ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -นาทีนี้ เชื่อแน่ว่าในสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังรุมเร้าในหลายจังหวัดของประเทศไทยอยู่นั้น หลายพื้นที่คงจะเห็นภาพภาพร่วมแรง ร่วมใจ ของประชาชน ในการช่วยกันคนละไม้คนละมือ ระดมความสามัคคีช่วยกันป้องกันน้ำกันอย่างแข็งขัน เป็นภาพที่น่าชื่นใจในหลายพื้นที่ประสบอุทกภัย แต่ไม่เชื่อก็เชื่อว่าในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมยังคงรุมเร้าสร้างความเดือดร้อนไปทุกย่อมหญ้า กลับเกิดอาการ “แทงกั๊ก ขัดขา” ของฝ่ายปฏิบัติการ อย่างศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ กรุงเทพมหานคร นำโดยผู้ว่าฯ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ไปเสียอย่างนั้น
เหตุผลของการแทงกั๊กและขัดขาที่เกิดขึ้นก็มิได้มีอะไรมากไปกว่า การพยายามช่วงชิงความโดดเด่นสร้างผลงาน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วส่งผลให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติงานไปจนถึงความสับสนของชาวกรุงที่กำลังลุ้นระทึกกับมวลน้ำที่จ่อล้นในหลายพื้นที่
เริ่มจากกรณีความผิดพลาดครั้งสำคัญจนทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างหนัก กรณีที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาสั่งอพยพคนในพื้นที่ "คลองหลวง-ลำลูกการังสิต-สายไหม" จนเกิดความปั่นป่วนต้องมาตามแถลงชี้แจงแก้ไขความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นไปแล้ว
ในขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ได้เล่นบทชิงนำต่อมาด้วยการออกมาประกาศกร้าวว่า "ขอย้ำว่าการรับฟังข่าวสาร ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนภัย หรือผลประทบในพื้นที่ขอให้ฟังผมคนเดียว แม้จะมีหลายฝ่ายพูดเรื่องความปลอดภัยใน กทม .แต่ขอให้เชื่อผมคนเดียว โดยยังมั่นใจว่าจะสามารถแจ้งประชาชนได้ล่วงหน้า หากน้ำไหลเข้าพื้นที่และถึงวันนี้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะสถานการณ์ดีขึ้น จากเมื่อวานที่แจ้งว่ารัฐบาลควบคุมน้ำได้ ทำให้เรามีเวลา 48 ชม .ในการสร้างคันกั้นน้ำ แต่ขณะนี้คันกั้นน้ำหลายจุดก็ใกล้เสร็จแล้ว ไม่อยากให้รัฐบาลเซอร์ไพรซ์แบบนี้บ่อยนัก ผมไม่อยากตื่นเต้นมากเกินไป"
หรือจะเป็น ภาพที่เห็นจนคุ้นตาในช่วงเวลานี้ คือ การแย่งกันแถลงข่าว เป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่า ไปคนละทาง ชนิดตัวใครตัวมันแบบสิ้นเชิง เพราะวันดีคืนดี ศปภ.ก็มาแถลงว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลผ่านกรุงเทพฯไปแล้ว ขณะเดียวกัน กทม.ก็มาแถลงข่าวว่า ขอให้เตรียมรับมือกับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่กำลังจะเข้ากรุงงานนี้เป็นงงกันไปทั้งประเทศ
ถามว่าการแถลงแบบลักษณะทำให้สับสน แบบไม่มีข้อมูล ไม่รับผิดชอบคำพูดของตัวเองอย่างกรณีที่เกิดความเสียหายกับนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่งไปแล้ว
อย่างไรก็ดี กล่าวถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง กทม. ในการกำกับดูแลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. จากฝั่งประชาธิปัตย์ที่ต้องทำงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ศูนย์ ศปภ. ก็ดูออกอาการไม่กินเส้นกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ซึ่งในการประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมของ ศปภ. ในแต่ละครั้งก็กลับไม่ปรากฏเงาร่างของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไปร่วมรับฟัง แก้ปัญหาให้ไปในทิศทางเดียวกันอีกต่างหาก
จนหลายฝ่ายมองว่า เป็นความพยายามแย่งซีนกันทางการเมืองของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และรัฐบาล ในการสร้างคะแนนนิยมที่จะมีศึกชิงผู้ว่าฯกทม. ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งทางประชาธิปัตย์ ดูแล้วก็ยังมีเป้าหมายในการรักษาฐานคะแนนเสียงโดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ไว้ให้ได้
เรียกว่าวิกฤตน้ำครั้งนี้ที่เกิดภาพของอาการขัดแข้งขัดขาจึงมีมาอยู่ให้เป็นตลอด ไม่ต้องอื่นไกลกรณีล่าสุดที่ทาง ศปภ.ได้จัดถุงใส่ทรายมาให้ 8 แสนใบมาให้ทาง กทม. โดยคุณชายสุขุมพันธุ์เปิดเกมเข้าใส่ด้วยการให้ข่าวว่า เป็นถุงกระดาษไม่สามารถบรรจุทรายกั้นน้ำได้
"รัฐบาลได้จัดถุงใส่ทรายมาให้ 8 แสนใบมาให้ แต่อาจเกิดความเข้าใจผิดเพราะที่มอบให้เป็นถุงกระดาษไม่สามารถบรรจุทรายกั้นน้ำได้ แต่ก็ไม่อยากคิดว่ารัฐบาลตั้งใจวางยา ขณะนี้การบรรจุทรายได้รับความร่วมมือจากประชาชนและใช้ถุงของกทม. ซึ่งผมยืนยันมาตลอดว่าพร้อมที่จะช่วยตัวเองหากไม่มีใครช่วย" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุ
เล่นเอา ศปภ.ต้องรีบแก้ข่าวว่า วัสดุที่ใช้ทำกระสอบทรายนั้นไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นโพลิเอสเตอร์ซึ่งสามารถกันน้ำได้ และได้นำไปใช้ในหลากหลายพื้นที่
เรียกว่ากลายเป็นสนามประลองกำลังระหว่างพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะว่าเสียเปรียบจากการทำสงครามน้ำครั้งนี้ เนื่องเพราะถ้าหากปล่อยน้ำให้ท่วมพื้นที่กทม.คะแนนเสียงก็จะหายวับไปกับตา เพราะถือเป็นด่านสุดท้ายที่จะวัดฝีมือในการบริหารจัดการน้ำหลังจากให้ทุกปราการก่อนหน้านี้พังพินาศไปกับมือ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความได้เปรียบเป็นอย่างดี
แต่การเล่นกับสงครามน้ำครั้งนี้ก็อาจกลายเป็นบูมเมอแรงที่ย้อนกลับเข้าใส่พรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะฟากเพื่อไทยก็เล่นเกมกลับมาด้วยการให้ข่าวว่า ต้นสายปลายเหตุทำให้น้ำท่วมหนักเนื่องจาก กทม.ของคุณชายสุขุมพันธุ์ปิดประตูกั้น ไม่ย่อมให้ปล่อยระบายน้ำลงสู่ทะเล
และนั่นน่าจะเป็นที่มาของคำสั่งจากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำทุกประตูเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
