xs
xsm
sm
md
lg

ผวาน้ำหนุนสูง2.6ม.วันนี้-สั่ง”สายไหม-ทวีวัฒนา”อพยพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กทม.แจงแผนรับมือวิกฤติน้ำท่วม ป้องกันเขตเศรษฐกิจกรุงเทพฯ มั่นใจไม่ท่วมทั้ง 50 เขต ห่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้2.6ม.ล้นเจ้าพระยา สธ.ทยอยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก กทม. ไปโรงพยาบาลภูมิภาคแล้ว สั่งประชาชนเขตสายไหม-แขวงศาลาธรรมสพน์ อพยพ เอกชนจี้รัฐแจงแผนรับมือน้ำท่วม กทม.

วานนี้ (27 ต.ค.) เวลา 13.50 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เขตปทุมวัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานการประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงสถานการณ์และแผนรองรับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมกรุงเทพฯ ร่วมกับตัวแทนภาคอุตสาหกรรม หอการค้าไทย หอการค้าต่างประเทศ จำนวน 55 องค์กร อาทิ นายกสมาคมโรงแรมไทย นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ นายกสมาคมธนาคารไทย นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย กว่า 500 คน ภายหลังที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้มีคำสั่งเลขที่ 22/2554 ลงวันที่ 24 ต.ค.54 มอบหมายภารกิจให้กทม. เป็นผู้รับผิดชอบหลักพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่สำคัญภาคเอกชนในการป้องกันน้ำท่วม

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำมีจำนวนมาก ซึ่งศปภ.ประเมินว่าจะมีถึง 1- 1.6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่มวลน้ำเหล่านี้ไม่ได้มาหล่นทับกรุงเทพฯทั้งหมด แต่คำถามว่าน้ำที่อยู่เหนือกรุงเทพฯจะมีเท่าไหร่ แต่กว่าจะถึงกรุงเทพฯคาดว่าปริมาณจะลดลง แต่กรุงเทพฯคงน้ำท่วมแน่ๆ ส่วนจะครอบคลุมพื้นที่ไหน ขึ้นอยู่กับการบริหารของรัฐบาลจะให้น้ำส่วนใหญ่ไปที่ไหน แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจผันน้ำอย่างไร กทม.ก็ยอมรับ นอกจากนี้ที่ยังไม่ประเมินผลกระทบได้ เพราะกทม.ยังมีระบบป้องกันน้ำท่วมตั้งแต่ปี 2526 ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดตั้งแต่มีมา โดยกรุงเทพฯสามารถระบายได้ 1,600 ลูกบาศกเมตรต่อวินาที หรือ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แบ่งเป็นฝั่งพระนคร 7 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนฝั่งธนบุรี 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นใน 2-3 วันนี้ เพราะระดับน้ำเจ้าพระยาอาจสูงกว่า 2.50 เมตรได้

"จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดคือด่านในการป้องกันน้ำท่วมไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ อีกทั้งกทม.ไม่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำของกรมชลประทาน เพราะไม่มีอำนาจ ดังนั้น กทม.กับรัฐบาลต้องจับเข่าคุยกันเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกทม. โดยการเปิดประตูระบายน้ำต้องพิจารณาว่าปลายน้ำจะได้รับผลกระทบหรือไม่ เช่นหากเปิดประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาปลายน้ำจะท่วมแน่นอน ซึ่งช่วง 3-5 วันจากนี้อาจจะมีการประกาศให้บางเขตเป็นเฝ้าระวัง หรือประกาศบางเขตเป็นพื้นที่อพยพเพิ่มเติม”

ทั้งนี้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบวกพระรามหก รวม 3,330 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ 315 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ปากคลองตลาดเมือเวลา 06.30 น. อยู่ที่ระดับ 2.42 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.)ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 38 ซ.ม.

ขณะนี้น้ำทุ่งเริ่มมาถึงลองหกวาสายล่างระดับน้ำที่ประตูคลองสองเพิ่มขึ้น15ซ.ม. ส่วนประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาเพิ่ม29ซ.ม. ขณะที่ระดับน้ำในคลองเปรมประชากรบริเวณด้านหน้าสถานีดอนเมือง ระดับน้ำล้นตลิ่ง และช่วงวัดเทวสุนทร รวมทั้งคลองบางพรหมตอนถนนกาญจนาภิเษก ต่ำกว่าขอบตลิ่งประมาณประมาณ 20 ซม. สำหรับคลองรังสิตช่วงคลอง1สูงขึ้น7.6 ซม. และช่วงคลองสามสูงขึ้น8.4 ซม.ส่วนคลองอื่นๆปกติ

**ห่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้2.6ม.ล้นเจ้าพระยา

รายงานสถานการณ์น้ำประจำวัน ระบุว่า วันนี้ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นปัญหา โดยเช้านนี้น้ำทะเลหนุนสูงที่ 07.07 น. ที่ระดับ 1.17 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.) โดยน้ำขึ้นสูงสุด 2.51ม.รทก. ส่วนในช่วงเย็นนี้น้ำทะเลจะหนุนระดับ 1.16 เมตร รทก.และในวันที่ 28 ต.ค. น้ำจะหนุนจะสูงขึ้นอีก 1.28 เมตร รทก. ซึ่งจะทำให้ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 2.60 เมตร รทก. อย่างไรก็ตาม หากสูงขึ้นในระดับนี้จริงคงล้นเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในหลายจุด ขณะที่ระดับน้ำนอกประตูระบายน้ำคลองสอง อยู่ที่ 2.64 เมตร รทก. ส่วนระดับน้ำนอกประตูน้ำคลองทวีวัฒนา อยู่ที่ 2.38 เมตร รทก. แสดงให้เห็นว่าน้ำเหนือได้มาทางแม่น้ำเจ้าพระยาและทางคลองอื่นๆ แล้ว

**“ สั่งเขตสายไหม-แขวงศาลาธรรมสพน์ อพยพ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ถนนสิรินทร พหลโยธิน แจ้งวัฒนะ วิภาวดี จรัญสนิทวงศ์ ส่วนเขตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเขตบางพลัด ดอนเมือง สายไหม และทวีวัฒนา เมื่อคืนนี้ กทม.ได้ประกาศให้เขตดอนเมืองและบางพลัด อพยพไปยังศูนย์พักพิง ล่าสุดได้รับรายงานเมื่อเช้านี้ เขตสายไหม มีน้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่แล้ว จึงขอจะประกาศให้ประชาชนที่ทุกพื้นที่ในเขตสายไหมอพยพเข่นเดียวกันซึ่งขณะนี้จำนวนผู้อพยพเข้าศูนย์พักพิง 7,503 คน ใน 20 เขต 73 ศูนย์ และคาดว่าน้ำจะไม่ท่วมถึงขั้นอพยพทั้ง 50 เขต

ขณะนี้ได้ประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในแขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากประตูระบายน้ำที่รับน้ำมาจากคลองมหาสวัสดิ์ เริ่มเอ่อล้นบริเวณดังกล่าว คาดว่าปริมาณน้ำจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงประกาศให้ประชาชนอพยพ

**หลักสี่ - รพ.ภูมิพลท่วมแล้ว

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. น้ำได้ไหลมาถึงบริเวณวัดหลักสี่ ซึ่งมีปริมาณน้ำสูง 80 ซม. ห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ หรือด่านโทลล์เวย์ หลักสี่ เพียง 200 เมตร ทำให้ต้องปิดเส้นทางการจราจรในถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ตั้งแต่หน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษหลักสี่ เพราะมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม. ขณะที่ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้ามีการปิดเส้นทางการจราจรตั้งแต่หน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จนถึงท่าอากาศยานดอนเมือง

ส่วนบริเวณถนนพหลโยธิน หน้าแยกกรมพลาธิการทหารอากาศหรือปากซอยพหลโยธิน 54/1 มวลน้ำจากฝั่งรังสิตและคลอง 2 ส่งผลให้ปริมาณน้ำยังคงท่วมสูงไปจนถึงหน้าห้างบิ๊กซี สะพานใหม่ ซอยพหลโยธิน 54 เขตบางเขนแล้ว ขณะที่หน้าโรงพยาบาลภูมิพลได้มีน้ำไหลล้นคันกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของโรงพยาบาลแล้ว

**เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก กทม.

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ว่า มีผู้ป่วยที่ได้รับการประสานว่าต้องการส่งต่อเบื้องต้น 400 ราย ซึ่งเริ่มทยอยส่งต่อไป รพ.ในภูมิภาค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ต.ค. จำนนวน 49 ราย และวันที่ 27 ต.ค. อีก 50-100 ราย สำหรับผู้ป่วยายใดหากไม่มีความจำเป็นก็จะไม่เคลื่อนย้าย

**จัดทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่วัดสายไหม

นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วย รมว.สธ. กล่าวว่า ชุมชนวัดสายไหม และชุมชนลาดสวาย ตำบลลาดสวาย อ.ลำลูกกา ทั้ง 2 ชุมชนมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ชุมชนละประมาณ 45,000 - 50,000 คน ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2554 ขณะนี้ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร สภาพน้ำมีกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้มีประชาชนส่วนหนึ่งประมาณ 300 คน ย้ายมาพักพิงที่ศูนย์พักพิงวัดสายไหม และอีกประมาณ 350 คน อยู่ที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนแย้มสะอาด

**ผู้ป่วยเรื้อรังราว 5 ล้านคนซวยหนัก

นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในภาวะภัยพิบัติน้ำท่วมในประเทศไทย กรมควบคุมโรค ประมาณการมีผู้ป่วยเรื้อรัง 5 โรค ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์อัมพาต และโรคหอบหืด กว่า 5 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงมากที่โรคจะกำเริบ หรือรุนแรงมาก ได้แก่ 1. กลุ่มที่ขาดยาและควบคุมโรคไม่ได้ก่อนน้ำท่วม 2. กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปี ซึ่งมีโรคประจำตัว ทำให้โรคเหล่านี้มีความรุนแรงขึ้นจนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว อัมพาตทันที ระบบหายใจล้มเหลว ภาวะวิกฤตความดันโลหิตสูง ภาวะวิกฤตเบาหวาน และโอกาสสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่าย

***ค้าปลีกราชประสงค์กระทุ้งรัฐ

นายชาย ศรีวิกรม์ ประธานสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจย่านราชประสงค์ เปิดเผยว่า หากเกิดภาวะน้ำท่วมใจกลางเมืองย่านราชประสงค์แล้วคาดว่าจะสร้างงความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อเดือน และหากน้ำท่วมนา น1 เดือนคาดว่าผู้ประกอบการค้าปลีกยังคงรับภาระได้ ซึงภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลรายงานสถานการณ์ว่าในขณะนี้มีปริมาณน้ำเท่าไรและหากน้ำไหลเข้ามาท่วมในพื้นที่กรุงเทพจะมีวิธีการใดให้ระบายน้ำออกไปได้มากและเร็วที่สุด
ขณะนี้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง อัตราการเข้าพักของโรงแรมลดลงเหลือ 40% จากปกติในช่วงเดือนต.ค.นี้อัตราการเข้าพักของโรงแรมย่านราชประสงค์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 90% เพราะเป็นช่วงหน้าท่องเที่ยวแล้ว ส่วนลูกค้าคนไทยไม่มีอารมณ์ในการจับจ่าย แต่สินค้าจำเป็นกำลังซื้อยังดีอยู่ เพราะคนกรุงเทพฯอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ยอมรับว่ารู้สึกกังวลหลังเหตุการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้วจะมีปัญหาตามมาอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการตกงาน

 มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า หากน้ำท่วมสูงเกิน 50 เซนติเมตรในย่านราประสงค์ บรรดาศูนย์ฯในย่านนี้จะปิดบริการ เพื่อความปลอดภัย

**หลายชาติเตือนอย่ามากรุงเทพฯ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลายประเทศ เป็นต้นว่า อังกฤษ, สิงคโปร์, แคนาดา, และเนเธอร์แลนด์ ออกประกาศเตือนพลเมืองของชาติตน อย่าเดินทางมายังกรุงเทพฯเว้นแต่มีความจำเป็น

กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเตือนพลเมืองในวันพุธ(26) ให้งดการเดินทางมากรุงเทพฯดังกล่าว รวมตลอดถึง 26 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของไทยด้วย

กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ก็ออกคำเตือนพลเมืองของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังกรุงเทพฯ ยังระบุให้ชาวสิงคโปร์เร่งเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร และได้จัดทีมช่วยเหลือฉุกเฉินประจำที่สถานทูตในกรุงเทพฯ เพื่อคอยช่วยเหลือชาวสิงคโปร์ที่ยังพำนักอยู่ในไทย

***คนกรุงหนีน้ำนอนพัทยาเต็ม

น.ส.บุณฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เปิดเผยว่า  จากจำนวนคนกรุงเทพฯที่เดินทางอพยพหนีน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ  ทำให้ขณะนี้อัตราเข้าพักโรงแรมในเมืองพัทยาเต็ม 100% หลายแห่งแล้ว  แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่ยังมีห้องพักไว้บริการ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานที่พักได้ที่ www.facebook.com/ptygrandsales หรือ www.trip2pattaya.com  และสายด่วยเมืองพัทยา 1337 ส่วนลูกค้าที่จองห้องพักไว้ แต่ยกเลิกการเดินทางก็ขอให้แจ้งมายังโรงแรมที่จองไว้ด้วย  เพื่อจะได้นำห้องพักออกมาจำหน่ายให้แก่ผู้เดือดร้อนที่ยังไม่มีที่พัก   ล่าสุด สมาคมฯได้ประสานไปยังเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์  ที่ยังมีห้องพักว่างอยู่ ให้เสนอราคาห้องพักมายังสมาคม เพื่อจะได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือให้แก่ผู้อพยพที่ต้องการห้องพัก  โดยเน้นคิดอัตราค่าเช่าแบบรายสัปดาห์ และรายเดือน   

*** สิงห์ผุดศูนย์ช่วยเหยื่อน้ำท่วม

นายสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจ่ำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์สิงห์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรบัพื้นที่บริเวณขสถานนฑูตญี่ปุ่นเดิมที่ถนนเพชรบุรีตัดกับอโศกที่ทางกลุ่มบุญรอดประมูลมาได้ เพื่อจัดทำเป็น กองบัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม “สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก” พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ สามารถรองรนับได้ 500 กว่าคน พร้อมทั้งมีบริการอาหารเครื่องดื่มและบริการทางการแพทย์ด้วย ซึ่งจะเปิดใช้เมื่อถึงเวลาที่เกิดวิกฤติจริงๆ ที่ผ่านมาสิงห์ได้บริจาคน้ำดื่มแลว้กว่า 7.5 ล้านลิตร ข้าวพันดี 300 ตัน อาหารพร้อมทานสัปดาห์ละ 150,000 กล่อง และอื่นๆอีกมาก

สำหรับโรงงานของกลุ่มสิงห์ได้รับผลกระทบแล้ว 3 แห่งที่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะอยุธยา สวนใหญ่ผลิตแพกแกจจิงและฉลาก ส่วนโรงงานผลิตน้ำดื่มสิงห์ อีก 4 แห่งยังผลิตได้คือที่ สิงห์บุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี กำลังผลิตรวม 130,000 แพกต่อวัน ส่วนโรงงานที่ปทุมธานีเจอปัญหาน้ำท่วม
นายฉัตรชัย วิรัตนโยสินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า ความจริงแล้วน้ำดื่มไม่ได้ขาดแคลน กำลังผลิตรวมยังมีอยู่ และอาจจะมากกว่าปรกติด้วยซ้ำเพราะทุกโรงงานผลิตเต็ม 100% จากช่วงปรกติอาจจะแค่ 70-80% แต่ที่ขาดตลาดเพราะปัญหาดีมานด์เทียมคนแห่ซื้อกักตุน รวมทั้งปัญหาการขนส่งไปยังผู้บริโภคไม่ได้มากกว่า

**พีแอนด์จี ยันไม่ย้ายฐานผลิต

นายราอูล ฟอลคอน กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  ปัจจุบันโรงงานของบริษัทฯที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์จังหวัดฉะเชิงเทรา ยังคงผลิตสินค้าตามปรกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งเปิด 15 ปีแล้ว เป็นฐานผลิตสำคัญในกลุ่มบิวตี้แคร์ของพีแอนด์จีที่ป้อนสินค้าให้กับเอเซีย ซึ่งถ้าหากเจอปัญหาน้ำท่วมขึ้นมาจริง และเหตุการณ์คลี่คลายลงแล้ว พีแอนด์จีก็จะไม่โยกย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่น เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพที่ดี แต่ปัญหาหลัก คือการขนส่งสินค้า เพราะดีซีของผู้ค้าปลีกหลายแห่งใช้งานไม่ได้ จึงต้องส่งตรงไปยังสาขาแทน และเติมสินค้าให้มีสต๊อกมากที่สุด หรือใช้ขนส่งทางรถไฟที่ไม่ถูกน้ำท่วม การเพิ่มรอบในการขนส่งสินค้าเป็นต้น

บริษัทฯคาดว่าสิ้นปีนี้ผลการดำเนินงานคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 2 หลัก  ส่วนงบโฆษณานั้นยังไม่มีการโยกไปใช้กับส่วนอื่นแทน ยังเป็นไปตามปรกติ แต่ล่าสุดได้ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท ร่วมมือกับเทสโก้โลตัสประเทศไทย จัดกิจกรรม “6K FOR LIFE” จัดถุงยังชีพจำนวน 6,000 ใบเพื่อแจกให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมทั้งการนำเข้า ผง PUR หรือสารปรับสภาพน้ำ โดย 1 ซองสามารถปรับสภาพน้ำได้ 10 ลิตร ซึ่งได้นำเข้ามาเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น