“อังคณา” ตอบโจทย์ “แม้ว” ขอโทษอย่างเดียวไม่พอ มีโอกาสหวนสู่อำนาจ ต้องพิสูจน์ความจริงใจแก้ปัญหาชายแดนใต้ ขอ “ความเป็นลูกผู้ชาย” ผิดต้องกล้ายอมรับผิด เยียวยาเหยื่ออุ้มฆ่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา รักลูกตัวเองต้องรักลูกคนอื่นด้วย หวั่นเด็กเติบโตพร้อมความเคียดแค้น ชี้ปรองดองเกิดได้ด้วยการกระทำ
นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายความสมชาย นีละไพจิตร กล่าวในรายการ “ตอบโจทย์” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขอโทษพี่น้องชาวมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า อย่างน้อย พ.ต.ท.ทักษิณขอโทษ ยอมแสดงว่าทำผิด แต่หลังจากขอโทษแล้วจะทำอย่างไร ตนเห็นว่าจะต้องมีกระบวนการเปิดเผยความจริง ให้มีสิทธิในการรู้ความจริงของเหยื่อ มีความยุติธรรม และการเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้จะมีหรือไม่ หรือแค่คำขอโทษ
นางอังคณากล่าวว่า การเยียวยานั้นมีความสำคัญ อย่างกรณีที่ตากใบ จะเป็นเดือนรอมฎอนในเดือนหน้า ซึ่งชาวนราธิวาสจะคิดถึงเหตุการณ์ที่ตากใบที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอนอยู่ตลอดว่าลูกหลานเขาออกไปแล้วไม่ได้กลับมาบ้าน ทางด้านความรู้สึก ด้านจิตใจ ยังรู้สึกว่าความไม่เป็นธรรมยังมีอยู่ ความทรงจำในเรื่องนี้จะดูแลเขาอย่างไร ความทรงจำที่เจ็บปวด วันนี้พัฒนาเป็นความทรงจำร่วมของชุมชน คนในสังคม เกิดความรู้สึกร่วมกัน
นางอังคณากล่าวว่า การเปิดเผยความจริง สิทธิที่จะรู้ความจริงของเหยื่อตามมาตรฐานสากล ตามหลักเกณฑ์ของสหประชาชาติ สิทธิในการได้รับความเป็นธรรม การนำคนผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะต้องสานต่อ โดยส่วนตัวตนก็อยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายสมชาย ที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าตอนนั้นใช้กำปั้นเหล็กมากเกินไป ใช้กฎหมายมากเกินไป ความจริงการใช้กฎหมายเป็นการใช้สันติวิธี ทุกคนมีสิทธิที่จะถูกกล่าวหา แต่ต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ผู้ถูกจับกุมก็มีสิทธิพบญาติ มีสิทธิประกันตัว
ถ้าทำตามกฎหมายก็จะไม่เกิดปัญหา แต่ที่ทำให้เกิดปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่ละเมิดกฎหมาย มีการเอาตัวไปซ้อม ทรมาน อุ้ม ฆ่า ที่เรียกว่าฆ่านอกกระบวนการยุติธรรม วิธีการนอกกฎหมายเหล่านี้นี่แหละที่เป็นปัญหา หลังเหตุการณ์ปล้นปืน มีการอุ้มฆ่ามาก มีคนหายไปมากมาย มีคนถูกซ้อม เมื่อมาร้องเรียนให้ทนายความช่วย ทนายก็ถูกอุ้มไปอีก พ.ต.ท.ทักษิณจะเยียวยาอย่างไร ต้องเยียวยาสังคมและเหยื่อ
นางอังคณากล่าวว่า ประชาชนรู้และจดจำว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคไปอย่างไรประชาชนก็ไม่เลือก หันไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคนก็ไม่ดูแลชาวบ้านเลย แต่สุดท้ายก็ยังเลือกเพราะไม่มีตัวเลือก ชาวบ้านยังมีความทรงจำกับเหตุการณ์เมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคไทยรักไทยต้องรับผิดชอบ ถึงจะเปลี่ยนชื่อพรรคไปอย่างไร เขาก็รู้ว่าใครทำ ที่ผ่านมาคนสามัญ คนจนถูกข่มเหงรังแกมาตลอด
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าเป็นผู้ถูกกระทำ นางอังคณากล่าวว่า ความเจ็บช้ำน้ำใจของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่ารู้สึกโกรธมากที่เกิดเหตุปล้นปืน และได้เรียนรู้ว่าความรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้ วันนี้ก็ยังมีความรุนแรง เพราะชาวบ้านไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งสั่งสมมาจากสมัยพรรคไทยรักไทย จะทำอย่างไรถึงจะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ ต้องเอาความจริงมาพูดคุยกัน ถ้าทำผิดแล้วใครรับผิดชอบ ต้องมีความรับผิดชอบ และเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ
หลังเหตุการณ์ที่กรือเซะ และตากใบ ได้มีการทำรายงานขึ้นมา หลายข้อความในรายงานก็ไม่ให้เปิดเผย เพราะกลัวว่าบางองค์กรจะเสีย สังคมไทยไม่เรียนรู้จะอยู่กับความจริง การหาความจริงเป็นการตรวจสอบ ถ้าองค์กรผิดพลาด องค์กรต้องปรับตัว เพราะในที่สุดองค์กรก็อยู่ไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่รักไม่สนับสนุน
นางอังคณากล่าวถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะต้องเริ่มจากคลี่คลายความรู้สึกไม่ไว้วางใจให้กลับมาลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้มากขึ้นได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์เคยบอกว่ากระบวนการยุติธรรมมีข้อจำกัด ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดก็ต้องถูกจับด้วย วันนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดจะต้องเอาเข้ากระบวนการยุติธรรมได้ ที่ผ่านมาชาวบ้านถูกกล่าวหา เจ้าหน้าที่จับได้ เวลาที่ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนผิดเป็นคนทำ สุดท้ายทำไมจับใครไม่ได้ จะดูแลกระบวนการยุติธรรมอย่างไร เพราะความรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นปัญหาใหญ่ ความรับผิดชอบจะต้องมี จะเยียวยาอย่างไร
เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงเรื่องครอบครัว เรื่องลูก นางอังคณากล่าวว่า ธรรมชาติของคนต่างก็รักลูก พ.ต.ท.ทักษิณรักลูก ก็ไม่ต่างจากที่นายสมชาย และหลายๆ คนที่ถูกอุ้มฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณจะดูแลลูกคนอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำนอกกฎหมายแบบนี้อย่างไร ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณและตนคงอยู่อีกไม่นาน แต่เด็กรุ่นหลัง ต้องมีชีวิตอยู่ ต้องนำพาสังคมไทยต่อไป จะดูแลเด็กพวกนี้อย่างไร ตอนนี้เด็กหลายคนเติบโตด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ครอบครัวหลายคนที่ถูกอุ้มหายไป ไม่เคยได้รับการเยียวยาจากรัฐ ลูกเขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องรักลูกคนอื่นด้วย ต้องฟื้นฟูความเชื่อใจให้กลับมา
นางอังคณากล่าวว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณรักลูกคนอื่น เหมือนรักลูกตัวเอง หลังเหตุการณ์ตากใบ กรือเซะ เด็กหลายคนไม่ได้เรียนหนังสือ พรรคไทยรักไทยหรือพรรคเพื่อไทยต้องเอามาคิด ตอนนี้เหตุการณ์มันกลับมาที่เดิม พ.ต.ท.ทักษิณกลับมามีอำนาจ มีโอกาส ประชาชนให้โอกาสแก้ปัญหา ต้องถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้ฟื้นคืนดีให้ได้ ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นตัวนำ การจะปรองดอง ผลอยู่ที่การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณกับพรรคเพื่อไทย
นางอังคณากล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีความโกรธต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือผู้ถูกกล่าวหาในคดี ไม่เคยโกรธหรือด่าว่าประณามใคร แต่เมื่อผิดต้องรับผิด ต้องรับผิดชอบ สังคมต้องมีหลักเกณฑ์ ถ้าด่าทอกันหรือใช้ความรุนแรงก็ไม่จบ ตนไม่เคยด่าว่าใคร ไม่เคยว่าเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ต้องหา “อยากให้แมนๆ ทำผิด รับผิด ขอแค่นี้ได้มั้ย ถ้าไม่สนใจความทรงจำของเหยื่อ ก็ป่วยการจะพูดเรื่องปรองดอง ถ้าไม่รู้จักเข้าใจคนอื่น”
“นอกจากคำขอโทษ อยากให้แสดงความรับผิดชอบ คืนความเป็นธรรมให้หลายๆ คน ถึงแม้ให้ชีวิตฟื้นคืนมาไม่ได้ แต่ก็ให้ความเป็นธรรมได้ ซึ่งมีความสำคัญ การละเมิดสิทธิมนุษยชน การให้ความเป็นธรรม การเยียวยาเหยื่ออย่างเหมาะสมจะนำมาสู่การพูดคุยปรองดอง”