ปชป.แฉอัยการสูงสุด หมกเม็ดเอกสารคดี “หญิงอ้อ” เลี่ยงภาษี แฉขอไป 5 รายการ ได้มาแค่รายการเดียว เตรียมใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร บี้ขออีกรอบ พร้อมเรียกร้องเพื่อไทยหยุดแทรกแซงทหาร ชี้ยังไม่จำเป็นแก้พ.ร.บ.กลาโหม
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีหลบเลี่ยงภาษีของ คุณหญิง พจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคขอขอบคุณอัยการสูงสุดที่ได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวมาเพื่อให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาดำเนินการ แต่เอกสารที่ทางอัยการสูงสุดได้ส่งให้พรรคนั้นแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอกสารที่ทางพรรคร้องขอและต้องการเลย
นายกสลธี กล่าวว่า ทางพรรคได้ขอเอกสารไป 5 รายการ แต่ทางอัยการสูงสุดกลับส่งมาตรงกับที่ร้องขอไปเพียง 1 รายการ นอกนั้นเป็นเหมือนคำอธิบายสอนกฎหมายให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยได้อ่าน ทำให้เป็นที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งถึงเจตนาของอัยการสูงสุดว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่อย่างไร เอกสารที่ทางพรรคได้ขอไปมีพิรุธอย่างไรหรือไม่ถึงได้ส่งมอบไม่ได้ ทั้งนี้ จากการที่ทีมกฎหมายได้หารือกันเป็นการภายใน ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเรียกร้องเอกสารที่ยังขาดอยู่ผ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารต่อไป และในเรื่องนี้ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา รมว.ยุติธรรมเงา พรรคประชาธิปัตย์ และ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า จะตรวจสอบและดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
นายสกลธี กล่าวด้วยว่า เป็นที่น่าประหลาดใจว่าในขณะที่ประชาชนชาวไทยกำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่พรรคเพื่อไทยแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือมุ่งเน้นเรื่องแก้ไขพ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างความเป็นระบอบประชาธิปไตยบังหน้าแต่แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ โดยประชาชนรู้ดีว่าเป็นความต้องการเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารเพื่อที่จะทำการยึดประเทศผ่านกลไกข้าราชการทั้งหมด
ส่วนตัวเห็นว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ใช่จะแก้ไขไม่ได้แต่ยังไม่เห็นความจำเป็นและเหตุผลในการแก้ไข และที่ทางพรรคเพื่อไทยอ้างว่าการมีอยู่ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวทำให้ฝ่ายบริหารไม่สามารถแต่งตั้งคนของตนเพื่อสั่งการทหารได้ แต่ในสถานการณ์ที่น้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ จะเห็นว่าทหารได้ปฏิบัติตามนโยบายและช่วยเหลือรัฐบาลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาและดูจะทำได้ดีกว่าทางรัฐบาลด้วยซ้ำไป
“จึงขอให้พรรคเพื่อไทยหยุดกระบวนการแทรกแซงกองทัพเสียที การมีอยู่ของ พ.ร.บ.ฉบับนี้วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการดึงกองทัพออกมาจากการเมือง พรรคเพื่อไทยอย่าเอาการเมืองไปยุ่งกับกองทัพเลย ไม่อยากเห็นกองทัพต้องโดนแทรกแซงวางคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ ข้ามระบบอาวุโสและทำให้กองทัพที่เป็นสถาบันหลักของชาติต้องพังทลายเหมือนหน่วยงานราชการหลายๆ หน่วยที่โดนการเมืองแทรกแซงทุกครั้งในการแต่งตั้งโยกย้ายจนระบบราชการเสียหายย่อยยับ ถ้าพรรคเพื่อไทยกลัวความเป็นปึกแผ่นและเข้มแข็งของกองทัพก็อย่ามัวสาละวนเรียกร้องการแก้ไข พ.ร.บ.นี้เลย ขอให้เอาเวลาไปออกกฎหมายสำคัญๆ หลายร้อยฉบับที่ค้างอยู่ในสภาและบริหารประเทศอย่างสุจริตและตรงไปตรงมาจะดีกว่า”