วานนี้ (18 ต.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีฝ่ายกฎหมาย ปชป.ขอข้อมูลอัยการสูงสุดกรณีอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีขายหุ้นชินคอร์ปของคุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ว่าฝ่ายกฎหมาย ปชป.ขอขอบคุณอัยการสูงสุดที่ได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวมาเพื่อให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาดำเนินการ แต่เอกสารที่ทางอัยการสูงสุดได้ส่งให้พรรคนั้น แทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอกสารที่พรรคร้องขอและต้องการเลย ปชป.ได้ขอเอกสารไป 5 รายการ แต่ทางอัยการสูงสุดกลับส่งมาตรงกับที่ร้องขอไปเพียง 1 รายการ นอกนั้นเป็นเหมือนคำอธิบายสอนกฎหมายให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยได้อ่าน ทำให้เป็นที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ถึงเจตนาของอัยการสูงสุดว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่อย่างไร เอกสารที่ทางพรรคได้ขอไปมีพิรุธอย่างไรหรือไม่ ถึงได้ส่งมอบไม่ได้
ทั้งนี้ จากการที่ทีมกฎหมายได้หารือกันเป็นการภายใน ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเรียกร้องเอกสารที่ยังขาดอยู่ผ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการต่อไป และในเรื่องนี้นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการะทรวงยุติธรรมเงา ปชป. และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายพรรค ยืนยันว่าจะตรวจสอบและดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมาย พรรค ปชป. กล่าวว่า ถือว่าอัยการสูงสุดไม่ได้ส่งข้อมูลที่ ปชป.ร้องขอมาให้เลย ได้เพียงแต่คำชี้แจงมา ซึ่งเนื้อหายืนยันว่าอัยการพิจารณาการสั่งไม่ฎีกาคดีด้วยความอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเนื้อหาเดิมๆ ที่อัยการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายครั้ง แต่ ปชป.อยากได้ข้อมูลมากกว่าว่า 1.เหตุผลที่อัยการสั่งฟ้องคดีในตอนแรกคืออะไร เพราะแสดงว่าอัยการเห็นว่าจำเลยมีความผิดจึงสั่งฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยผิด และ 2.เหตุผลที่อัยการไม่สั่งฎีกาหลังจากศาลอุทธรณ์ตัดสินต่างจากศาลชั้นต้นคืออะไร
ดังนั้น ถ้าอัยการสูงสุดสุจริตใจจริงๆ ก็สามารถให้ข้อมูลเหล่านี้ได้ เพราะคดีถือว่าสิ้นสุดแล้ว การให้ข้อมูลไม่มีผลกระทบต่อคดีอีก เหตุใดจึงไม่ยอมให้ ดังนั้น หลังจากนี้ฝ่ายกฎหมาย ปชป.ยังจะเดินหน้ากระบวนการถอดถอนอัยการสูงสุดต่อ แต่เนื่องจากขณะนี้บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัย ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน เราจะรอหลังน้ำลด โดยอาจใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการเดินหน้าขอข้อมูลต่อ หรือใช้ช่องทางอื่น อาทิ การตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การดำเนินการถอดถอน ปชป.จะไม่ทำตามอำเภอใจ จะรอให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนและสามารถฟังได้ และจะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ จากการที่ทีมกฎหมายได้หารือกันเป็นการภายใน ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเรียกร้องเอกสารที่ยังขาดอยู่ผ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการต่อไป และในเรื่องนี้นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการะทรวงยุติธรรมเงา ปชป. และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายพรรค ยืนยันว่าจะตรวจสอบและดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมาย พรรค ปชป. กล่าวว่า ถือว่าอัยการสูงสุดไม่ได้ส่งข้อมูลที่ ปชป.ร้องขอมาให้เลย ได้เพียงแต่คำชี้แจงมา ซึ่งเนื้อหายืนยันว่าอัยการพิจารณาการสั่งไม่ฎีกาคดีด้วยความอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเนื้อหาเดิมๆ ที่อัยการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลายครั้ง แต่ ปชป.อยากได้ข้อมูลมากกว่าว่า 1.เหตุผลที่อัยการสั่งฟ้องคดีในตอนแรกคืออะไร เพราะแสดงว่าอัยการเห็นว่าจำเลยมีความผิดจึงสั่งฟ้องต่อศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยผิด และ 2.เหตุผลที่อัยการไม่สั่งฎีกาหลังจากศาลอุทธรณ์ตัดสินต่างจากศาลชั้นต้นคืออะไร
ดังนั้น ถ้าอัยการสูงสุดสุจริตใจจริงๆ ก็สามารถให้ข้อมูลเหล่านี้ได้ เพราะคดีถือว่าสิ้นสุดแล้ว การให้ข้อมูลไม่มีผลกระทบต่อคดีอีก เหตุใดจึงไม่ยอมให้ ดังนั้น หลังจากนี้ฝ่ายกฎหมาย ปชป.ยังจะเดินหน้ากระบวนการถอดถอนอัยการสูงสุดต่อ แต่เนื่องจากขณะนี้บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัย ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อน เราจะรอหลังน้ำลด โดยอาจใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการเดินหน้าขอข้อมูลต่อ หรือใช้ช่องทางอื่น อาทิ การตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การดำเนินการถอดถอน ปชป.จะไม่ทำตามอำเภอใจ จะรอให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนและสามารถฟังได้ และจะดำเนินการต่อไป
