“พล.ท.นันทเดช” ระบุ “ทวี” ไม่เหมาะนั่งเลขาฯ ศอ.บต. ชี้เคยทำงานในพื้นที่สมัย “ทักษิณ” ชาวบ้านอาจไม่ยอมรับ แถมมีศัตรูในพื้นที่ พร้อมปรามนายกฯ หากตั้ง “พล.อ.พัลลภ” คุม กอ.รมน.ดูในส่วนชายแดนใต้แสดงว่าชอบให้เกิดปัญหา แนะไปดูแลส่วนอื่นดีกว่า ด้าน “อังคณา-อนุศาสตร์” วอนอย่าเล่นการเมืองในพื้นที่ จะตั้งใครอย่าให้เป็นการซ้ำเติมความทรงจำชาวบ้าน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”
วันที่ 27 ก.ย. เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการกอง 2 ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล ส.ว.สรรหา จังหวัดปัตตานี และนางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”
จากกรณีที่รัฐบาลเตรียมเปลี่ยนตัวเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จากนายภาณุ อุทัยรัตน์ มาเป็น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นางอังคณากล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ พ.ต.อ.ทวีเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และดูแลกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ พ.ต.อ.ทวีพยายามเข้ามาดูเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมเยอะมาก ส่วนเรื่องการปกครองอาจจะยังไม่มีบทบาทในเชิงนั้น
นายอนุศาสตร์กล่าวว่า ถ้าเป็น พ.ต.อ.ทวีจริง ก็ถือเป็นมิติใหม่ เพราะในอดีตเลขาฯ ศอ.บต.จะเป็นนักปกครอง มาจากข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ชาวบ้านก็ยึดติดว่าต้องมาจากนักปกครอง ซึ่งตรงนี้เหตุผลที่รัฐบาลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต้องชัดเจน พ.ต.อ.ทวีเคยสอบสวนคดีปล้นปืนค่ายปิเหล็ง สมัยเป็นอธิบดีดีเอสไอ มีประสบการณ์บ้างแต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ชาวบ้านอาจไม่มั่นใจว่าท่านจะเข้าใจปัญหาอย่างแท้ ซึ่งต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร
พล.ท.นันทเดชกล่าวว่า ตนค่อนข้างสนิทกับ พ.ต.อ.ทวี ท่านเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน สู้งาน แต่มีปัญหาว่าตำแหน่งที่จะไปอยู่เหมาะสมหรือไม่ จะไปกินนอนในพื้นที่ได้หรือไม่ เคยมีพื้นฐานลงไปจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีก่อความไม่สงบ ชาวบ้านจะยอมรับหรือ ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของ พ.ต.อ.ทวีควรให้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ดีกว่าส่งลงพื้นที่ เพราะมีศัตรูกันอยู่แน่นอน คนที่เคยทำงานในพื้นที่ยุค พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรลงไปอยู่ในพื้นที่อีก เพราะประชาชนยังมีความแค้นกันอยู่ มันยากที่จะอธิบายให้คนในพื้นที่เข้าใจ
นายอนุศาสตร์กล่าวว่า จากการเลือกตั้ง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และเพื่อไทยต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยุบไม่ยุบ เอาไม่เอาเรื่องนครรัฐปัตตานี สรุปว่าประชาธิปัตย์ได้ที่นั่งในพื้นที่เกือบทั้งหมดยกเว้นปัตตานี 2 ที่นั่ง และเพื่อไทยไม่มีที่นั่งในพื้นที่เลย แสดงว่าประชาชนยังเชื่อมั่นในพระราชบัญญัติ ศอ.บต. ถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีความชัดเจน ตอนนี้มีแต่คนกังวล เป็นห่วง วันนี้ได้ข่าวมาว่าจะมีหน่วยงานใหม่ขึ้นมาอีก คิดว่าชาวบ้านจะสับสน ด้วยความเคารพ ถ้า พ.ต.อ.ทวีมาจริง จะอยู่ในตำแหน่งนานขนาดไหน ชาวบ้านเป็นห่วงตรงนี้ เพราะความต่อเนื่องสำคัญ เราต้องกาารความชัดเจน
พล.ท.นันทเดชกล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยก็สับสน และมีแนวโน้มไม่เอานครรัฐปัตตานีตามที่หาเสียงไว้ เพราะคงเห็นแล้วว่า ศอ.บต.เหมาะสมที่สุด คิดว่ารัฐบาลต้องทบทวนมากพอสมควร คงไม่เสี่ยงที่จะทำอะไรกับ ศอ.บต. เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อต้อนรับรัฐบาลใหม่ไม่เบาเลย ในช่วง 14-15 วันที่ผ่านมา
นางอังคณากล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลเห็นว่า ศอ.บต.เหมาะสมสุด ก็ต้องดำเนินการต่อโดยอย่ากลัวว่าจะเสียหน้าที่ไม่ทำตามที่หาเสียง แม้ไม่มี ส.ส.เลยก็ต้องทำ มองในแง่ดีปัญหาภาคใต้มันหนักขึ้นในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้แก้ตัวผ่านทางน.ส.ยิ่งลักษณ์
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการแต่งตั้ง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เป็นผู้อำนวยการ กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) พล.ท.นันทเดชกล่าวว่า ถ้า พล.อ.พัลลภดูกอ.รมน. ในดูส่วนอื่นก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิ์ แต่ถ้าแต่งตั้งให้ไปดูภาคใต้แสดงว่านายกฯชอบให้เกิดปัญหามากขึ้น ปัญหาภาคใต้มีคนดูเยอะแยะ ควรไปดูส่วนอื่นดีกว่า
นายอนุศาสตร์กล่าวว่า ไม่ว่าจะตั้งอะไรเชิงสัญลักษณ์ อย่าให้เป็นการซ้ำเติมความทรงจำของชาวบ้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องทำด้วยความระมัดระวัง
นางอังคณากล่าวเสริมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีอำนาจเต็มอยู่แล้วถ้าจะแต่งตั้งใคร แต่ถ้าฉลาดไม่ควรทำ ไม่ควรขุดคุ้ยความทรงจำขึ้นมาอีก นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้วยังเป็นการซ้ำเติม และให้คนบางกลุ่มฉวยโอกาสปลุกระดมความรุนแรงขึ้นมา ไม่ควรหาเรื่อง