ASTVผู้จัดการรายวัน - พีดีเฮ้าส์ แจงผลกระทบน้ำท่วม ช็อคตลาดรับสร้างบ้านกทม.และภาคกลางชะงัก เล็งปรับแผน หันหัวบุกตลาดภูธรหวังเร่งชดเชยยอดขายที่หดตัวครึ่งปีหลัง เผยผลกระทบจากน้ำท่วมกินวงกว้างพื้นที่ภาคกลางทำยอดขายหดตัว พร้อมปรับเป้ายอดขายจาก 1,000 ล้านบาทเหลือ 740 ล้านบาทหรือลดลง 26% ยันยังเดินหน้าเปิดสาขาสุราษฎร์ธานี รับกำลังซื้อยังสูง ลูกค้าต้องการบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพมากขึ้น
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารและเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางและกระทบมาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้าที่ใช้บริการรับสร้างบ้านไตรมาสสุดท้ายที่ชะลอตัวลง และอาจต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
“ส่วนการฟื้นตัวของตลาดโดยรวมนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลและภาคเอกชนจะสามารถเยียวยาและฟื้นฟูได้ดีเพียงใดหลังน้ำลด ในส่วนของบริษัทฯ เองได้ปรับตัวและหันมาเน้นการขยายตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาคอื่นแทน เช่น ภาคอีสาน ภาคใต้ ฯลฯ เพื่อหวังทดแทนยอดขายและลูกค้าที่ลดลงในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม”
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมทั้งปีที่ 1,000 ล้านบาท แต่เมื่อประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักและกินพื้นที่เป็นวงกว้างทั่วภาคกลางในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงใด ดังนั้นบริษัทฯ จึงปรับลดเป้ายอดขายจากสาขาทั่วประเทศปีนี้ลงเหลือประมาณ 740 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 26% ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของความเชื่อมั่นและกำลังซื้อที่คาดว่าจะลดลงในไตรมาส 4 นี้ โดยขณะนี้บริษัทฯ มียอดขายรวมแล้วทั้งสิ้น 530 ล้านบาท
สำหรับปี 2554 นี้ พีดีเฮ้าส์ ตั้งเป้าขยายสาขาในพื้นที่ภาคใต้ให้ครบ 3 แห่ง โดยก่อนหน้านี้มีสาขาอยู่แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ตและหาดใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามแผนการขยายตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาคของบริษัทฯ เดือนตุลาคมนี้จึงได้เปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่งคือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้เพื่อสามารถให้บริการสร้างบ้านได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ได้มากกว่า 8 จังหวัด สำหรับสุราษฎรธานีถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของภาคใต้ เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขายสินค้าเกษตร มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเกาะสมุยและเกาะพงัน และยังเป็นจังหวัดหน้าด่านเปิดสู่ภาคใต้อีกด้วย"
นายชัชวาล ภัทรรังรอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุราษฎร์รับสร้างบ้าน จำกัด หรือเจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวนประชากรจากจังหวัดอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาเพิ่มมากขึ้น และประชาชนในจังหวัดเองก็มีการขยายครอบครัวใหม่ จึงทำให้มีความต้องการสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยเพิ่มตามมา สิ่งสำคัญคือเราพบว่าผู้บริโภคและประชาชนที่มีกำลังซื้อสูง นิยมเลือกสร้างบ้านเองมากกว่าการจัดซื้อบ้านจัดสรร
ทั้งนี้เพราะต้องการได้บ้านที่สร้างอย่างมีคุณภาพ และสามารถตอบสนองได้ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกับการสร้างบ้านทั่วๆ ไป โดยเฉพาะการสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นจุดเด่นของพีดีเฮ้าส์ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมองว่าบ้านจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงความภาคภูมิใจและความสำเร็จของผู้เป็นเจ้าของบ้านด้วย
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเห็นเป็นโอกาสดีที่จะเป็นทางเลือกของผู้ต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ ในฐานะมืออาชีพรับสร้างบ้านภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกในสุราษฎร์ธานีที่ให้บริการได้อย่างมืออาชีพและครบวงจร สำหรับปีแรกหรือในช่วง 12 เดือนแรก บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 50 ล้านบาท
“ยอดขายดังกล่าวที่ตั้งไว้ถือว่าไม่สูงมากนัก เมื่อพิจารณาจากยอดขายของสาขาหาดใหญ่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 50 ล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ตามหากผู้บริโภคให้การตอบรับ บริษัทฯ ก็พร้อมจะขยายทีมงานเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ โดยมีพีดีเฮ้าส์ในฐานะเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์เป็นผู้สนับสนุนการปฎิบัติงาน”
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารและเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางและกระทบมาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้าที่ใช้บริการรับสร้างบ้านไตรมาสสุดท้ายที่ชะลอตัวลง และอาจต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
“ส่วนการฟื้นตัวของตลาดโดยรวมนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลและภาคเอกชนจะสามารถเยียวยาและฟื้นฟูได้ดีเพียงใดหลังน้ำลด ในส่วนของบริษัทฯ เองได้ปรับตัวและหันมาเน้นการขยายตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาคอื่นแทน เช่น ภาคอีสาน ภาคใต้ ฯลฯ เพื่อหวังทดแทนยอดขายและลูกค้าที่ลดลงในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม”
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมทั้งปีที่ 1,000 ล้านบาท แต่เมื่อประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักและกินพื้นที่เป็นวงกว้างทั่วภาคกลางในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงใด ดังนั้นบริษัทฯ จึงปรับลดเป้ายอดขายจากสาขาทั่วประเทศปีนี้ลงเหลือประมาณ 740 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 26% ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของความเชื่อมั่นและกำลังซื้อที่คาดว่าจะลดลงในไตรมาส 4 นี้ โดยขณะนี้บริษัทฯ มียอดขายรวมแล้วทั้งสิ้น 530 ล้านบาท
สำหรับปี 2554 นี้ พีดีเฮ้าส์ ตั้งเป้าขยายสาขาในพื้นที่ภาคใต้ให้ครบ 3 แห่ง โดยก่อนหน้านี้มีสาขาอยู่แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ตและหาดใหญ่ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามแผนการขยายตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาคของบริษัทฯ เดือนตุลาคมนี้จึงได้เปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่งคือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้เพื่อสามารถให้บริการสร้างบ้านได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ได้มากกว่า 8 จังหวัด สำหรับสุราษฎรธานีถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของภาคใต้ เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขายสินค้าเกษตร มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างเกาะสมุยและเกาะพงัน และยังเป็นจังหวัดหน้าด่านเปิดสู่ภาคใต้อีกด้วย"
นายชัชวาล ภัทรรังรอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุราษฎร์รับสร้างบ้าน จำกัด หรือเจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวนประชากรจากจังหวัดอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาเพิ่มมากขึ้น และประชาชนในจังหวัดเองก็มีการขยายครอบครัวใหม่ จึงทำให้มีความต้องการสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยเพิ่มตามมา สิ่งสำคัญคือเราพบว่าผู้บริโภคและประชาชนที่มีกำลังซื้อสูง นิยมเลือกสร้างบ้านเองมากกว่าการจัดซื้อบ้านจัดสรร
ทั้งนี้เพราะต้องการได้บ้านที่สร้างอย่างมีคุณภาพ และสามารถตอบสนองได้ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกับการสร้างบ้านทั่วๆ ไป โดยเฉพาะการสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นจุดเด่นของพีดีเฮ้าส์ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมองว่าบ้านจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงความภาคภูมิใจและความสำเร็จของผู้เป็นเจ้าของบ้านด้วย
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเห็นเป็นโอกาสดีที่จะเป็นทางเลือกของผู้ต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ ในฐานะมืออาชีพรับสร้างบ้านภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกในสุราษฎร์ธานีที่ให้บริการได้อย่างมืออาชีพและครบวงจร สำหรับปีแรกหรือในช่วง 12 เดือนแรก บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 50 ล้านบาท
“ยอดขายดังกล่าวที่ตั้งไว้ถือว่าไม่สูงมากนัก เมื่อพิจารณาจากยอดขายของสาขาหาดใหญ่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า 50 ล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ตามหากผู้บริโภคให้การตอบรับ บริษัทฯ ก็พร้อมจะขยายทีมงานเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ โดยมีพีดีเฮ้าส์ในฐานะเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์เป็นผู้สนับสนุนการปฎิบัติงาน”