเป็น “ศูนย์ฉกฉวยประโยชน์จากผู้ประสบภัย” ไปเรียบร้อยแล้ว

และทั้งหมดนี้ก็คือ “สนิมเนื้อใน” ที่กัดกร่อนรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” และพรรคเพื่อไทย โดยแท้...