สตูล - ยึดเรือประมงสองสัญชาติไทย-มาเลย์ ดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนระหว่างประเทศขนาด10,000 ลิตร มูลค่ากว่าล้านบาท พร้อมคุมตัวคนควบคุมเรือดำเนินคดี
วานนี้(20 ต.ค.)นายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยการ สำนักงานศุลกากรภาค 4 พร้อมนายวสันต์ เวทยะวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร และนางสาวสุภาภรณ์ ด่านชัยวิจิตร รักษาการแทนนายด่านศุลกากรสตูล ลงตรวจเรือประมงสองสัญชาติที่ผ่านการดัดแปลงให้เป็นเรือบรรทุกน้ำมันหลบหนีภาษี สัญชาติไทย-มาเลเซีย ชื่อ SLFA 1475
หลังการข่าวพบว่าเรือลำดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จึงวางแผนเข้าสกัดจับได้กลางเกาะยาว ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล พร้อมน้ำมันดีเซลที่บรรจุในถังเหล็กดัดแปลง จำนวน 10,000 ลิตร พร้อมหัวจ่ายน้ำมัน มิเตอร์วัดน้ำมัน และอุปกรณ์ในการถ่ายน้ำมัน พร้อมควบคุมคนเดินเรือได้คือ นายรอหีม หีมเจริญ อายุ 54 ปี ชาวตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ก่อนที่จะรับสารภาพว่าเป็นคนงานรับจ้างในการขนถ่าย จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามความผิด มาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรฉบับที่ 9 พ.ศ.2428 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยตีเป็นมูลค่า 1,500,000 บาท
นายวสันต์ เวทยะวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลกากรได้มอบนโยบายให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบหนีศุลกากร เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากร ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศมีราคาสูงกว่าราคาเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีการลักลอบนำน้ำมันเข้าจากหลบหนีศุลกากร
การจับกุมในครั้งนี้ยังพบว่าเรือลำดังกล่าว เป็นเรือประมงที่นอกจากจะผ่านการดัดแปลงเพื่อลักลอบขนน้ำมันหลบหนีภาษีแล้ว ยังเป็นเรือที่ได้โควตาในการเติมน้ำมันในราคาถูกจากฝั่งมาเลเซียเดือนละ 20,000 ลิตรต่อลำ ในราคาลิตรละ 12 บาท ก่อนจะลักลอบเอามาจำหน่ายในพื้นที่ให้แก่เรือประมงขนาดเล็กในราคาลิตรละ 18 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันในพื้นที่สตูลมีราคาลิตรละ 29 บาท ซึ่งแตกต่างกันมากจนเป็นที่มาของการกระทำผิด
วานนี้(20 ต.ค.)นายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยการ สำนักงานศุลกากรภาค 4 พร้อมนายวสันต์ เวทยะวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร และนางสาวสุภาภรณ์ ด่านชัยวิจิตร รักษาการแทนนายด่านศุลกากรสตูล ลงตรวจเรือประมงสองสัญชาติที่ผ่านการดัดแปลงให้เป็นเรือบรรทุกน้ำมันหลบหนีภาษี สัญชาติไทย-มาเลเซีย ชื่อ SLFA 1475
หลังการข่าวพบว่าเรือลำดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จึงวางแผนเข้าสกัดจับได้กลางเกาะยาว ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล พร้อมน้ำมันดีเซลที่บรรจุในถังเหล็กดัดแปลง จำนวน 10,000 ลิตร พร้อมหัวจ่ายน้ำมัน มิเตอร์วัดน้ำมัน และอุปกรณ์ในการถ่ายน้ำมัน พร้อมควบคุมคนเดินเรือได้คือ นายรอหีม หีมเจริญ อายุ 54 ปี ชาวตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ก่อนที่จะรับสารภาพว่าเป็นคนงานรับจ้างในการขนถ่าย จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามความผิด มาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรฉบับที่ 9 พ.ศ.2428 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยตีเป็นมูลค่า 1,500,000 บาท
นายวสันต์ เวทยะวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ควบคุมทางศุลกากร กล่าวว่า อธิบดีกรมศุลกากรได้มอบนโยบายให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบหนีศุลกากร เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากร ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศมีราคาสูงกว่าราคาเพื่อนบ้าน ส่งผลให้มีการลักลอบนำน้ำมันเข้าจากหลบหนีศุลกากร
การจับกุมในครั้งนี้ยังพบว่าเรือลำดังกล่าว เป็นเรือประมงที่นอกจากจะผ่านการดัดแปลงเพื่อลักลอบขนน้ำมันหลบหนีภาษีแล้ว ยังเป็นเรือที่ได้โควตาในการเติมน้ำมันในราคาถูกจากฝั่งมาเลเซียเดือนละ 20,000 ลิตรต่อลำ ในราคาลิตรละ 12 บาท ก่อนจะลักลอบเอามาจำหน่ายในพื้นที่ให้แก่เรือประมงขนาดเล็กในราคาลิตรละ 18 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันในพื้นที่สตูลมีราคาลิตรละ 29 บาท ซึ่งแตกต่างกันมากจนเป็นที่มาของการกระทำผิด