กระแสมวลน้ำยังคงทะลัก ไหลเชี่ยวกรากกระหน่ำเข้าท่วมพื้นที่ภาคอุตสาหกรรม กลืนบ้านเรือนประชาชนตามหมู่บ้านแถบอยุธยา ปทุมธานี รังสิต จมบาดาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยเร็ว ขณะที่น้ำยังคงจ่อทะลักเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร แม้ว่าเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังคงเป็นที่ผวาของชาวกรุงลุ้นระทึกน้ำจะท่วมในวันใด
อย่างไรก็ตาม จากการที่ ASTVผู้จัดการ ฝ่ายข่าวอาชญากรรม ได้ส่งสายสืบเข้าไปสอดส่องตรวจแถว ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ตลอดการดำเนินงานของศูนย์ดังกล่าวที่ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังประสบชะตากรรมน้ำท่วมปริ่มหลังคาบ้าน ท่วมสูงจ่อคอหอย ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสอยู่นั้น
เมื่อโฟกัสไปที่การทำงานของ ศปภ. กลับต้องส่ายหน้ากับแนวทางแก้ปัญหาของศูนย์นี้ ยิ่งทำให้นึกเปรียบเทียบได้ถึงหนังอุกกาบาตจะชนโลก ถล่มโลก หรือมหาวิบัติอุกกาบาตล้างโลก โดยก่อนที่โลกจะถล่ม นาซาทำไรบ้าง โดยได้เชิญนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องและมีความชำนาญเข้ามาทำงานเตรียมความพร้อมบัญชาการให้หลุดพ้นจากวิกฤตโลก แต่ในทางกลับกัน ศปภ.ดันไปเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีภูมิความรู้ที่จะนำพาแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติได้ โดยปล่อยให้แผนกเผาบ้านเผาเมือง แดงดาษเดื่อนเกลื่อนธรณี เช่น “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แกนนำ นปช. ที่ขณะนี้สวมหัวโขนผู้ทรงเกียรติ มีดีกรีเป็นถึง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, “การุณ โหสกุล” ที่ชนะใจประชาชนพื้นที่ดอนเมืองส่งให้เป็นตัวแทนเข้ามาเป็น ส.ส.เขตดอนเมือง รวมไปถึงทั่น “เจ๋ง ดอกจิก” ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี (นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย) ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่แอบแฝงเข้ามายุ่งย่าม เสนอหน้าสลอน คอยสั่งการอย่างนู้นอย่างนี้ ชูคอเสนอแนวคิดที่ไม่เข้าท่า แสดงความโชว์เพาฯ แอ็กต์อาร์ตไปวันๆ และส่วนใหญ่จะเน้นให้นำสิ่งของใส่ถุงที่มีตราสัญลักษณ์ ชื่อของตนเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่คอยขนย้ายส่งของไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตที่ตนดูแล
ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีความชำนาญการที่จะช่วยแก้ปัญหาทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากจากน้ำท่วมได้ ก็เรียงหน้ากันทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะ พ.อ., พ.ท. ที่ส่งมารับโทรศัพท์ตอบข้อซักถามประชาชนที่กระหน่ำโทรเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งตรงนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้คนในตำแหน่งที่สูงใหญ่ขนาดนั้น ข้าราชการระดับ 7 ระดับ 8 ที่มานั่งสุมหัวเสมือน “ปาร์ตี้ข้าราชการ” นั่งคุยกันเฮฮาสนุกสนาน อาหารการกินพร้อมเสร็จสรรพ ยกเว้นไม่มีเบียร์ เหล้า ไวน์ ให้ดื่มเคล้าเสียงเพลงกันเท่านั้น อีกทั้งเมื่อกวาดสายตามองให้ทั่ว ศปภ.แล้วจะเห็นเจ้าหน้าที่นั่งเล่นเฟซบุ๊คกันเกลื่อน แต่กลุ่มคนเหล่านี้รอรับเบี้ยเลี้ยงต่อวันเป็นที่อิ่มหน่ำสำราญ รวมถึงระดับนายพลที่นั่งในห้องบัญชาการ หากถอดดาว ช่อชัยพฤกษ์ออกมากองรวมกันแล้วจะหนักเป็นกิโลทีเดียว โดยสิ่งที่จำเป็นในการแก้ปัญหาในขณะนี้จะต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างวิศวะกรเก่งด้านน้ำ เน้นใช้บุคลากรทุกฝ่ายที่ได้คุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิผล ควรระดมที่ว่ากันว่าเป็นหัวกะทิของรัฐบาล อย่างรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ระดับปลัดกระทรวง ส่งตรงมาสั่งงาน ศปภ. จะดีกว่าที่ปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงมารวมตัวสั่งการ กดดันข้าราชการ ล้วงลูกการทำงานของรัฐบาลไปวันๆ จนทำให้ไม่รู้จะรับฟังคำสั่งใครดี
เราไม่อยากเห็นภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจการทำงานของ ศปภ. ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ศปภ. มีนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา เป็นโฆษก ศปภ. ที่ไม่เข้าท่านั่งแถลงสร้างภาพให้รัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. มานั่งแซมเป็นดอกไม้ประดับคอยประดิษฐ์ประดอยคำพูดให้ภาพลักษณ์รัฐบาลดูสวยงาม กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เอ่อล้นหลังคาบ้านประชาชนอยู่ และมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอยแสดงวิสัยทัศน์ที่กลวงเหมือนลำไม้ไผ่ ในการเสนอให้นำไม้ไผ่จากกาญจนบุรีมาทำแพ เพื่อ “ใช้ลอยแพ แก้ปัญหาน้ำท่วม” และยังคอยสร้างความไม่เป็นเอกภาพในการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
อีกภาพหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการไม่กล้าตัดสินใจ หรือไม่มีข้อมูลใดต้องให้ตัดสินใจได้ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงนำโดย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-การุณ โหสกุล” คอยกดดัน เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” เยื้องกายมาตรวจงานที่ ศปภ. กลุ่มคนเสื้อแดงจะปรบมือพร้อมตะโกนให้กำลังใจเป็นระยะๆ ตลอดการตรวจราชการของ “นายกฯ สาวปู” หากการมารวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ ศปภ. ไม่ได้ช่วยให้การแก้ปัญหาดีขึ้น ก็ไม่ควรปล่อยให้เข้ามายุ่งจะดีกว่า หรือนายกฯ ปูแดง จะยังดึงดันกับคำพูดที่ติดปากตนเองว่า “กำลังเอาอยู่” ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ช่วยระดมกำลังต้านทานแรงน้ำอยู่ ซึ่งทั่นคิดว่ากำลังเอาอยู่ หรือปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเดินส่ายอาดๆ เพ่นพ่านคอยสั่งงานแบบมั่วๆ กันอยู่ บนคราบน้ำตาประชาชนที่เลือกทั่นเข้ามาเป็นผู้นำประเทศปัญหาอีก อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ นักการเมือง และกลุ่มคนเสื้อแดง แสดงความเฉลียวฉลาดกันมากเกินไปจนทำให้สิ่งของที่จะนำไปช่วยคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมปล่อยของออกไม่ได้ บ้างก็ปล่อยช้าจนเวลาล่วงเลยไปถึง 4 โมงเย็น บางวันก็ปล่อยได้น้อย เพราะเหล่าบรรดาทั่นๆ ทั้งหลายเอาแต่นำเสนอแนวคิดให้ช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อผลประโยชน์ในพื้นที่ของตนเองจนเกินงาม จึงทำให้การทำงานล่าช้าเกินกำหนดที่จะเข้าช่วยประชาชนได้ทันท่วงที โดยเฉพาะนักการเมืองเอาแต่ถกเถียงกันตกลงกันไม่ได้ แทนที่สิ่งของจะได้ปล่อยออกไปแต่เช้า ก็ดันมีการ “แทงกั๊ก” กันเกิดขึ้น โดยไม่นึกถึงประโยชน์ของส่วนรวม มีแต่มาแย่งผลงาน นำเสื้อแดงมานั่งเต็มห้องประชุม แต่ละคนมาก็ยิ่งใหญ่กันทั้งนั้น มีคนติดตามกันเพียบ จึงทำให้คนไม่มีความสามารถมาเติมให้ล้นงานมากขึ้น งานไม่เดิน ทำงานไม่เป็น ดีแต่อวดภูมิ คุยโม้ไปวันๆ ถ้าทำงานก็จะเน้นให้แจกของในนามของตนเอง ทำเอาหน้า สร้างภาพ
น้ำท่วมเป็นเดือน กลุ่มคนที่คอยแก้ปัญหากลับเป็นพวกที่แอบแฝงรับออร์เดอร์มาอีกที และอีกอย่างที่สะท้อนให้เห็นการสร้างภาพ คือภาพของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคู่สมรสคณะรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการทำงานและมอบขนมให้กับคณะทำงานของส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรกับแผนงานด้านผู้เชี่ยวชาญช่วยน้ำท่วมให้ดีขึ้นได้
เราไม่อยากเห็นกลุ่มคนที่นั่งห้องแอร์เย็นๆ ไม่เข้าใจปัญหาถ่องแท้ แต่คอยนั่งสั่งการให้ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งรัฐบาลควรนำนักวิชาการด้านน้ำ วิศวกรที่มีความเก่ง ชำนาญ เชี่ยวชาญด้านภัยธรรมชาติ ควรนำบุคลากรเหล่านี้มาใช้งานเพื่อสร้างเอกภาพให้กับรัฐบาล และประชาชนที่หน้าตาซีดเซียวอดข้าว อดน้ำ จากการต้องต่อสู้ดิ้นรนดำผุด ดำว่ายกับกระแสน้ำท่วมมีผลพลอยได้กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมถูกทางได้ซะที
หากรัฐบาลไม่อยากให้คนมองว่า ศปภ.ย่อมาจาก “ศูนย์ปูแดงสร้างภาพ” วันนี้ยังไม่สายจนเกินไปที่นายกฯ จะหันมารื้อปรับยุทธวิธี มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกันครั้งใหญ่ให้สมกับการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กันซะที เพราะประชาชนคงไม่อยากเห็นน้ำท่วมทั่วทุกสารทิศ แต่กลับมองไม่เห็นผืนแผ่นดินไทยตลอดไป!
อย่างไรก็ตาม จากการที่ ASTVผู้จัดการ ฝ่ายข่าวอาชญากรรม ได้ส่งสายสืบเข้าไปสอดส่องตรวจแถว ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณชั้น 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ตลอดการดำเนินงานของศูนย์ดังกล่าวที่ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังประสบชะตากรรมน้ำท่วมปริ่มหลังคาบ้าน ท่วมสูงจ่อคอหอย ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสอยู่นั้น
เมื่อโฟกัสไปที่การทำงานของ ศปภ. กลับต้องส่ายหน้ากับแนวทางแก้ปัญหาของศูนย์นี้ ยิ่งทำให้นึกเปรียบเทียบได้ถึงหนังอุกกาบาตจะชนโลก ถล่มโลก หรือมหาวิบัติอุกกาบาตล้างโลก โดยก่อนที่โลกจะถล่ม นาซาทำไรบ้าง โดยได้เชิญนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องและมีความชำนาญเข้ามาทำงานเตรียมความพร้อมบัญชาการให้หลุดพ้นจากวิกฤตโลก แต่ในทางกลับกัน ศปภ.ดันไปเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีภูมิความรู้ที่จะนำพาแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติได้ โดยปล่อยให้แผนกเผาบ้านเผาเมือง แดงดาษเดื่อนเกลื่อนธรณี เช่น “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แกนนำ นปช. ที่ขณะนี้สวมหัวโขนผู้ทรงเกียรติ มีดีกรีเป็นถึง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, “การุณ โหสกุล” ที่ชนะใจประชาชนพื้นที่ดอนเมืองส่งให้เป็นตัวแทนเข้ามาเป็น ส.ส.เขตดอนเมือง รวมไปถึงทั่น “เจ๋ง ดอกจิก” ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี (นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย) ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่แอบแฝงเข้ามายุ่งย่าม เสนอหน้าสลอน คอยสั่งการอย่างนู้นอย่างนี้ ชูคอเสนอแนวคิดที่ไม่เข้าท่า แสดงความโชว์เพาฯ แอ็กต์อาร์ตไปวันๆ และส่วนใหญ่จะเน้นให้นำสิ่งของใส่ถุงที่มีตราสัญลักษณ์ ชื่อของตนเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่คอยขนย้ายส่งของไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตที่ตนดูแล
ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีความชำนาญการที่จะช่วยแก้ปัญหาทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากจากน้ำท่วมได้ ก็เรียงหน้ากันทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยเฉพาะ พ.อ., พ.ท. ที่ส่งมารับโทรศัพท์ตอบข้อซักถามประชาชนที่กระหน่ำโทรเข้ามาอย่างมากมาย ซึ่งตรงนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้คนในตำแหน่งที่สูงใหญ่ขนาดนั้น ข้าราชการระดับ 7 ระดับ 8 ที่มานั่งสุมหัวเสมือน “ปาร์ตี้ข้าราชการ” นั่งคุยกันเฮฮาสนุกสนาน อาหารการกินพร้อมเสร็จสรรพ ยกเว้นไม่มีเบียร์ เหล้า ไวน์ ให้ดื่มเคล้าเสียงเพลงกันเท่านั้น อีกทั้งเมื่อกวาดสายตามองให้ทั่ว ศปภ.แล้วจะเห็นเจ้าหน้าที่นั่งเล่นเฟซบุ๊คกันเกลื่อน แต่กลุ่มคนเหล่านี้รอรับเบี้ยเลี้ยงต่อวันเป็นที่อิ่มหน่ำสำราญ รวมถึงระดับนายพลที่นั่งในห้องบัญชาการ หากถอดดาว ช่อชัยพฤกษ์ออกมากองรวมกันแล้วจะหนักเป็นกิโลทีเดียว โดยสิ่งที่จำเป็นในการแก้ปัญหาในขณะนี้จะต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างวิศวะกรเก่งด้านน้ำ เน้นใช้บุคลากรทุกฝ่ายที่ได้คุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิผล ควรระดมที่ว่ากันว่าเป็นหัวกะทิของรัฐบาล อย่างรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ระดับปลัดกระทรวง ส่งตรงมาสั่งงาน ศปภ. จะดีกว่าที่ปล่อยให้กลุ่มคนเสื้อแดงมารวมตัวสั่งการ กดดันข้าราชการ ล้วงลูกการทำงานของรัฐบาลไปวันๆ จนทำให้ไม่รู้จะรับฟังคำสั่งใครดี
เราไม่อยากเห็นภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจการทำงานของ ศปภ. ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ศปภ. มีนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา เป็นโฆษก ศปภ. ที่ไม่เข้าท่านั่งแถลงสร้างภาพให้รัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. มานั่งแซมเป็นดอกไม้ประดับคอยประดิษฐ์ประดอยคำพูดให้ภาพลักษณ์รัฐบาลดูสวยงาม กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เอ่อล้นหลังคาบ้านประชาชนอยู่ และมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอยแสดงวิสัยทัศน์ที่กลวงเหมือนลำไม้ไผ่ ในการเสนอให้นำไม้ไผ่จากกาญจนบุรีมาทำแพ เพื่อ “ใช้ลอยแพ แก้ปัญหาน้ำท่วม” และยังคอยสร้างความไม่เป็นเอกภาพในการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
อีกภาพหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการไม่กล้าตัดสินใจ หรือไม่มีข้อมูลใดต้องให้ตัดสินใจได้ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงนำโดย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-การุณ โหสกุล” คอยกดดัน เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” เยื้องกายมาตรวจงานที่ ศปภ. กลุ่มคนเสื้อแดงจะปรบมือพร้อมตะโกนให้กำลังใจเป็นระยะๆ ตลอดการตรวจราชการของ “นายกฯ สาวปู” หากการมารวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ ศปภ. ไม่ได้ช่วยให้การแก้ปัญหาดีขึ้น ก็ไม่ควรปล่อยให้เข้ามายุ่งจะดีกว่า หรือนายกฯ ปูแดง จะยังดึงดันกับคำพูดที่ติดปากตนเองว่า “กำลังเอาอยู่” ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ช่วยระดมกำลังต้านทานแรงน้ำอยู่ ซึ่งทั่นคิดว่ากำลังเอาอยู่ หรือปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเดินส่ายอาดๆ เพ่นพ่านคอยสั่งงานแบบมั่วๆ กันอยู่ บนคราบน้ำตาประชาชนที่เลือกทั่นเข้ามาเป็นผู้นำประเทศปัญหาอีก อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ นักการเมือง และกลุ่มคนเสื้อแดง แสดงความเฉลียวฉลาดกันมากเกินไปจนทำให้สิ่งของที่จะนำไปช่วยคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมปล่อยของออกไม่ได้ บ้างก็ปล่อยช้าจนเวลาล่วงเลยไปถึง 4 โมงเย็น บางวันก็ปล่อยได้น้อย เพราะเหล่าบรรดาทั่นๆ ทั้งหลายเอาแต่นำเสนอแนวคิดให้ช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อผลประโยชน์ในพื้นที่ของตนเองจนเกินงาม จึงทำให้การทำงานล่าช้าเกินกำหนดที่จะเข้าช่วยประชาชนได้ทันท่วงที โดยเฉพาะนักการเมืองเอาแต่ถกเถียงกันตกลงกันไม่ได้ แทนที่สิ่งของจะได้ปล่อยออกไปแต่เช้า ก็ดันมีการ “แทงกั๊ก” กันเกิดขึ้น โดยไม่นึกถึงประโยชน์ของส่วนรวม มีแต่มาแย่งผลงาน นำเสื้อแดงมานั่งเต็มห้องประชุม แต่ละคนมาก็ยิ่งใหญ่กันทั้งนั้น มีคนติดตามกันเพียบ จึงทำให้คนไม่มีความสามารถมาเติมให้ล้นงานมากขึ้น งานไม่เดิน ทำงานไม่เป็น ดีแต่อวดภูมิ คุยโม้ไปวันๆ ถ้าทำงานก็จะเน้นให้แจกของในนามของตนเอง ทำเอาหน้า สร้างภาพ
น้ำท่วมเป็นเดือน กลุ่มคนที่คอยแก้ปัญหากลับเป็นพวกที่แอบแฝงรับออร์เดอร์มาอีกที และอีกอย่างที่สะท้อนให้เห็นการสร้างภาพ คือภาพของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคู่สมรสคณะรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการทำงานและมอบขนมให้กับคณะทำงานของส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรกับแผนงานด้านผู้เชี่ยวชาญช่วยน้ำท่วมให้ดีขึ้นได้
เราไม่อยากเห็นกลุ่มคนที่นั่งห้องแอร์เย็นๆ ไม่เข้าใจปัญหาถ่องแท้ แต่คอยนั่งสั่งการให้ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ซึ่งรัฐบาลควรนำนักวิชาการด้านน้ำ วิศวกรที่มีความเก่ง ชำนาญ เชี่ยวชาญด้านภัยธรรมชาติ ควรนำบุคลากรเหล่านี้มาใช้งานเพื่อสร้างเอกภาพให้กับรัฐบาล และประชาชนที่หน้าตาซีดเซียวอดข้าว อดน้ำ จากการต้องต่อสู้ดิ้นรนดำผุด ดำว่ายกับกระแสน้ำท่วมมีผลพลอยได้กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมถูกทางได้ซะที
หากรัฐบาลไม่อยากให้คนมองว่า ศปภ.ย่อมาจาก “ศูนย์ปูแดงสร้างภาพ” วันนี้ยังไม่สายจนเกินไปที่นายกฯ จะหันมารื้อปรับยุทธวิธี มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกันครั้งใหญ่ให้สมกับการก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กันซะที เพราะประชาชนคงไม่อยากเห็นน้ำท่วมทั่วทุกสารทิศ แต่กลับมองไม่เห็นผืนแผ่นดินไทยตลอดไป!