“มาร์ค” ควง ส.ส.กทม.เยี่ยมชาวบางพลัด ตรวจครัวประชาธิปัตย์ ชาวบ้านร้องขอส้วมลอยน้ำ ด้าน “ชวน” ไปวัดหลักสี่ เจอร้องขออาหาร-น้ำไม่พอ ชง “สกลธี” ประสานงาน ก่อนเปิดครัวพรรคด้วย ชี้น้ำท่วมใหญ่วัดศักยภาพท้องถิ่น ด้านรองโฆษก ปชป.เผยพรรคส่ง ส.ส.คุมครัวทั่วกรุงกว่า 30 จุด เสิร์ฟไม่อั้นยืนพื้นอาหารใต้ ยันไม่มีคนต้าน จี้ประณามพวกเห็นแก่ตัว แนะรัฐจ่ายเบี้ยเลี้ยงช่วยทหาร
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่เขตบางพลัด นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญรายชื่อ, น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. และนายชวนนท์ โกมาลย์สุต โฆษกพรรค พร้อมด้วยทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางลงพื้นที่เขตบางพลัด ไปยังจุดน้ำใจไทยสู้ภัยน้ำท่วมครัวพรรคประชาธิปัตย์ ใต้สะพานข้ามแยกบางพลัดซึ่งทางพรรคได้มีโครงการที่จะตั้งโรงครัว 30 โรงทั่ว กทม. เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมซึ่งวันนี้ (29 ต.ค.) ได้ตั้งไปแล้วเป็นจำนวน 10 โรง อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้เข้าเยี่ยม สอบถามปัญหา และให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยท่ามการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยจากการลงพื้นที่ประชาชนที่ยังไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างมีปัญหาในเรื่องของห้องสุขาที่ขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอ จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาห้องสุขาเพิ่ม
ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง, นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่เขตหลักสี่ เพื่อเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยที่วัดหลักสี่ โดยได้เปิดศาลาการเปรียญให้ประชาชนใช้เป็นที่พักอาศัย ทั้งนี้นายชวน ได้ทักเข้าไปทักทายประชาชนที่ใช้ศูนย์อพยพเป็นที่พักอาศัยซึ่งคนชรา ผู้หญิง เด็ก เมื่อเห็นนายชวน และคณะเข้าไปเยี่ยมเยียนก็ได้กรูกันเข้ามาหาคณะของนายชวน ด้วยความดีใจ ทั้งนี้ มีชาวบ้านในศูนย์ได้ถือโอกาสร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องอาหารและน้ำดื่ม ที่ไม่เพียงพอทั้งๆ ที่วัดหลักสี่ห่างกับศูนย์พักพิงไม่กี่สิบเมตร แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งนายชวน ได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านที่ใช้วัดอาศัยยังมีญาติพี่น้องที่เจ็บป่วยและมีคนแก่ ที่ต้องการไปหาหมอเพื่อรักษาโรคประจำตัวอยู่อีกจำนวนหนึ่ง โดยนายชวน ได้ขอให้นายสกลธีซึ่งเป็นอดีต ส.ส.เขตนี้ไปประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
ต่อมาคณะของนายชวนได้ไปดู “ครัวชาวใต้...น้ำใจสู้ภัยน้ำท่วม” ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดบริการให้เป็นวันแรก ซึ่งนายชวน ก็ได้ถือโอกาสตักอาหารแจกให้กับชาวบ้านที่มารอต่อคิว รับอาหารด้วยตัวเอง ทั้งนี้นายชวน ได้กล่าวกับประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้นำปลาเล็กปลาน้อยซึ่งเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากต่อประชาชน ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชน
จากนั้นนายชวนให้สัมภาษณ์หลังจากลงพื้นที่ว่า ประชาชนยังประสบความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง รายล่าสุดที่ตนได้สอบถามบอกว่าสามีไม่ได้กินอะไรมา 2 วันแล้วดังนั้นศูนย์พักพิงแต่ละแห่ง จึงเป็นความหวังของประชาชน ตนคิดว่าการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเข้าไปค่อนข้างลำบากและเห็นใจเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่เข้าไปลึกๆ เข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือเหตุการณ์นี้เป็นตัวชี้วัดศักยภาพในท้องถิ่น ว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหนในการดูแลปัญหาเพราะท้องถิ่นจะรู้ดีว่าบ้านไหนเป็นอยู่อย่างไรเพราะราชการหรือภาครัฐยากที่จะรู้เท่าท้องถิ่น
นายสกลธี กล่าวว่า โครงการครัวชาวใต้...น้ำใจสู้ภัยน้ำท่วม ริเริ่มโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีตเลขาธิการพรรค ได้รวบรวมเงินบริจาคมาจากพี่น้องชาวใต้และบรรดา ส.ส.ภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์เพราะเราเห็นว่าตอนนี้ต้องร่วมไม้ร่วมมือและช่วยกัน โดยเบื้องต้นจะเปิด 15-30 จุด ขึ้นอยู่กับว่าพื้นที่ใดจะท่วมมากท่วมน้อย โดยแต่ละเขตจะให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ดูแลครัว ส่วนในเขตที่ไม่มีส.ส.ก็จะให้อดีตผู้สมัครเขตนั้นๆ ดูแล
นายสกลธีกล่าวต่อว่า สำหรับตนรับผิดชอบเขตหลักสี่ร่วมกับทีมส.ข.ของพรรค ได้จัดครัวชาวใต้วันแรกที่หน้าวัดหลักสี่ตั้งแต่ 11.00 น.ไปจนถึงตอนเย็น โดยเสิร์ฟแบบไม่อั้น จะได้ของสดไปรับมาจากที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงเช้า เช่น กุ้ง ปลา เครื่องแกงจากภาคใต้ โดยจะทำ 2-3 เมนูต่อวัน 1 เมนูจะยืนพื้นเป็นอาหารใต้ส่วนที่เหลือจะเป็นไข่เจียวเพื่อที่เด็กจะได้ทานได้ เราก็พยายามช่วยกันในช่วงที่ประสบปัญหาตอนนี้ โดยครัวดังกล่าวจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าน้ำจะลด อย่างไรก็ตาม เห็นว่าประชาชนพอใจมากเพราะอาหารปรุงใหม่และสด เมื่อถามว่า มีคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการนี้หรือไม่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีเพราะยามนี้ต้องเลิกแบ่งสีเสื้อและประชาธิปัตย์ก็ช่วยเต็มที่ ไม่ได้คำนึงว่าพื้นที่น้ำท่วมเราจะมีส.ส.หรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้กำลังใจมาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ยอมขอโทษแกนนำเสื้อแดงกรณีสิ่งของบริจาค นายสกลธีกล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าไม่มีมูลก็คงไม่แดงออกมา อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชนได้รู้ความเป็นจริง ว่าในยามที่เดือดร้อนอย่างนี้ยังมีพวกที่เห็นแก่ตัวและมองทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมด เช่น เอาของบริจาคไปใส่ชื่อตัวเอง เรื่องแบบนี้ต้องช่วยกันประณามและเปิดโปง ในยามนี้ไม่ควรจะมีคนมาเอาเปรียบกัน ส่วนกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ย้ายศูนย์ไปที่ สำนักงานปตท.นั้น เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ นายกฯ ดื้อเพราะหลายคนแนะนำหลายครั้งแล้วว่าให้ย้าย แต่นายกฯ ก็ไม่ฟังทั้งๆ ที่ควรจะลดละทิฐิ ยอมรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีกระแสข่าวว่านายกฯไม่ยอมย้าย ศปภ. ไปตั้งในหน่วยทหารเพราะกลัวจะตกอยู่ในวงล้อมของทหาร นายสกลธีกล่าวว่า ตอนนี้ต้องหยุดระแวงเพราะในภาวะที่ประชาชนและบ้านเมืองเดือดร้อนอย่างนี้ ไม่มีใครคิดที่จะทำร้ายประเทศชาติ แต่ควรที่จะต้องช่วยเหลือกัน เมื่อถามว่า ทหารออกมาช่วยมากขนาดนี้ยังคิดว่าทหารจะปฏิวัติ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นายกฯไม่เพียงแต่ระแวงแต่ลูกหาบของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นแกนนำเสื้อแดงที่เป็น ส.ส.และในพรรคเพื่อไทย อีกหลายคนไม่ไว้วางใจทหารทั้งที่ประชาชนก็เห็นว่าตอนนี้หน่วยงานที่พึ่งได้มากที่สุด ไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นทหารที่ช่วยอย่างเต็มที่และตนก็ได้คุยกับพี่น้องทหารหลายคนเขาไม่ได้เบี้ยเลี้ยง ทุกวันนี้ที่มาช่วยก็ได้เงินเดือนอย่างเดียว ซึ่งรัฐบาลควรจะเร่งช่วยโดยด่วน