xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.สภาไม่สน"มาร์ค"ขัดคอ เดินหน้ารองเพลงรับบริจาค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 20 ต.ค.) ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้เสนอแนวทางระดมทุนโดยใช้เวลาช่อง 11 สองชั่วโมง เพื่อให้สมาชิกรัฐสภา ร้องเพลงออกทีวี รับบริจาค โดยนายสมศักดิ์ กล่าวติดตลกว่า ใครที่คิดจะร้องเพลง ต้องเตรียมสปอนเซอร์ให้ได้ 5 แสนบาท เอาไว้ด้วย
ขณะที่นายนิคมไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ได้เตรียมเงินไว้เพื่อสนับสนุนให้นายสมศักดิ์ร้องเพลงแล้ว และเตือนว่าจากประสบการณ์ของวุฒิสภา ที่เคยมีการจัดงานร้องเพลงออกทีวี และมีผู้บริจาครวมทั้งหมด 36 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเก็บเงินได้จริงเพียงแค่ 24 ล้านเท่านั้น
นายไพจิตร ศรีวรขาน รองประธานวิปรัฐบาล ขอให้ประธานกรรมาธิการทุกชุด ระดมเงินชุดละ 1 แสนบาท ส.ส. และ ส.ว. รายละ 5 หมื่นบาท แต่นายนิคมได้แย้งว่า จะมากำหนดวงเงินบริจาคในส่วนของส.ว.ไม่ได้ เพราะไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง และทุกคนก็คงจะบริจาคตามกำลังของตนเอง
ด้านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคสิ่งของในส่วนของ ศปภ.โดยพร้อมที่จะกระจายสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ พร้อมแจ้งเบอร์โทรศัพท์กลางที่ประชุม ให้ส.ส.ทุกพรรคแจ้งความจำนงในการขอสิ่งของจากการบริจาค ที่ศูนย์ดอนเมืองมาที่ตน โดยพร้อมจะจัดการแจกแจกจ่ายให้

** "มาร์ค"ค้านร้องเพลงรับบริจาค

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ขอความเห็นจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้ท้วงติงรูปแบบการระดมทุนว่า ควรทบทวน เพราะการใช้ทีวีช่อง 11 ร้องเพลงออกอากาศ ไม่น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ เนื่องจากช่อง 11 ควรใช้เพื่อรายงานเหตุการณ์ให้กับพี่น้องประชาชนรับทราบจะเหมาะสมกว่า
นายอภิสิทธิ์ ยังเตือนนายสุนัย จุลพงศธร ว่าจะนิ่งนอนใจไม่ได้ว่าระดับน้ำใน จ.นครสวรรค์ ลดลงแล้ว เนื่องจากกรมชลประทานมีนโยบายว่าจะระบายน้ำจากเขื่อน ซึ่งอาจมีผลกระทบตามมาอีก ขณะที่สถานการณ์กรุงเทพฯ ก็ยังน่าเป็นห่วง โดยเชื่อว่าในสัปดาห์หน้าสถานการณ์ก็คงไม่ดีไปกว่านี้ จึงเห็นด้วยกับประธานสภาว่า ยังไม่ควรเปิดประชุมสภาในสัปดาห์หน้า เพราะหากมีการโต้เถียงในสภา ก็จะกลายเป็นภาพที่ประชาชนคิดว่า ส.ส.มีแต่ทะเลาะกัน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เสนอว่า ควรมีรูปธรรมการทำงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากฝ่ายนิติบัญญัติ จากสถานการณ์ที่เหมาะสมในช่วงการฟื้นฟู โดยเรียก ส.ส.ทุกพรรคผนึกกำลัง ลงพื้นที่ ก็จะทำให้เห็น ภาพที่ชัดเจนว่า ฝ่ายนิติบัญญัติได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างไร และขอให้มีการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนในการกระจายสิ่งของที่ได้รับการบริจาคผ่านทางรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงมากที่สุด
นอกจากนี้ยังเตือนในเรื่องกรอบเวลาที่ประธานรัฐสภาเตรียมจัดกิจกรรมที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 พ.ย. ว่า จะตรงกับช่วงเวลาที่รัฐบาลเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2555 เข้าสภา ขณะที่นายสมศักดิ์ รับที่จะไปปรับในเรื่องของเวลา เพื่อไม่ให้ชนกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ส่วนข้อเสนอไม่ให้ใช้ช่อง 11 ร้องเพลงรับบริจาคนั้น เห็นว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิก เพราะกำหนดร้องเพลงเพียง 10-12 เพลงเท่านั้น เวลาที่เหลือในส่วนอื่นจาก 2 ชั่วโมง สามารถทำในรูปแบบอื่นเพิ่มเติมได้ อีกทั้งหากมีข่าวด่วนที่ต้องแจ้งเตือนประชาชน ก็สามารถตัดเข้าได้ทันทีอยู่แล้ว

**ห่วงน้ำทะลักเข้าคลองประปา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สถานการณ์ในคลองประปา ยังต้องเฝ้าระวัง ทั้งเรื่องคุณภาพน้ำ และระดับน้ำ ซึ่งได้คุยกับผู้ว่าการประปา ก็ยังยืนยันว่ามีการตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอด ยังไม่พบปัญหา
อย่างไรก็ตาม ควรจะเตรียมแผนรองรับ เพราะจะวางใจไม่ได้ เนื่องจากน้ำจากปทุมธานี กำลังจะเข้ามา ไม่ใช่เฉพาะผ่านทางคลองประปาเท่านั้น แต่ โลคอลโรด ก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่น้ำอาจไหลผ่าน จึงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา และเตรียมแผนรองรับล่วงหน้า
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความผิดหวังที่รัฐบาลละเลย ในการแก้ปัญหาน้ำทะลักเข้าคลองประปา ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งต่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รมว.มหาดไทยแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 19 ต.ค. แต่รัฐบาลกลับไม่เร่งดำเนินการปิดกั้น กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปกระทั่งน้ำไหลทะลักเข้าคลองประปาในจุดอื่นเพิ่มเติม
" ถ้าท่านห่วงใยประชาชนอยางจริงใจ ท่านต้องตระหนักว่า คลองประปาคือวัตถุดิบในการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงคนทั้งกรุงเทพ และต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เพียงแค่จัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อไปแก้ปัญหาในจุดดังกล่าวทันทีที่ได้รับทราบจากนายอภิสิทธิ์ ท่านก็คงไม่ต้องปลุกนายกฯ ให้ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาตอนตีสี่ เพราะปัญหาอาจจะจบได้ตั้งแต่ตอนนั้น ประชาชน ก็ไม่ต้องหวาดผวาเหมือนที่เป็นอยู่ นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งของความล้มเหลว ทั้งประเมินสถานการณ์พลาด และขาดความจริงใจในการดูแลประชาชน ผมขอให้เรื่องนี้เป็นกรณีสุดท้าย เพราะประเทศไทยคงไม่เหลือพื้นที่มากนักให้ท่านทำลายเล่นอีก" นายชวนนท์ กล่าว

** จี้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินรับมือ

นายชวนนท์ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที เพื่อให้การบริหารสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้เห็นใจประชาชนที่นอนจมน้ำมานานนับเดือน และภาคอุตสาหกรรม ที่ทางผู้บริหารสภาอุตสาหกรรม ถึงขนาดประกาศคุกเข่าอ้อนวอน ขอร้องให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ท่านก็ยังนิ่งเฉย ขนาดผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ เห็นพ้องว่าต้องใช้กฏหมายพิเศษ นายกฯ กลับปฏิเสธ โดยไม่มีเหตุผลรองรับ
"ท่านจะใจดำเกินไปหรือไม่ ที่เลือกไม่ใช้กฏหมายนี้ เพียงแค่ต้องการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ในทางการเมืองว่า ใช้กฏหมายพิเศษปราบปรามประชาชน จึงทำให้ท่านไม่นำกฏหมายนี้มาช่วยเหลือประชาชน ทั้งที่เจตนารมณ์ของกฏหมาย เพื่อดูแลความมั่นคงของประเทศ บริหารสถานการณ์เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤต แต่ท่านกลับเลือกที่จะมอบหน้าที่ให้กองทัพไทยดูแล 5 จังหวัดที่วิกฤต แต่ไม่ได้ให้อำนาจตามกฏหมายอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้กองทัพไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่ประกาศล่าสุดของศปภ. ที่สั่งห้ามเข้าบริเวณนวนคร แสดงให้เห็นว่า การขอความร่วมมือที่ท่านพยายามใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ผล จึงต้องออกประกาศมากำกับ แต่น่าเสียดายที่ประกาศฉบับนี้ มีค่าไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษเปื้อนหมึก เพราะไม่มีกฏหมายอะไรรองรับ ประกาศใช้ พ.ร.ก.เถอะครับ ถือว่าทำบุญให้กับประชาชน และประเทศชาติก่อนที่จะสายเกินไป อย่ากลัวว่าทหารจะเป็นพระเอก หรือใครจะยึดอำนาจ เพราะถ้าท่านแก้ปัญหาได้ ประชาชนก็จะสนับสนุนให้ท่านอยู่ในอำนาจต่อไป ไม่มีใครล้มได้" โฆษกปชป. กล่าว และว่า รัฐบาลควรหยุดความคิดที่จะกู้เงินไว้ก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่า ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงเป็นอย่างไร เสียหายเท่าไร อีกทั้งสถานการณ์ก็ยังวิกฤตต่อเนื่อง ประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ว่าจะกินครบสามมื้อหรือไม่ พักอาศัยที่ไหน หรือจะใช้ชีวิตอย่างไรในวันรุ่งขึ้น นายกฯต้องคิดเรื่องเหล่านี้ก่อน คิดที่จะกู้เงิน ทั้งที่ยังไม่มีแผนชัดเจนว่าจะนำเงินไปทำอะไร

**"เจ๊หน่อย"เดินเกมอัดผู้ว่าฯกทม.

เมื่อเวลา 14.00น. ที่ ศปภ.ดอนเมือง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เป็นประธานการประชุม ส.ส.กทม. และผู้สมัครส.ส.กทม. รวมทั้ง ส.ก.-สข. พรรคเพื่อไทย เพื่อรหารือถึงสถานการณ์น้ำท่วม ที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่กทม. โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ปรึกษาผอ.ศปภ. ร่วมประชุมด้วย
หลังการประชุม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมได้พูดถึงการทำงานของกทม.โดยเฉพาะเรื่องการเตือนภัย ที่ไม่มีความชัดเจน สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน 7 เขต ที่ทางกทม.ประกาศเตือนภัยว่าเป็นจุดเสี่ยง จึงอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.จัดระดับการเตือนภัยให้ชัดเจนว่าพื้นที่ใดรุนแรงแค่ไหน จะต้องอพยพ หรือต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงขนาดไหน ไม่ใช่พูดกว้างๆ ลอยๆ จนถูกประชาชนด่า
" คนที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนก น่าจะเป็นผู้ว่าฯ กทม. มากกว่า เพราะไม่มีความชัดเจน ถ้าผู้ว่าฯ กทม.อยากเป็นเอกเทศ แยกการทำงานออกจาก ศปภ. ก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องอธิบายให้คนกทม.เข้าใจชัดแจ้ง อย่าทำให้แตกตื่น ขอเรียกร้องให้ประกาศตือนภัยแบบสั้นๆกระชับ ฟังแล้วรู้เรื่องทันที ไม่ต้องแถลงข่าวแบบยาว ๆ" นายจิรายุ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น