ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมทางหลวงจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน หลังเตรียมแผนปิดกั้นทางหลวงหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา เป็นระบบปิด พร้อมจัดเก็บค่าผ่านทางในปี 2555
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศาลว่าเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม และการออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา โดยมี นายสร ปินอักษรสกุล ผู้เชี่ยวชาญการมีส่วนร่วมของประชาชน และการประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะตัวแทนจากกรมทางหลวงเข้าร่วมชี้แจงท่ามกลางกลุ่มประชาชนและผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมรับฟังกันอย่างคับคั่ง
สำหรับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายชลบุรี พัทยา และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง เป็นโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่ต่อเนื่องกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเชื่อมโยงพื้นที่ภาคตะวันออก และสามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งนี้โดยกรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญความจำเป็นเร่งด่วนของการพัฒนาเส้นทาง โดยการสำรวจและออกแบบเพื่อปรับปรุงทางหลวงช่วงดังกล่าวให้เป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่สมบูรณ์
นายสร ปิ่นอักษรสกุล ผู้เชี่ยวชาญการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ถนนทางหลวงหมายเลข 7 ถือเป็นเส้นถนนที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยกรมทางหลวงได้ก่อสร้างพร้อมขยายช่องการจราจรจนแล้วเสร็จมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในระยะทาง 58 กิโลเมตรที่ต่อเชื่อมกับทางหลวงสายมอเตอร์เวย์สายพระราม 9 และเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์สูงสุดรวมทั้งเพิ่มความสะดวก สบายและความปลอดภัยให้กับผู้เดินทาง จึงกำลังดำเนินการในส่วนของขั้นตอนการจัดสร้างแนวกั้นทาง เข้าออก และการก่อสร้างระบบเก็บค่าผ่านทางแบบระบบปิด (Closed System)
การกำหนดช่วงต่างๆ คือ ช่วง กม.ที่ 1 ช่วงแยกบางพระ และตำบลโป่ง พร้อมจัดสร้างระบบอำนวยการจราจรและความปลอดภัยต่าง ๆ ให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง รวมทั้งมีการออกแบบปรับปรุงทางแยกต่างระดับที่มีอยู่แนวเส้นทางโครงการ เพื่อเชื่อมโยงกับโครงข่ายทางหลวงพิเศษฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2555 นี้ และคงจะก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตาม มีข้อเป็นห่วงจากประชาชนว่าจะมีสามารถเข้าออกเส้นทางดังกล่าวได้หรือไม่ รวมทั้งจะมีผลกระทบกับประชาชนที่อยู่สองฟากทางอย่างไร และช่วงเส้นทางในระยะที่ 2 ระหว่างเมืองพัทยากับตำบลโป่งในความยาว 8 กิโลเมตรนั้น จะมีการจัดเก็บค่าผ่านทางหรือไม่ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง ซึ่งเบื้องต้นนั้นทางกรมทางหลวงจะอนุญาตให้ประชาชนเข้าออกได้ในระยะเวลาของการก่อสร้างจนกว่าจะแล้วเสร็จ
ขณะที่เส้นทางพัทยา-โป่ง นั้นจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ขณะที่อัตราค่าธรรมเนียมนั้นจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ก็เพิ่มรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับการจัดทำเส้น ทางเพิ่มเติมในระยะที่ 3 จากบริเวณแยกหนองขามเข้าสู่ท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และการก่อสร้างแนวรั้วกั้นทาง และการตั้งด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและความเหมาะสมต่อไป
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศาลว่าเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม และการออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา โดยมี นายสร ปินอักษรสกุล ผู้เชี่ยวชาญการมีส่วนร่วมของประชาชน และการประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะตัวแทนจากกรมทางหลวงเข้าร่วมชี้แจงท่ามกลางกลุ่มประชาชนและผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมรับฟังกันอย่างคับคั่ง
สำหรับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายชลบุรี พัทยา และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายทางแยกต่างระดับหนองขาม ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง เป็นโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่ต่อเนื่องกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเชื่อมโยงพื้นที่ภาคตะวันออก และสามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งนี้โดยกรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญความจำเป็นเร่งด่วนของการพัฒนาเส้นทาง โดยการสำรวจและออกแบบเพื่อปรับปรุงทางหลวงช่วงดังกล่าวให้เป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่สมบูรณ์
นายสร ปิ่นอักษรสกุล ผู้เชี่ยวชาญการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ถนนทางหลวงหมายเลข 7 ถือเป็นเส้นถนนที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยกรมทางหลวงได้ก่อสร้างพร้อมขยายช่องการจราจรจนแล้วเสร็จมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในระยะทาง 58 กิโลเมตรที่ต่อเชื่อมกับทางหลวงสายมอเตอร์เวย์สายพระราม 9 และเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์สูงสุดรวมทั้งเพิ่มความสะดวก สบายและความปลอดภัยให้กับผู้เดินทาง จึงกำลังดำเนินการในส่วนของขั้นตอนการจัดสร้างแนวกั้นทาง เข้าออก และการก่อสร้างระบบเก็บค่าผ่านทางแบบระบบปิด (Closed System)
การกำหนดช่วงต่างๆ คือ ช่วง กม.ที่ 1 ช่วงแยกบางพระ และตำบลโป่ง พร้อมจัดสร้างระบบอำนวยการจราจรและความปลอดภัยต่าง ๆ ให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง รวมทั้งมีการออกแบบปรับปรุงทางแยกต่างระดับที่มีอยู่แนวเส้นทางโครงการ เพื่อเชื่อมโยงกับโครงข่ายทางหลวงพิเศษฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2555 นี้ และคงจะก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตาม มีข้อเป็นห่วงจากประชาชนว่าจะมีสามารถเข้าออกเส้นทางดังกล่าวได้หรือไม่ รวมทั้งจะมีผลกระทบกับประชาชนที่อยู่สองฟากทางอย่างไร และช่วงเส้นทางในระยะที่ 2 ระหว่างเมืองพัทยากับตำบลโป่งในความยาว 8 กิโลเมตรนั้น จะมีการจัดเก็บค่าผ่านทางหรือไม่ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง ซึ่งเบื้องต้นนั้นทางกรมทางหลวงจะอนุญาตให้ประชาชนเข้าออกได้ในระยะเวลาของการก่อสร้างจนกว่าจะแล้วเสร็จ
ขณะที่เส้นทางพัทยา-โป่ง นั้นจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ขณะที่อัตราค่าธรรมเนียมนั้นจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ก็เพิ่มรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับการจัดทำเส้น ทางเพิ่มเติมในระยะที่ 3 จากบริเวณแยกหนองขามเข้าสู่ท่าเทียบเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และการก่อสร้างแนวรั้วกั้นทาง และการตั้งด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและความเหมาะสมต่อไป
