ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมทางหลวง เร่งสอบถามความคิดเห็นชาวบ้านแหลมฉบัง เพื่อเตรียมแก้ไขปรับปรุงทางแยก-ทางร่วม ทางหลวงหมายเลข 7 (สายชลบุรี-พัทยา) ก่อนจัดเก็บค่าผ่านทาง
วันนี้ (19 ต.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายเรวัติ เขียวสนิท รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง เป็นประธานประชุมรับฟังความคิดเห็น การปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 7 (สายชลบุรี-พัทยา) โดยมีนายสร ปิ่นอักษรสกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน นายวิศรุต กุลตะวนิช วิศวกร ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษา จากบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด และบริษัท ดาวฤกษ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด โดยมีกลุ่มผู้นำชุมชน และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมรับฟังในครั้งนี้
การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในครั้งนี้ เพื่อนำความคิดเห็นดังกล่าว นำกลับไปเสนอต่อกรมทางหลวง เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เพราะในอนาคตเส้นทางดังกล่าว จะมีการเสียค่าผ่านทาง(ด่านเก็บเงิน) ดังนั้น ประชาชนที่ใช้ชีวิตประจำวันบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะทำอย่างไรไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนในการปรับปรุงดังกล่าว
นายสร กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาให้เป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยาและภาคตะวันออก รวมถึงรองรับการขนส่งและโลจิสติกส์ ของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต ในแนวเส้นทางไปสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกหลักในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
สำหรับการปรับปรุงแก้ไขเส้นทางโครงการมีระยะทางรวมประมาณ 58 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 5 ช่วง ซึ่งจะมีด่านเก็บเงิน 2 จุด และจะต้องเริ่มดำเนินการในเร็วๆนี้ ซึ่งในบางช่วงที่มีการแก้ไขปรับปรุงนั้น มีพื้นที่บริเวณแหลมฉบังและพื้นที่ใกล้เคียงอาจได้รับผลกระทบดังกล่าว จึงต้องมีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป
นายสร กล่าวว่า ในระยะทางดังกล่าว ประชาชนที่พักอาศัยอาจจะต้องใช้ทางร่วมเส้นทางหลวงหมายเลข 7 ซึ่งหวั่นจะเสียเงินค่าผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ทางบริษัทที่ปรึกษาได้มีการวางรูปแบบทางเลี้ยวหรือทางกลับรถ โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านมา แต่รูปแบบที่วางไว้นั้นจะถูกต้องหรือเหมาะสมต่อประชาชนในพื้นที่หรือไม่อย่างไร จึงต้องมาสอบถามประชาชนก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน
ด้าน นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง กล่าวว่า รูปแบบที่บริษัทที่ปรึกษาวางไว้ ก็ถือว่าเหมาะสมในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน เนื่องจากมีจุดกลับรถ โดยไม่ต้องผ่านเข้าไปในด่านเก็บเงิน แต่อย่างไรก็ตามควรมีจุดกลับรถในแหล่งชุมชน เพิ่มมากขึ้น เพื่อสะดวกสบาย และไม่ต้องเสียเวลานานในการกลับรถหลายกิโลเมตร
นอกจากนั้น ได้เสนอให้มีทางข้ามหรืออุโมงค์ รอดเส้นทางสายหลักๆ 3 จุด ซึ่งเป็นปัญหาขณะนี้ คือ 1.จุดสายเก้ากิโล-เครือสหพัฒน์ 2.เส้นถนนชากยายจีน-เครือสหพัฒน์ และ 3.เครือสหพัฒน์-หนองขาม เพื่อให้ปัญหาการสัญจรผ่านไปมาได้สะดวกขึ้น โดยที่ประชุมรับปากพร้อมนำเสนอหน่วยงานระดับสูงรับทราบต่อไป