xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าข้าเอ๊ย!?..‘ปูแดง’ จะใช้ ‘เบนซิน’ ดับไฟใต้

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

สียงสายน้ำเชี่ยวกรากหลากท้นถาโถมบนแผ่นดินตั้งแต่เหนือ อีสาน จดภาคกลาง กินเนื้อที่เกือบครึ่งค่อนประเทศ เมื่อผนวกกับเสียงโหยหวนทุกข์ระทมของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเรือนแสน วิกฤตอุทกภัยถล่มไทยสะเทือนเลื่อนลั่นในครั้งนี้คงจะแผดดังกลบเสียงอื่นๆ ในสังคมไปแทบหมดสิ้น

แน่นอนว่าหากนำมาเปรียบเทียบกับวิกฤตไฟใต้ที่เรื้อรังมานาน และวันนี้เสียงระเบิดหลากหลายประเภท ทั้งที่วางเป็นกับดักไว้ตามสถานที่ต่างๆ ถูกฝังไว้ตามท้องถนน ถูกยิงออกจากเครื่องยิง หรือแม้กระทั่งปาใส่กันซึ่งๆ หน้า รวมถึงเสียงปืนนานาชนิดที่เกิดจากการปะทะหรือแอบซุ่มยิงก็ตาม ซึ่งยังดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องกังวานไปถ้วนทั่ว ถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยไม่ตั้งใจเงี่ยหูฟังกันจริงๆ ก็คงยากจะได้ยิน

ทว่า แม้ในเวลานี้จะกระทำได้ยากเย็นเพียงใด ผมก็ยังต้องขอป่าวประกาศแทรกเสียงซ่าซ่านของสายน้ำท่วมให้สังคมไทยได้รับรู้ว่า...

เสียงคุโชนของเปลวไฟใต้กำลังจะถูกโหมให้ระอุเดือด และจะยิ่งลุกลามมากขึ้นอีกระลอกแล้ว?!

อันเป็นผลจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายรัฐมนตรี กำลังเล่นเกมฮั้วผลประโยชน์กับกองทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. โดยกำลังแอบงุบงิบกันปรับรื้อโครงสร้างอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ ระบอบทักษิณต้องการทุบทิ้ง “ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)” หน่วยงานใหม่ตาม “พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 2553” (มักเรียกกันว่า พ.ร.บ.ศอ.บต. เพราะเป็นกฎหมายรองรับการตั้ง ศอ.บต.ใหม่) ซึ่งเป็นผลงานรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สมัยที่แล้ว ขณะที่ฝ่ายทหารต้องการรวบทั้งกำลังคน ทรัพยากรและงบประมาณที่มีปีละนับแสนล้านบาทไปไว้ใต้ปีกโอบ

ความจริงแล้ว ปฏิบัติการฮั้วกันกินรวบอำนาจรัฐในชายแดนใต้หนใหม่ เริ่มขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่สร้างความโกลาหลในช่วง 3 เดือนมานี้ เป็นจริงเป็นจังตั้งต้นจากนายกฯ เรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดับไฟใต้เข้าประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 แล้วมอบให้ กอ.รมน.ไปคิดโครงสร้างใหม่ ในลักษณะให้มีศูนย์บูรณาการดับไฟใต้ โดยให้อยู่ภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ที่ กอ.รมน.กำหนด

ต่อมา 4 ตุลาคม 2554 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 4 นั่งควบตำแหน่งผู้อำนวยการอยู่ด้วย ได้เรียกทุกหน่วยงานในพื้นที่ร่วมหารือ ซึ่งก็คือจุดเริ่มต้นของข้อเสนอให้ตั้งหน่วยงานใหม่ถอดด้ามในพื้นที่ขึ้นมากินรวบคือ...

“ศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบก.จชต.)”

หน่วยงานใหม่นี้อยู่ใต้ร่มเงาของ กอ.รมน.แบบสายตรง โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งต่อไปก็ต้องบอกว่าในชายแดนใต้ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่ไปกว่าแม่ทัพภาคที่ 4 อีกแล้ว

น่าสังเกตว่า การเสนอปรับรื้อโครงสร้างอำนาจรัฐในชายแดนใต้ ด้วยข้ออ้างเพื่อความเป็นเอกภาพในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้ยุบทั้ง ศอ.บต.แบบที่ระบอบทักษิณเคยทำมาแล้ว รวมถึงไม่ได้แก้ไขหรือยกเลิก พ.ร.บ.ศอ.บต.ที่เกิดขึ้นจากฝีมือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ทั้งองค์กรและกฎหมายดังกล่าวก็ต้องถือว่าได้ถูก “กุดหัว” ไปเรียบร้อยแล้ว

เนื่องเพราะตามโครงสร้างนี้ทั้งองค์กรคือ ศอ.บต. และผู้บริหารสูงสุดคือ เลขาธิการ.ศอ.บต. จะต้องถูกโยกออกนอกชายแดนใต้ไปอยู่ส่วนกลาง เนื่องจากเป็นหน่วยงานในระนาบเดียวกันกับ กอ.รมน. ส่วนที่จะให้มีได้ในพื้นที่ก็ให้ย่อเหลือเพียงแค่ “ศอ.บต.ส่วนแยก” อันเป็นระนาบเดียวกับ กอ.รมน.ส่วนหน้า

แต่ ศอ.บต.ส่วนแยก ก็ยังต้องขึ้นตรงต่อ กอ.รมน.ส่วนหน้า อยู่อีกนั่นแหละ!!

อันที่จริง สมัยหาเสียงเลือกตั้งเที่ยวล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายตั้ง “นครปัตตานี” แม้ไม่บอกตรงๆ แต่ใครๆ ก็รู้ว่านั่นคือการทุบ ศอ.บต. และเผา พ.ร.บ.ศอ.บต.

อีกทั้งเมื่อชนะเลือกตั้งและได้คะแนนเสียงท่วมท้น จนเดี๋ยวนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่กล้าเดินหน้านโยบายที่หาเสียงไว้ เพราะเคยหยั่งเสียงแล้วผลที่ได้รับไม่ใช่ดอกไม้ มีแต่เป็นก้อนอิฐเท่านั้น การยอมให้ทหารออกหน้าเล่นงานแทนจึงเป็นเรื่องสมประโยชน์ที่สุด

ผมหยิบยกวิกฤตไฟใต้มาป่าวประกาศ ณ เวลานี้ ก็เพราะแว่วมาว่า 18-19 ตุลาคมนี้ กอ.รมน.จะจัดประชุมสรุปเป็นครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ จากนั้นจะชงเรื่องเสนอให้ ครม.พิจารณาซึ่งหาก ครม.ผ่านความเห็นชอบ ปฏิบัติการว่าด้วยการปรับรื้อแล้วยึดอำนาจรัฐในชายแดนใต้ก็จะมีผลทันที

สำหรับสังคมไทยนั้น ถ้าเราปล่อยให้รัฐบาลเพื่อไทยฮั้วกองทัพกุมบังเหียนแผ่นดินชายแดนใต้สำเร็จ กระบวนการดับไฟใต้ที่เดินหน้ามา 7 ปีจะถอยหลังลงคลองอีกคราครั้งแน่นอน เพราะเป็นการย้อนกลับไปใช้นโยบาย “ทหารนำการเมือง” ที่ไม่สอดรับกับสภาพสังคม

เราต้องไม่ลืมนะครับว่า ไฟใต้ที่คุโชนหนใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2547 เกิดจากความเหิมเกริมของระบอบทักษิณที่กระสันจะเป็นรัฐตำรวจ โดยทำตามการชงเรื่องขึ้นไปให้จากกองบัญชาการตำรวจภาค 9 ในสมัยนั้น ซึ่งให้ยุบทิ้ง ศอ.บต.และ พตท.43 แล้วให้ทหารถอยกลับคืนกรมกอง ส่งผลให้เกิดเหตุปล้นปืนค่ายทหารและเหตุการณ์ก็ลามปามมาจนทุกวันนี้

แล้วครั้งนี้สังคมไทยเรายังจะยอมให้ “รัฐบาลปูแดง” นอมินีชิดใกล้ของระบอบทักษิณเดินหน้าตามการเสนอของ กอ.รมน.ซึ่งก็ไม่น่าจะต่างจากการยื่น “เบนซิน” ให้ไปใช้ดับไฟใต้อยู่อีกละหรือ?!?!
กำลังโหลดความคิดเห็น