ASTVผู้จัดการรายวัน - “ดอนเมือง” ไม่รอด น้ำเหนือจ่อคอหอย “ศปภ.-สนามบิน” ปูปัดข่าวนำ ครม.หนีไป “ชลบุรี” “มธ.รังสิต” น้ำเต็มพื้นที่ กทม.ห่วง “หลักหก-คลองประปา” ทะลักเข้า กทม.ชั้นใน ผวา! "จระเข้นนท์" กัดเด็ก ด้าน“ศปภ.” ดึง “ปราโมทย์” แก้น้ำท่วม เผยไม่ปิดประตูน้ำพระอินทร์แล้ว
สถานการณ์อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล วานนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนขึ้นรถยนต์ออกจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.)ว่า ตอนนี้กำลังติดตามสถานการณ์น้ำที่กำลังไหลมาถึงดอนเมืองแล้ว ซึ่งคืนนี้จะการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ส่วนวันที่ 24 ต.ค.นี้จะต้องรอประเมินสถานการณคืนนี้ก่อน
ระดับน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงเย็นบริเวณหน้าฐานทัพอากาศ และบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อช่วงเช้าอีกกว่า 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งป้องกันพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะท่วมภายในท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่นำหินบดมาทำเป็นคันกั้นน้ำ และเสริมกระสอบทรายให้สูงขึ้นบริเวณทางเข้า-ออก ทั้ง 7 ประตู ของท่าอากาศยานดอนเมือง
ทั้งนี้ ระดับน้ำบนถนนมีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่า เป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากท่อระบายน้ำ ไม่ใช่น้ำเหนือที่ไหลมาจากภาคกลาง
ช่วงเช้า ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ขาเข้า ตั้งแต่ช่วงฝ่ายช่างการบินไทยถึงอาคารวีไอพี ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เกิดน้ำท่วมขังบนผิวจราจรโดยขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร เป็นระยะทางราว 500 เมตร ทำให้น้ำท่วมขังเกือบ 2 ช่องทางจราจร เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายและหินคลุกมากั้นพนังกั้นน้ำ บริเวณทางเข้า-ออก แล้ว ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ยังใช้เป็นศูนย์พักพิงให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เป็นที่ตั้งของ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.
สำหรับตลาดสี่มุมเมือง รังสิต ประชาชนทยอยนำข้าวของเครื่องใช้จำเป็นออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำที่ท่วมบริเวณถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลทะลักมาจากด้านหลังห้างเมอร์รี่คิงส์ ทำให้การสัญจรบริเวณถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก รถสามารถวิ่งสวนกันได้เพียง 1 ช่อง
ขณะที่น้ำเอ่อล้นท่อระบายน้ำและคลองต่างๆ บริเวณถนนพหลโยธิน ทำให้น้ำท่วมขังซอยที่ระดับต่ำบริเวณสะพานใหม่ อาทิ ซอยโชคดี 1 และ 2 ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคล ระดับน้ำสูงเท่าหัวเข่า บางจุดไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน ขณะที่ร้านค้าเงียบเหงาโดยปิดให้บริการเกือบทั้งหมด
**มธ.รังสิต ยังวิกฤติน้ำเต็มพื้นที่
นายกำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กล่าวว่า ล่าสุดน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว สูง 70 ซ.ม. รอบศูนย์พักพิงมีน้ำล้อม และปริ่มเข้ามาบางจุด ตามแนวกระสอบทราย ซึ่งเมื่อวานเสริมเพิ่ม 20 ซ.ม. โดยเชื่อว่าน้ำจะไม่สูงขึ้นไปมากกว่านี้ พร้อมกล่าวว่า การบัญชาการศูนย์พักพิงทำได้ยากขึ้น ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ และลำเลียงอาหารลำบากขึ้น รวมถึงการรับความช่วยเหลือที่ยากขึ้นเช่นกัน แต่ยังคงต้องการอาหารและน้ำจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าคงต้องประสบกับภาวะเช่นนี้ ไปอีกนาน ขณะที่ต้องการเรือและเสื้อชูชีพ เพื่อใช้ตรวจการณ์ เนื่องจากเริ่มมีขโมยชุกชุม
**รังสิตยิงปืนรื้อพนังน้ำทะลักคลอง2
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 02.30 น. กลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า บริเวณหน้าสำนักงานชลประทาน ใต้สะพานกลับรถคลองรังสิต ถ.พหลโยธิน มีชาย 4 คน มีอาวุธปืน เข้ารื้อแนวกระสอบทราย จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร มูลนิธิอาสา พลเมืองดี ให้เข้าช่วยเหลือด่วน ซึ่งในขณะเวลานี้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำได้ถอนกำลังแล้ว ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณรังสิตคลอง 1 และคลอง 2 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ขณะนั้น ได้มีการตะลุมบอลกัน ระหว่างประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งมีการยิงปืนขึ้นฟ้า อีกจำนวน 1 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิการพิเศษ หรือ 191 ได้เข้ามายุติเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่จะบานปลาย
ส่วนด้านหน้าเซียร์ รังสิต น้ำยังอยู่ในระดับสูง รถขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านฝั่งขาเข้าได้ ต้องเลี่ยงมาใช้ฝั่งขาออกแทน ซึ่งจุดนี้จะใช้เป็นจุดตัดสะพานข้ามแยกระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต ที่มีการนำแท่นคอนกรีตมาตั้งแบ่งแยกช่องทางการจราจร
ระดับน้ำที่เอ่อล้นมาจากตลาดรังสิต ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนพหลโยธินตลอด 2 ฝั่งถนน บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สนามกีฬากองทัพอากาศ และปากทางแยกเข้าถนนลำลูกกา ซึ่งระดับน้ำสูงถึงบริเวณประมาณหัวเข่า ทั้งนี้ ระดับน้ำที่เอ่อล้นมายังถนนพหลโยธิน ทำให้บางจุดของถนน มีน้ำเกินแนวขอบฟุตบาธ
ที่ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซึ่งถูกใช้เป็นสำนักงานชั่วคราว สร้างคันกั้นน้ำเขตสายไหม มีกำลังทหารจากกองทัพอากาศ จำนวน 50 นาย เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร และ ประชาชนผู้มีจิตอาสาจำนวนหนึ่ง ช่วยกันบรรจุทรายที่เหลือ ลงในกระสอบ เพื่อทยอยลำเลียงไปเสริมคันกั้นน้ำริมคลองหกวาเพิ่มเติมเนื่องจากบางจุด ยังไม่มีความแข็งแรงมากพอ
** จระเข้โผล่กัดเด็กในม.ชลลดา
ที่ทางเข้าตลาดบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น้ำได้ท่วมจากถนนกาญจนาภิเษก ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ไหลทะลักเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนยังคงเดินฝ่ากระแสน้ำ เพื่อเดินทางออกมาสู่ถนนใหญ่
หน่วยกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประาชนที่หน้าหมู่บ้านชลลดา อ.บางบัวทอง แจ้งว่า ขณะนี้มีจระเข้หลุดออกมาหลายตัว และออกอาละวาดแล้ว โดยทีมกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ จัดทีมไล่ล่า และสามารถจับได้ 2 ตัว โดยมีขนาดลำตัวยาวเกือบ 3 เมตร ซึ่งคาดว่าจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยงภายในหมู่บ้านชลลดา ที่ทำเป็นฟาร์มขนาดเล็กไว้ โดยคาดว่าจะมีเหลืออยู่อีกประมาณ 3 - 4 ตัว ซึ่งเจ้าของจระเข้นั้นไม่ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ามีทั้งหมดกี่ตัว
ล่าสุดมีรายงานประชาชนแจ้งว่า จระเข้ได้กัดเด็กภายในหมู่บ้านชลลดา ขณะที่อพยพออกมาจากหมู่บ้าน โดยยังไม่ทราบว่าอาการหนักหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความตื่นกลัวให้กับประชาชนที่กำลังอพยพหนีน้ำท่วมอย่างมาก
**ทหารนำรถสายพานช่วยนนท์
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก นำกำลังทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในตลาดบางบัวทอง จ.นนทบุรี และเป็นครั้งแรกที่กองทัพนำรถบองโก้ หรือรถสายพานลำเลียง รองรับประชาชนได้คันละ 40 คน และสามารถวิ่งในน้ำได้ มาใช้ช่วยเหลือผู้ที่ยังไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งกองทัพจะใช้รถบองโก้เข้าไปในพื้นที่ที่รถและเรือเข้าไปไม่ถึง
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งลงทำงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย เขต อ.บางบัวทอง แจ้งว่า ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่กับน้ำที่ท่วมในซอยวัดลาดปลาดุก เขต อ.บางบัวทอง ประมาณ 2-3 ราย ซึ่งเป็นศพทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูดหรือเสียชีวิตจากการจมน้ำกันแน่
ในวันเดียวกันนี้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจะเข้าไปดำเนินการเก็บกู้ศพดังกล่าวทั้งหมด หลังจากที่ปฏิบัติการเก็บกู้ศพเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรือที่จะเข้าไปกู้ศพเกิดเครื่องยนต์เสีย ขาดผู้ชำนาญเส้นทางในพื้นที่ที่จะพาไปยังจุดที่พบศพ และยังต้องประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีไปร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุด้วย จึงทำให้เกิดความล่าช้า
ขณะที่เข้าไปเก็บศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะนอกจากจะต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะแล้ว จำเป็นต้องมีคนชำนาญพื้นที่ติดเรือไปด้วย
**กู้“ท่าเขียวไข่กา”ได้เแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภายในชุมชนเขียวไข่กา ซอยบางกระบือ แขวงและเขตดุสิต ภายหลังเกิดเหตุกระสอบทรายที่ทำเป็นแนวกั้นน้ำ บริเวณท่าเขียวไข่กา สี่แยกบางกระบือถนนสามเสนแตก ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วม บริเวณสี่แยกบางกระบือเมื่อวานที่ผ่านมา โดยภายในซอยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่เขตดุสิต รวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงสี่แยกบางกระบือ ได้ช่วยกันผลักดันน้ำจนน้ำเริ่มแห้งขอด
**ผักสดราคาพุ่ง โอเว่อร์
มีรายงานว่าผักสดหลายชนิดในตลาดยิ่งเจริญ ราคาขยับสูงขึ้นเท่าตัว ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากภาวะน้ำท่วมเช่น กะเพรา โหระพา ราคาที่กิโลกรัมละ 120 บาท จากเดิมอยู่ที่ 20 - 30 บาท ตั้งโอ๋ กิโลกรัมละ 140 บาท จากเดิมอยู่ที่ 40 - 50 บาท ถั่วฝักยาวกิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิมอยู่ที่ 20 - 30 บาท และหัวไชเท้า กิโลกรัมละ 35 บาท จากเดิมอยู่ที่ 10 บาท
ทั้งนี้ แม่ค้ากังวลว่าอาจจะไม่มีผักมาวางขายให้กับประชาชน เนื่องจากน้ำท่วมฝั่งรังสิต ไหลทะลักมายังบริเวณตลาดสี่มุมเมือง มีระดับน้ำสูง รถไม่สามารถเข้าไปรับ - ส่งผักได้
**กทม.ห่วงหลักหก-คลองประปาล้น
ช่วงเช้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงว่า บริเวณคลองเปรมประชากร หน้าสน.ดอนเมือง ขณะนี้ระดับน้ำสูงใกล้ขอบตลิ่ง ส่วนระดับน้ำในคลองสามวาช่วงเชื่อมต่อคลองประปา ระดับน้ำต่ำกว่าสันเขื่อน 1.84 เมตร น้ำให้คลองประปาไหลสู่คลองสามเสนในอัตราต่ำกว่าที่คาด ส่วนระดับน้ำในคลองประปาขณะนี้ ได้ท่วมถึงถนนพหลโยธิน บริเวณอนุสรณ์สถาน รถเล็กผ่านไม่ได้ ซึ่งสำนักการระบายน้ำจะเข้าเรียงกระสอบทรายบริเวณอนุสรณ์สถานด้านถนนวิภาวดี และถนนพหลโยธินในวันที่ 23 ต.ค. นี้
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมขังถนนแจ้งวัฒนะ จากคลองประปาถึงศูนย์ราชการฯ ขณะนี้ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทั้งสองฝั่ง ส่วนถนนเลียบคลองประปาจากแยกพงษ์เพชรถึงถนนแจ้งวัฒนะ มีน้ำรั่วซึมออกมาเล็กน้อยไม่ส่งผลต่อปัญหาจราจร ด้านถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนศรีสมาน มีน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ ประมาณ 20 ซม. โดยเฉพาะหมู่บ้านบูรพา วัดเวฬุ วัดไผ่เขียว ระดับน้ำ 50 ซม. ถนนแจ้งวัฒนะหน้ากรมทหารระดับน้ำ 40 - 50 ซม. และซอยแจ้งวัฒนะ 14 ระดับน้ำ 40 - 50 ซม.
ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง ที่จะเข้ามารังสิต ถึงคลองหกวาระดับล่าง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 ซม. ต้องเฝ้าระวังและติดตามเป็นระยะ โยเฉพาะพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม ลาดกระบัง คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ถนนพหลโยธินตั้งแต่ปากซอย แอนเน็กซ์ ถึงซอย 58 น้ำท่วมสูงเสมอขอบเท้าสองเลน ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำยังปกติ โดย กทม. ได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำจากเหนือไปใต้ลงอ่าวไทยทุกสาย
ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ล่าสุดปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดได้ 3,448 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน 169 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าในเวลา 16.19 น. น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดที่ระดับ 0.98 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดอยู่ที่ระดับ 2.18 เมตร
ส่วนปริมาณน้ำฝนได้รับรายงานว่าในสัปดาห์นี้จะมีปริมาณฝนตกมาก ซึ่งกทม. จะเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อระบายปริมาณน้ำฝนออก แต่ต้องยอมรับว่าระยะเวลาในการระบายน้ำออกนั้น ต้องใช้เวลามากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและน้ำอื่นๆ มาหนุนกันอยู่
อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ระดมเจ้าหน้าที่ไปสร้างแนวคันกั้นน้ำชั่วคราว บริเวณชุมชนนอกแนวกั้นน้ำ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังปกติ แต่ยังมีข้อกังวล เมื่อคันกั้นน้ำที่หลักหกมีปัญหายังไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่จ.ปทุมธานี อีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดออกอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ตัดคอลงรังสิต และเป็นพื้นที่จ.ปทุมธานี เช่นกัน กทม. ได้สร้างคันกั้นน้ำชั่วคราว แต่ก็ยังไม่พอ จึงได้มีการพยายามเสริมคันกั้นน้ำอีก เนื่องจากมีปัญหาน้ำเอ่อท่วมเข้าเซียร์รังสิต อนุสรณ์สถาน กทม.
**คนกทม.ถูกคุกคามสั่งเลิก
“เมื่อคืนประมาณ 01.00 น. มีประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้านการทำงานของกทม. ถึงขั้นอาจใช้ความรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่ กทม. มีความเสี่ยงถึงชีวิตได้ เพราะเจ้าหน้าที่เราไม่ถูกฝึกมาให้มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธ และไม่ได้ฝึกให้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ฉะนั้นในการทำงานที่มีความเสี่ยงเป็นอันตรายควรได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะการป้องกันแนวคันกั้นน้ำตรงจุดนี้ต้องทำเนื่องจากมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้ากทม.ชั้นในได้” ผู้ว่า กทม. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสังเกตคลองต่างๆ ในกทม.พบว่าระดับน้ำในคลองน้อยโดยเฉพาะคลองแสนแสบเหตุใดไม่ผันนำลงคลอง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า คลองในกทม.ไม่ใช่ว่าทุกคลองจะใช้เป็นเส้นทางผันน้ำ ทางกทม.ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำลงคลองที่เป็นคลองระบายน้ำอยู่แล้ว
**ศปภ.แถลงแก้น้ำคลองประปาได้
พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศปภ. แถลงว่า ขณะนี้ 1. น้ำมาอยู่บริเวณด้านเหนือกทม.ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. การเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเป็นไปได้ด้วยดี ใน 3 ทิศทาง คือ ทางด้านทิศตะวันออก แม่น้ำเจ้าพระยา และ แม่น้ำท่าจีน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ของกทม.ได้รับการแก้ไขในทุกจุดเรียบร้อยแล้ว 2. ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นจากคลองประปาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถหยุดน้ำที่ไหลเข้าคลองประปาได้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (22 ต.ค.) และจากนี้ปริมาณนี้น้ำในคลองประปาจะค่อยๆ ลดระดับลงสู่ปกติ ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่บางกระบือ บริเวณแยกเขียวไข่กานั้น ซึ่งเกิดจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลุคันกั้นน้ำบางส่วน ซึ่งขณะนี้คันกั้นน้ำดังกล่าวได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว โดยทางศปภ. ได้ประสานทางกทม.ช่วยเร่งระบายน้ำในส่วนที่เอ่อล้นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนน้ำที่เอ่อล้นในพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิตนั้น เกิดจากปริมาณน้ำบางส่วนที่ไหลผ่านมาทางท่อระบายน้ำและเอ่อล้นขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ทางศปภ.ได้กำหนดแผนการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำบนถนนสายหลัก และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยด่วน
นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า มาช่วยแนะนำแนวทางการระบายน้ำว่า ต้องเน้นลดระดับน้ำจากคลองหกวา ไม่ให้ปะทะแนวคันกั้นน้ำถนนสายไหม ซึ่งเป็นแนวทางสุดท้ายทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ โดยระบายไปด้านทิศตะวันออก ซึ่งมีคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ อีกด้านหนึ่ง และมีคลองแยกหลายสาย สามารถระบายน้ำผ่านไปยังทิศตะวันออก และทิศใต้ ได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้แนวคันกั้นน้ำ ทั้งทิศเหนือ และทิศตะวันออก ยังทำหน้าที่ได้ดี จุดสำคัญสังเกตได้ว่า การระบายน้ำทำได้ดีพอหรือไม่ คือ ต้องระวังไม่ให้น้ำล้นไปยังถนนพหลโยธิน
**นายกฯห่วงดอนเมือง-หลักสี่ น้ำทะลัก
ช่วงเช้า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีว่าหากเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯจะมีการย้ายศูนย์ศปภ.ไปยังจ. ชลบุรี ว่า ยังไม่ทราบข่าวตรงนั้นแต่ยอมรับวันนี้น้ำอาจมีผลเข้ามาในกทม.บ้าง อย่างที่ประชาชนได้ติดตามข่าวซึ่งมีหลายจุดที่มีกระแสลมพัดสูงและทำให้น้ำเอ่อล้นแนวพนังกั้นน้ำ ขณะน้ำกำลังประสานงานกับกทม.ในการเร่งสูบและแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่เซียร์ รังสิต และอาจจะมีปัญหาพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ ที่อาจมีปัญหาน้ำท่วมขังซึ่งเราจะเร่งสูบระบายแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดของกทม. ขอเรียนว่าจะพยายามเฝ้าระวังทุกจุดซึ่งวันนี้หลายจุดอาจจะมีน้ำเอ่อล้น และตอนนี้ยังมีปัญหาจุดประตูน้ำพระอินทร์ที่ยังปิดไม่ได้ โดยตนจะไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะหามาตรการอย่างไรที่จะปิดประตูน้ำ ซึ่งในเชิงเทคนิคเราได้พยายามใช้อุปกรณ์ต่างๆ แต่น้ำเชี่ยวแรงมาก ทำให้การปิดประตูทำด้วยความยากลำบาก
ส่วนน้ำที่ไหลเข้าบริเวณกทม.จะทะลักเข้าพื้นที่กทม.ชั้นในหรือไม่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในแนวที่กั้นอยู่คือ แนวประตูน้ำพระอินทร์ และคลองเปรมประชากร ซึ่งตามแผนระบายน้ำ เราอยากให้น้ำเหวี่ยงออกทางตะวันออก คือคลองระพีพัฒน์ และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แต่เนื่องจากสภาพเป็นแอ่งที่ช้อนขึ้น ทำให้น้ำเข้าไปแต่ไม่มากเท่าที่เราคาดหวัง ประกอบกับ น้ำที่ไหลมาจากอยุธยา ที่ไหลมาค่อนข้างแรงมารวมที่คลองเปรมประชากร และเป็นภาระหนักของประตูน้ำพระอินทร์และประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก็เลยเป็นส่วนที่ทำให้เป็นห่วง อย่างไรก็ตาม เราก็พายามกั้นเพื่อชะลอน้ำไม่เข้ากทม. ชั้นใน
“ระดับน้ำในบางพื้นที่อยู่ที่ 50 เซนติเมตร ถึงเมตรกว่า แต่พื้นที่ที่เราเป็นห่วงคือ พื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ แต่ในส่วนกทม. ชั้นใน เรายังพยายามดูแลควบคุมสถานการณ์”
ทั้งนี้ โดยสรุปแล้วยังบอกไม่ได้หรือไม่ว่าคนกทม. จะได้รับผลกระทบกับสถานการณ์น้ำนานแค่ไหน น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวยอมรับว่า ขอเรียนตรงๆ ว่ายังบอกไม่ได้ชัดเจนเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เราคุมไม่ได้ เพราะน้ำมาจาก 2 ทิศทางรวมกัน ขณะเดียวกัน เราพยายามทำในส่วนของพนังกั้นน้ำต่างๆ ไว้ ขอเรียนว่าพี่น้องกทม.จะมีผลกระทบบ้าง เนื่องจากน้ำจะต้องไหลผ่านลงมาตามคลองต่างๆ โดยเฉพาะคลองแสนแสบที่จะเป็นคลองเร่งระบายน้ำ ที่ถูกทางที่สุด และต้องอาศัยท่อระบายน้ำในกทม.ปล่อยลงไปให้เร็วที่สุดด้วยก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนสูงในช่วงสิ้นเดือนนี้
**ข้องใจระบายน้ำกทม.ไม่ถึงแสนแสบ
เมื่อถามว่าการระบายน้ำผ่านกทม. ยังมีปัญหาหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่ายังไปไม่ถึงคลองแสนแสบ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ วันนี้ยอมรับว่าการระบายน้ำยังไม่เต็มที่ แต่เราได้ตั้งคณะทำงานเข้าไปทำงานร่วมกับกทม.โดยดูเฉพาะจุดเลยว่า ทำไมไม่สามารถเร่งระบายน้ำได้อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าการระบายน้ำผ่านกทม.ที่ยังทำได้ช้าอาจทำให้คันกั้นน้ำชำรุดและทะลักเข้าท่วมบ้านประชาชน น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราได้ใช้กำลังจากหน่วยทหารและตำรวจจราจรเข้าไปตรวจสอบทุกจุด เพื่อเป้ฯการเฝ้าระวังตลอดเวลา โดยให้ตรวจทุก 1 ชั่วโมงและรายงานผลกลับมา
เมื่อถามว่าการระบายน้ำของกทม. ยังเป็นไปอย่างเต็มที่ตามคำสั่งหรือไม่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โดยภาพรวมของการทำงานทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือและเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ยังมีประตูระบายน้ำบางจุดเปิดไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนเองได้ให้คณะกรรมการเข้าไปศึกษาร่วมกับกทม. ว่าทำไมถึงเปิดไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบางจุดเปิดได้เพียงครึ่งเดียว
**นายกฯดึงปราโมทย์แก้น้ำท่วม
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล่าสุดดึง นายปราโมทย์ ไม้กลัด เข้าร่วมแก้ปัญหาวิกฤติน้ำท่วม เพื่อร่วมประชุมกับคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง
**สั่งกรมชลคุมปิดเปิดประตูน้ำพระอินทร์
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยมีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมชลประทาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับทราบ ซึ่งในหนังสือมีคำสั่งให้ นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้ถือกุญแจควบคุมประตูระบายน้ำ และกำกับการเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา บริเวณคลอง 1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งทุกหน่วยจะต้องรับฟังคำสั่งจากรองอธิบดีกรมชลประทาน แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
สั่งให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของรองอธิบดีกรมชลประธาน พร้อมป้องกันไม่ให้ประชาชนขวางการเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา
สั่งให้ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควบคุมการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
**ล่าสุดไม่ปิดประตูน้ำพระอินทร์
นายชลิต เปิดเผยว่า ได้ประสานในการปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา หลังศปภ. สั่งการให้พยามยามลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าคลองรังสิตด้านหนือ ซึ่งแนวทางนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทาง เพื่อควบคุมระดับน้ำในคลองรังสิต ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติอยู่ขณะนี้ ซึ่งหากปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวได้แล้ว ปริมาณน้ำจะไหลไปทางด้านข้างของประตูน้ำทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก จำนวนมาก เพื่อระบายลงสูทะลต่อไป แต่อาจส่งผลให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นในชุมชนที่อยู่ทางด้านข้างทั้งสองแนว
ล่าสุด ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และชลประทาน ได้ตรวจประตูน้ำพระอินทร์ฯ โดยมีมติไม่ปิดประตูแล้ว หลังจากพบว่าอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก
**ปลอดฯแนะรัฐบอกความจริง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำในวันนี้และตนคิดว่ายังไม่สายเกินไปคือ 1.ให้ความจริงกับประชาชน 100 % ไม่ต้องกลัวว่า เขาจะหวาดกลัว 2. เตือนก่อนล่วงหน้าให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. มีจุดยืนและให้หาที่ปลอดภัยให้กับประชาชน 4.สถานที่ปลอดภัยดังกล่าวที่ให้ประชาชนอยู่ต้องให้ใกล้เคียงกับชีวิตปกติของเขาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ซึ่งคำว่าใกล้เคียง ณ วันนี้ยกตัวอย่างเช่น ถนนหนทางที่ไหนน้ำท่วม น้ำไม่ท่วมก็ต้องบอกกับประชาชน ตรงไหนไปได้ ไปไม่ได้ก็ต้องบอกกับประชาชน ทุก 15 นาที
ส่วนให้ทำอย่างไรนั้น 1.หันกล้องของการจรจรทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งจากเดิมมีไว้สำหรับการจราจรก็เปลี่ยนมุมกล้องไปสู่มุมน้ำท่วม 2.วิทยุสื่อสารที่ใช้ในการจราจรก็ควรสื่อสารมาบอกว่าตรงไหนท่วมไม่ท่วม นำสองอย่างนี้มาผนวกกันซึ่งจะทำให้ประชาชนรับรู้ว่าที่ใดควรไปไม่ควรไป 3.ต้องบอกประชาชนว่าน้ำจะท่วมไปทิศทางใด อย่างเช่นทิศตะวันตก ต้องบอกไปเลยว่าน้ำมาจากบางบัวทอง ต่อไปก็บางใหญ่ และก็บางกรวย ในเวลาประมาณเท่าไหร่ นั่นคือสิ่งที่คนเขาอยากรู้
“กทม. คงท่วมทั้งหมดและน้ำจะขังอีกพอสมควร ซึ่งตนได้ประเมินไว้ประมาณ 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง เพราะน้ำมีจำนวนมาก ลองดูที่ จ.อยุธยา ต้องถามว่าน้ำท่วมตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ และวันนี้น้ำหมดหรือยังและอย่าลืมว่ากรุงเทพฯต่ำกว่าอยุธยา ซึ่งกรุงเทพฯยังจะโดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุนอีก แต่อยุธยาไม่โดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุน “นายปลอดประสพกล่าวคิดว่าภายในช่วงอาทิตย์นี้ และถ้าผ่านช่วงเดือนนี้ไปได้ความอันตรายก็จะลดลง อันตรายก็คือ น้ำจะท่วมสูงมาก และก็จะพบกับความลำบากต่อไป เพราะน้ำจะท่วมขังนานพอสมควร
นายปลอดประสพ พร้อมด้วย นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ) ยังได้ชี้แจงกรณีถึงที่มีข่าวลือว่าบริษัทแอนเซลล์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยาง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีสารพิษรั่ว ว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีสารซัลฟิวริกเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่มีผลกระทบ อีกทั้งสารเคมีดังกล่าวเก็บรักษาไว้ในห้องแล็ปอย่างดี ไม่มีรั่วไหลข่าวที่ออกมาถือว่าเป็นการปล่อยข่าวไม่ได้หวังดีกับประเทศไทย ตอแช่งผู้ที่ปล่อยข่าวว่า ขอให้บ้านตัวเองถูกน้ำท่วมบ้างและท่วมนานๆ จะได้เกิดความรู้สึก
**ผ่อนผันค่าไฟให้ 3 เดือน ไม่คิดดอก
นางอรุณศรี จงเจียมจิตต์ ผู้อํานวยการกองสื่อสารองค์กร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า ได้เปิดผ่อนผันการชําระเงินค่าไฟฟ้าสําหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัย โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัย กิจการขนาดเล็ก กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ และกิจการเฉพาะอย่าง สามารถขอผ่อนผันชําระเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนที่ประสบภัยจากน้ำท่วมแต่ละเดือนออกไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่เรียกเก็บเงินค่าดอกเบี้ย ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่หรือโทร. 1129.
สถานการณ์อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล วานนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนขึ้นรถยนต์ออกจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.)ว่า ตอนนี้กำลังติดตามสถานการณ์น้ำที่กำลังไหลมาถึงดอนเมืองแล้ว ซึ่งคืนนี้จะการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ส่วนวันที่ 24 ต.ค.นี้จะต้องรอประเมินสถานการณคืนนี้ก่อน
ระดับน้ำบนถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงเย็นบริเวณหน้าฐานทัพอากาศ และบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อช่วงเช้าอีกกว่า 10 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งป้องกันพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะท่วมภายในท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเจ้าหน้าที่นำหินบดมาทำเป็นคันกั้นน้ำ และเสริมกระสอบทรายให้สูงขึ้นบริเวณทางเข้า-ออก ทั้ง 7 ประตู ของท่าอากาศยานดอนเมือง
ทั้งนี้ ระดับน้ำบนถนนมีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่า เป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากท่อระบายน้ำ ไม่ใช่น้ำเหนือที่ไหลมาจากภาคกลาง
ช่วงเช้า ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ขาเข้า ตั้งแต่ช่วงฝ่ายช่างการบินไทยถึงอาคารวีไอพี ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เกิดน้ำท่วมขังบนผิวจราจรโดยขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร เป็นระยะทางราว 500 เมตร ทำให้น้ำท่วมขังเกือบ 2 ช่องทางจราจร เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายและหินคลุกมากั้นพนังกั้นน้ำ บริเวณทางเข้า-ออก แล้ว ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ยังใช้เป็นศูนย์พักพิงให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เป็นที่ตั้งของ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.
สำหรับตลาดสี่มุมเมือง รังสิต ประชาชนทยอยนำข้าวของเครื่องใช้จำเป็นออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำที่ท่วมบริเวณถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลทะลักมาจากด้านหลังห้างเมอร์รี่คิงส์ ทำให้การสัญจรบริเวณถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก รถสามารถวิ่งสวนกันได้เพียง 1 ช่อง
ขณะที่น้ำเอ่อล้นท่อระบายน้ำและคลองต่างๆ บริเวณถนนพหลโยธิน ทำให้น้ำท่วมขังซอยที่ระดับต่ำบริเวณสะพานใหม่ อาทิ ซอยโชคดี 1 และ 2 ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคล ระดับน้ำสูงเท่าหัวเข่า บางจุดไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน ขณะที่ร้านค้าเงียบเหงาโดยปิดให้บริการเกือบทั้งหมด
**มธ.รังสิต ยังวิกฤติน้ำเต็มพื้นที่
นายกำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต กล่าวว่า ล่าสุดน้ำท่วมเต็มพื้นที่แล้ว สูง 70 ซ.ม. รอบศูนย์พักพิงมีน้ำล้อม และปริ่มเข้ามาบางจุด ตามแนวกระสอบทราย ซึ่งเมื่อวานเสริมเพิ่ม 20 ซ.ม. โดยเชื่อว่าน้ำจะไม่สูงขึ้นไปมากกว่านี้ พร้อมกล่าวว่า การบัญชาการศูนย์พักพิงทำได้ยากขึ้น ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ และลำเลียงอาหารลำบากขึ้น รวมถึงการรับความช่วยเหลือที่ยากขึ้นเช่นกัน แต่ยังคงต้องการอาหารและน้ำจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าคงต้องประสบกับภาวะเช่นนี้ ไปอีกนาน ขณะที่ต้องการเรือและเสื้อชูชีพ เพื่อใช้ตรวจการณ์ เนื่องจากเริ่มมีขโมยชุกชุม
**รังสิตยิงปืนรื้อพนังน้ำทะลักคลอง2
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 02.30 น. กลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า บริเวณหน้าสำนักงานชลประทาน ใต้สะพานกลับรถคลองรังสิต ถ.พหลโยธิน มีชาย 4 คน มีอาวุธปืน เข้ารื้อแนวกระสอบทราย จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร มูลนิธิอาสา พลเมืองดี ให้เข้าช่วยเหลือด่วน ซึ่งในขณะเวลานี้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำได้ถอนกำลังแล้ว ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณรังสิตคลอง 1 และคลอง 2 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ขณะนั้น ได้มีการตะลุมบอลกัน ระหว่างประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งมีการยิงปืนขึ้นฟ้า อีกจำนวน 1 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิการพิเศษ หรือ 191 ได้เข้ามายุติเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่จะบานปลาย
ส่วนด้านหน้าเซียร์ รังสิต น้ำยังอยู่ในระดับสูง รถขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านฝั่งขาเข้าได้ ต้องเลี่ยงมาใช้ฝั่งขาออกแทน ซึ่งจุดนี้จะใช้เป็นจุดตัดสะพานข้ามแยกระหว่างถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต ที่มีการนำแท่นคอนกรีตมาตั้งแบ่งแยกช่องทางการจราจร
ระดับน้ำที่เอ่อล้นมาจากตลาดรังสิต ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนพหลโยธินตลอด 2 ฝั่งถนน บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สนามกีฬากองทัพอากาศ และปากทางแยกเข้าถนนลำลูกกา ซึ่งระดับน้ำสูงถึงบริเวณประมาณหัวเข่า ทั้งนี้ ระดับน้ำที่เอ่อล้นมายังถนนพหลโยธิน ทำให้บางจุดของถนน มีน้ำเกินแนวขอบฟุตบาธ
ที่ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซึ่งถูกใช้เป็นสำนักงานชั่วคราว สร้างคันกั้นน้ำเขตสายไหม มีกำลังทหารจากกองทัพอากาศ จำนวน 50 นาย เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร และ ประชาชนผู้มีจิตอาสาจำนวนหนึ่ง ช่วยกันบรรจุทรายที่เหลือ ลงในกระสอบ เพื่อทยอยลำเลียงไปเสริมคันกั้นน้ำริมคลองหกวาเพิ่มเติมเนื่องจากบางจุด ยังไม่มีความแข็งแรงมากพอ
** จระเข้โผล่กัดเด็กในม.ชลลดา
ที่ทางเข้าตลาดบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น้ำได้ท่วมจากถนนกาญจนาภิเษก ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ไหลทะลักเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนยังคงเดินฝ่ากระแสน้ำ เพื่อเดินทางออกมาสู่ถนนใหญ่
หน่วยกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประาชนที่หน้าหมู่บ้านชลลดา อ.บางบัวทอง แจ้งว่า ขณะนี้มีจระเข้หลุดออกมาหลายตัว และออกอาละวาดแล้ว โดยทีมกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ จัดทีมไล่ล่า และสามารถจับได้ 2 ตัว โดยมีขนาดลำตัวยาวเกือบ 3 เมตร ซึ่งคาดว่าจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยงภายในหมู่บ้านชลลดา ที่ทำเป็นฟาร์มขนาดเล็กไว้ โดยคาดว่าจะมีเหลืออยู่อีกประมาณ 3 - 4 ตัว ซึ่งเจ้าของจระเข้นั้นไม่ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ามีทั้งหมดกี่ตัว
ล่าสุดมีรายงานประชาชนแจ้งว่า จระเข้ได้กัดเด็กภายในหมู่บ้านชลลดา ขณะที่อพยพออกมาจากหมู่บ้าน โดยยังไม่ทราบว่าอาการหนักหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความตื่นกลัวให้กับประชาชนที่กำลังอพยพหนีน้ำท่วมอย่างมาก
**ทหารนำรถสายพานช่วยนนท์
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก นำกำลังทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในตลาดบางบัวทอง จ.นนทบุรี และเป็นครั้งแรกที่กองทัพนำรถบองโก้ หรือรถสายพานลำเลียง รองรับประชาชนได้คันละ 40 คน และสามารถวิ่งในน้ำได้ มาใช้ช่วยเหลือผู้ที่ยังไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งกองทัพจะใช้รถบองโก้เข้าไปในพื้นที่ที่รถและเรือเข้าไปไม่ถึง
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งลงทำงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย เขต อ.บางบัวทอง แจ้งว่า ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่กับน้ำที่ท่วมในซอยวัดลาดปลาดุก เขต อ.บางบัวทอง ประมาณ 2-3 ราย ซึ่งเป็นศพทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูดหรือเสียชีวิตจากการจมน้ำกันแน่
ในวันเดียวกันนี้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจะเข้าไปดำเนินการเก็บกู้ศพดังกล่าวทั้งหมด หลังจากที่ปฏิบัติการเก็บกู้ศพเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากประสบปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรือที่จะเข้าไปกู้ศพเกิดเครื่องยนต์เสีย ขาดผู้ชำนาญเส้นทางในพื้นที่ที่จะพาไปยังจุดที่พบศพ และยังต้องประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีไปร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุด้วย จึงทำให้เกิดความล่าช้า
ขณะที่เข้าไปเก็บศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะนอกจากจะต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะแล้ว จำเป็นต้องมีคนชำนาญพื้นที่ติดเรือไปด้วย
**กู้“ท่าเขียวไข่กา”ได้เแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภายในชุมชนเขียวไข่กา ซอยบางกระบือ แขวงและเขตดุสิต ภายหลังเกิดเหตุกระสอบทรายที่ทำเป็นแนวกั้นน้ำ บริเวณท่าเขียวไข่กา สี่แยกบางกระบือถนนสามเสนแตก ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วม บริเวณสี่แยกบางกระบือเมื่อวานที่ผ่านมา โดยภายในซอยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่เขตดุสิต รวมทั้งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงสี่แยกบางกระบือ ได้ช่วยกันผลักดันน้ำจนน้ำเริ่มแห้งขอด
**ผักสดราคาพุ่ง โอเว่อร์
มีรายงานว่าผักสดหลายชนิดในตลาดยิ่งเจริญ ราคาขยับสูงขึ้นเท่าตัว ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากภาวะน้ำท่วมเช่น กะเพรา โหระพา ราคาที่กิโลกรัมละ 120 บาท จากเดิมอยู่ที่ 20 - 30 บาท ตั้งโอ๋ กิโลกรัมละ 140 บาท จากเดิมอยู่ที่ 40 - 50 บาท ถั่วฝักยาวกิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิมอยู่ที่ 20 - 30 บาท และหัวไชเท้า กิโลกรัมละ 35 บาท จากเดิมอยู่ที่ 10 บาท
ทั้งนี้ แม่ค้ากังวลว่าอาจจะไม่มีผักมาวางขายให้กับประชาชน เนื่องจากน้ำท่วมฝั่งรังสิต ไหลทะลักมายังบริเวณตลาดสี่มุมเมือง มีระดับน้ำสูง รถไม่สามารถเข้าไปรับ - ส่งผักได้
**กทม.ห่วงหลักหก-คลองประปาล้น
ช่วงเช้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงว่า บริเวณคลองเปรมประชากร หน้าสน.ดอนเมือง ขณะนี้ระดับน้ำสูงใกล้ขอบตลิ่ง ส่วนระดับน้ำในคลองสามวาช่วงเชื่อมต่อคลองประปา ระดับน้ำต่ำกว่าสันเขื่อน 1.84 เมตร น้ำให้คลองประปาไหลสู่คลองสามเสนในอัตราต่ำกว่าที่คาด ส่วนระดับน้ำในคลองประปาขณะนี้ ได้ท่วมถึงถนนพหลโยธิน บริเวณอนุสรณ์สถาน รถเล็กผ่านไม่ได้ ซึ่งสำนักการระบายน้ำจะเข้าเรียงกระสอบทรายบริเวณอนุสรณ์สถานด้านถนนวิภาวดี และถนนพหลโยธินในวันที่ 23 ต.ค. นี้
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมขังถนนแจ้งวัฒนะ จากคลองประปาถึงศูนย์ราชการฯ ขณะนี้ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทั้งสองฝั่ง ส่วนถนนเลียบคลองประปาจากแยกพงษ์เพชรถึงถนนแจ้งวัฒนะ มีน้ำรั่วซึมออกมาเล็กน้อยไม่ส่งผลต่อปัญหาจราจร ด้านถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนศรีสมาน มีน้ำท่วมเป็นช่วง ๆ ประมาณ 20 ซม. โดยเฉพาะหมู่บ้านบูรพา วัดเวฬุ วัดไผ่เขียว ระดับน้ำ 50 ซม. ถนนแจ้งวัฒนะหน้ากรมทหารระดับน้ำ 40 - 50 ซม. และซอยแจ้งวัฒนะ 14 ระดับน้ำ 40 - 50 ซม.
ส่วนสถานการณ์น้ำทุ่ง ที่จะเข้ามารังสิต ถึงคลองหกวาระดับล่าง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 ซม. ต้องเฝ้าระวังและติดตามเป็นระยะ โยเฉพาะพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม ลาดกระบัง คันนายาว มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ถนนพหลโยธินตั้งแต่ปากซอย แอนเน็กซ์ ถึงซอย 58 น้ำท่วมสูงเสมอขอบเท้าสองเลน ส่วนคลองอื่น ๆ ระดับน้ำยังปกติ โดย กทม. ได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำจากเหนือไปใต้ลงอ่าวไทยทุกสาย
ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ล่าสุดปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดได้ 3,448 ลบ.ม.ต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน 169 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าในเวลา 16.19 น. น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดที่ระดับ 0.98 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดอยู่ที่ระดับ 2.18 เมตร
ส่วนปริมาณน้ำฝนได้รับรายงานว่าในสัปดาห์นี้จะมีปริมาณฝนตกมาก ซึ่งกทม. จะเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อระบายปริมาณน้ำฝนออก แต่ต้องยอมรับว่าระยะเวลาในการระบายน้ำออกนั้น ต้องใช้เวลามากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและน้ำอื่นๆ มาหนุนกันอยู่
อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ระดมเจ้าหน้าที่ไปสร้างแนวคันกั้นน้ำชั่วคราว บริเวณชุมชนนอกแนวกั้นน้ำ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังปกติ แต่ยังมีข้อกังวล เมื่อคันกั้นน้ำที่หลักหกมีปัญหายังไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่จ.ปทุมธานี อีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดออกอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ตัดคอลงรังสิต และเป็นพื้นที่จ.ปทุมธานี เช่นกัน กทม. ได้สร้างคันกั้นน้ำชั่วคราว แต่ก็ยังไม่พอ จึงได้มีการพยายามเสริมคันกั้นน้ำอีก เนื่องจากมีปัญหาน้ำเอ่อท่วมเข้าเซียร์รังสิต อนุสรณ์สถาน กทม.
**คนกทม.ถูกคุกคามสั่งเลิก
“เมื่อคืนประมาณ 01.00 น. มีประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้านการทำงานของกทม. ถึงขั้นอาจใช้ความรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่ กทม. มีความเสี่ยงถึงชีวิตได้ เพราะเจ้าหน้าที่เราไม่ถูกฝึกมาให้มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธ และไม่ได้ฝึกให้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ฉะนั้นในการทำงานที่มีความเสี่ยงเป็นอันตรายควรได้รับความคุ้มครองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะการป้องกันแนวคันกั้นน้ำตรงจุดนี้ต้องทำเนื่องจากมีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้ากทม.ชั้นในได้” ผู้ว่า กทม. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสังเกตคลองต่างๆ ในกทม.พบว่าระดับน้ำในคลองน้อยโดยเฉพาะคลองแสนแสบเหตุใดไม่ผันนำลงคลอง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า คลองในกทม.ไม่ใช่ว่าทุกคลองจะใช้เป็นเส้นทางผันน้ำ ทางกทม.ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำลงคลองที่เป็นคลองระบายน้ำอยู่แล้ว
**ศปภ.แถลงแก้น้ำคลองประปาได้
พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศปภ. แถลงว่า ขณะนี้ 1. น้ำมาอยู่บริเวณด้านเหนือกทม.ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. การเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลเป็นไปได้ด้วยดี ใน 3 ทิศทาง คือ ทางด้านทิศตะวันออก แม่น้ำเจ้าพระยา และ แม่น้ำท่าจีน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ของกทม.ได้รับการแก้ไขในทุกจุดเรียบร้อยแล้ว 2. ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นจากคลองประปาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ขณะนี้สามารถหยุดน้ำที่ไหลเข้าคลองประปาได้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (22 ต.ค.) และจากนี้ปริมาณนี้น้ำในคลองประปาจะค่อยๆ ลดระดับลงสู่ปกติ ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่บางกระบือ บริเวณแยกเขียวไข่กานั้น ซึ่งเกิดจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลุคันกั้นน้ำบางส่วน ซึ่งขณะนี้คันกั้นน้ำดังกล่าวได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว โดยทางศปภ. ได้ประสานทางกทม.ช่วยเร่งระบายน้ำในส่วนที่เอ่อล้นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนน้ำที่เอ่อล้นในพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิตนั้น เกิดจากปริมาณน้ำบางส่วนที่ไหลผ่านมาทางท่อระบายน้ำและเอ่อล้นขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ทางศปภ.ได้กำหนดแผนการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำบนถนนสายหลัก และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยด่วน
นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า มาช่วยแนะนำแนวทางการระบายน้ำว่า ต้องเน้นลดระดับน้ำจากคลองหกวา ไม่ให้ปะทะแนวคันกั้นน้ำถนนสายไหม ซึ่งเป็นแนวทางสุดท้ายทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ โดยระบายไปด้านทิศตะวันออก ซึ่งมีคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ อีกด้านหนึ่ง และมีคลองแยกหลายสาย สามารถระบายน้ำผ่านไปยังทิศตะวันออก และทิศใต้ ได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้แนวคันกั้นน้ำ ทั้งทิศเหนือ และทิศตะวันออก ยังทำหน้าที่ได้ดี จุดสำคัญสังเกตได้ว่า การระบายน้ำทำได้ดีพอหรือไม่ คือ ต้องระวังไม่ให้น้ำล้นไปยังถนนพหลโยธิน
**นายกฯห่วงดอนเมือง-หลักสี่ น้ำทะลัก
ช่วงเช้า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีว่าหากเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯจะมีการย้ายศูนย์ศปภ.ไปยังจ. ชลบุรี ว่า ยังไม่ทราบข่าวตรงนั้นแต่ยอมรับวันนี้น้ำอาจมีผลเข้ามาในกทม.บ้าง อย่างที่ประชาชนได้ติดตามข่าวซึ่งมีหลายจุดที่มีกระแสลมพัดสูงและทำให้น้ำเอ่อล้นแนวพนังกั้นน้ำ ขณะน้ำกำลังประสานงานกับกทม.ในการเร่งสูบและแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่เซียร์ รังสิต และอาจจะมีปัญหาพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ ที่อาจมีปัญหาน้ำท่วมขังซึ่งเราจะเร่งสูบระบายแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดของกทม. ขอเรียนว่าจะพยายามเฝ้าระวังทุกจุดซึ่งวันนี้หลายจุดอาจจะมีน้ำเอ่อล้น และตอนนี้ยังมีปัญหาจุดประตูน้ำพระอินทร์ที่ยังปิดไม่ได้ โดยตนจะไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะหามาตรการอย่างไรที่จะปิดประตูน้ำ ซึ่งในเชิงเทคนิคเราได้พยายามใช้อุปกรณ์ต่างๆ แต่น้ำเชี่ยวแรงมาก ทำให้การปิดประตูทำด้วยความยากลำบาก
ส่วนน้ำที่ไหลเข้าบริเวณกทม.จะทะลักเข้าพื้นที่กทม.ชั้นในหรือไม่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในแนวที่กั้นอยู่คือ แนวประตูน้ำพระอินทร์ และคลองเปรมประชากร ซึ่งตามแผนระบายน้ำ เราอยากให้น้ำเหวี่ยงออกทางตะวันออก คือคลองระพีพัฒน์ และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แต่เนื่องจากสภาพเป็นแอ่งที่ช้อนขึ้น ทำให้น้ำเข้าไปแต่ไม่มากเท่าที่เราคาดหวัง ประกอบกับ น้ำที่ไหลมาจากอยุธยา ที่ไหลมาค่อนข้างแรงมารวมที่คลองเปรมประชากร และเป็นภาระหนักของประตูน้ำพระอินทร์และประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก็เลยเป็นส่วนที่ทำให้เป็นห่วง อย่างไรก็ตาม เราก็พายามกั้นเพื่อชะลอน้ำไม่เข้ากทม. ชั้นใน
“ระดับน้ำในบางพื้นที่อยู่ที่ 50 เซนติเมตร ถึงเมตรกว่า แต่พื้นที่ที่เราเป็นห่วงคือ พื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ แต่ในส่วนกทม. ชั้นใน เรายังพยายามดูแลควบคุมสถานการณ์”
ทั้งนี้ โดยสรุปแล้วยังบอกไม่ได้หรือไม่ว่าคนกทม. จะได้รับผลกระทบกับสถานการณ์น้ำนานแค่ไหน น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวยอมรับว่า ขอเรียนตรงๆ ว่ายังบอกไม่ได้ชัดเจนเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เราคุมไม่ได้ เพราะน้ำมาจาก 2 ทิศทางรวมกัน ขณะเดียวกัน เราพยายามทำในส่วนของพนังกั้นน้ำต่างๆ ไว้ ขอเรียนว่าพี่น้องกทม.จะมีผลกระทบบ้าง เนื่องจากน้ำจะต้องไหลผ่านลงมาตามคลองต่างๆ โดยเฉพาะคลองแสนแสบที่จะเป็นคลองเร่งระบายน้ำ ที่ถูกทางที่สุด และต้องอาศัยท่อระบายน้ำในกทม.ปล่อยลงไปให้เร็วที่สุดด้วยก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนสูงในช่วงสิ้นเดือนนี้
**ข้องใจระบายน้ำกทม.ไม่ถึงแสนแสบ
เมื่อถามว่าการระบายน้ำผ่านกทม. ยังมีปัญหาหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่ายังไปไม่ถึงคลองแสนแสบ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ วันนี้ยอมรับว่าการระบายน้ำยังไม่เต็มที่ แต่เราได้ตั้งคณะทำงานเข้าไปทำงานร่วมกับกทม.โดยดูเฉพาะจุดเลยว่า ทำไมไม่สามารถเร่งระบายน้ำได้อย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าการระบายน้ำผ่านกทม.ที่ยังทำได้ช้าอาจทำให้คันกั้นน้ำชำรุดและทะลักเข้าท่วมบ้านประชาชน น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราได้ใช้กำลังจากหน่วยทหารและตำรวจจราจรเข้าไปตรวจสอบทุกจุด เพื่อเป้ฯการเฝ้าระวังตลอดเวลา โดยให้ตรวจทุก 1 ชั่วโมงและรายงานผลกลับมา
เมื่อถามว่าการระบายน้ำของกทม. ยังเป็นไปอย่างเต็มที่ตามคำสั่งหรือไม่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โดยภาพรวมของการทำงานทางเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือและเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ยังมีประตูระบายน้ำบางจุดเปิดไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนเองได้ให้คณะกรรมการเข้าไปศึกษาร่วมกับกทม. ว่าทำไมถึงเปิดไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบางจุดเปิดได้เพียงครึ่งเดียว
**นายกฯดึงปราโมทย์แก้น้ำท่วม
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล่าสุดดึง นายปราโมทย์ ไม้กลัด เข้าร่วมแก้ปัญหาวิกฤติน้ำท่วม เพื่อร่วมประชุมกับคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง
**สั่งกรมชลคุมปิดเปิดประตูน้ำพระอินทร์
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาศัยอำนาจตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยมีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมชลประทาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับทราบ ซึ่งในหนังสือมีคำสั่งให้ นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้ถือกุญแจควบคุมประตูระบายน้ำ และกำกับการเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา บริเวณคลอง 1 จังหวัดปทุมธานี ซึ่งทุกหน่วยจะต้องรับฟังคำสั่งจากรองอธิบดีกรมชลประทาน แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
สั่งให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของรองอธิบดีกรมชลประธาน พร้อมป้องกันไม่ให้ประชาชนขวางการเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา
สั่งให้ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควบคุมการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
**ล่าสุดไม่ปิดประตูน้ำพระอินทร์
นายชลิต เปิดเผยว่า ได้ประสานในการปิดประตูระบายน้ำพระอินทร์ราชา หลังศปภ. สั่งการให้พยามยามลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าคลองรังสิตด้านหนือ ซึ่งแนวทางนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทาง เพื่อควบคุมระดับน้ำในคลองรังสิต ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติอยู่ขณะนี้ ซึ่งหากปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวได้แล้ว ปริมาณน้ำจะไหลไปทางด้านข้างของประตูน้ำทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก จำนวนมาก เพื่อระบายลงสูทะลต่อไป แต่อาจส่งผลให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นในชุมชนที่อยู่ทางด้านข้างทั้งสองแนว
ล่าสุด ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และชลประทาน ได้ตรวจประตูน้ำพระอินทร์ฯ โดยมีมติไม่ปิดประตูแล้ว หลังจากพบว่าอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก
**ปลอดฯแนะรัฐบอกความจริง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำในวันนี้และตนคิดว่ายังไม่สายเกินไปคือ 1.ให้ความจริงกับประชาชน 100 % ไม่ต้องกลัวว่า เขาจะหวาดกลัว 2. เตือนก่อนล่วงหน้าให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. มีจุดยืนและให้หาที่ปลอดภัยให้กับประชาชน 4.สถานที่ปลอดภัยดังกล่าวที่ให้ประชาชนอยู่ต้องให้ใกล้เคียงกับชีวิตปกติของเขาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ซึ่งคำว่าใกล้เคียง ณ วันนี้ยกตัวอย่างเช่น ถนนหนทางที่ไหนน้ำท่วม น้ำไม่ท่วมก็ต้องบอกกับประชาชน ตรงไหนไปได้ ไปไม่ได้ก็ต้องบอกกับประชาชน ทุก 15 นาที
ส่วนให้ทำอย่างไรนั้น 1.หันกล้องของการจรจรทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งจากเดิมมีไว้สำหรับการจราจรก็เปลี่ยนมุมกล้องไปสู่มุมน้ำท่วม 2.วิทยุสื่อสารที่ใช้ในการจราจรก็ควรสื่อสารมาบอกว่าตรงไหนท่วมไม่ท่วม นำสองอย่างนี้มาผนวกกันซึ่งจะทำให้ประชาชนรับรู้ว่าที่ใดควรไปไม่ควรไป 3.ต้องบอกประชาชนว่าน้ำจะท่วมไปทิศทางใด อย่างเช่นทิศตะวันตก ต้องบอกไปเลยว่าน้ำมาจากบางบัวทอง ต่อไปก็บางใหญ่ และก็บางกรวย ในเวลาประมาณเท่าไหร่ นั่นคือสิ่งที่คนเขาอยากรู้
“กทม. คงท่วมทั้งหมดและน้ำจะขังอีกพอสมควร ซึ่งตนได้ประเมินไว้ประมาณ 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง เพราะน้ำมีจำนวนมาก ลองดูที่ จ.อยุธยา ต้องถามว่าน้ำท่วมตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ และวันนี้น้ำหมดหรือยังและอย่าลืมว่ากรุงเทพฯต่ำกว่าอยุธยา ซึ่งกรุงเทพฯยังจะโดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุนอีก แต่อยุธยาไม่โดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุน “นายปลอดประสพกล่าวคิดว่าภายในช่วงอาทิตย์นี้ และถ้าผ่านช่วงเดือนนี้ไปได้ความอันตรายก็จะลดลง อันตรายก็คือ น้ำจะท่วมสูงมาก และก็จะพบกับความลำบากต่อไป เพราะน้ำจะท่วมขังนานพอสมควร
นายปลอดประสพ พร้อมด้วย นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ) ยังได้ชี้แจงกรณีถึงที่มีข่าวลือว่าบริษัทแอนเซลล์ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยาง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีสารพิษรั่ว ว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีสารซัลฟิวริกเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่มีผลกระทบ อีกทั้งสารเคมีดังกล่าวเก็บรักษาไว้ในห้องแล็ปอย่างดี ไม่มีรั่วไหลข่าวที่ออกมาถือว่าเป็นการปล่อยข่าวไม่ได้หวังดีกับประเทศไทย ตอแช่งผู้ที่ปล่อยข่าวว่า ขอให้บ้านตัวเองถูกน้ำท่วมบ้างและท่วมนานๆ จะได้เกิดความรู้สึก
**ผ่อนผันค่าไฟให้ 3 เดือน ไม่คิดดอก
นางอรุณศรี จงเจียมจิตต์ ผู้อํานวยการกองสื่อสารองค์กร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผยว่า ได้เปิดผ่อนผันการชําระเงินค่าไฟฟ้าสําหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัย โดยผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัย กิจการขนาดเล็ก กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ และกิจการเฉพาะอย่าง สามารถขอผ่อนผันชําระเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนที่ประสบภัยจากน้ำท่วมแต่ละเดือนออกไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่เรียกเก็บเงินค่าดอกเบี้ย ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่หรือโทร. 1129.
