วานนี้ ( 7 ต.ค.) นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบตรวจสอบจริยธรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นโยบายโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า เบื้องต้นทางฝ่ายกฎหมายของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว พบว่าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้รับเรื่องไว้พิจารณา พร้อมกับทำหนังสือตอบกลับไปให้ผู้ร้องเรียน คือ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์แล้ว รวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังได้ส่งหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการชี้แจงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากรู้สึกเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่ต้องดูแลปัญหาน้ำท่วมที่เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้
** ปชป.จี้อสส.มอบสำนวนคดี"หญิงอ้อ"
นายวิรัตน์ กัลยาสิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะคณะทำงานด้านกฏหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันอาทิตย์ ที่ 9 ต.ค.นี้ คณะทำงานจะหารือกันหลังจากที่ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจไม่ยื่นฏีกาคดี คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยอัยการขอเวลาส่งเอกสารหลังวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งคณะทำงานได้กำหนดกรอบเวลาไว้เป็นวันที่ 11 ต.ค. จึงหวังว่าในต้นสัปดาห์หน้า จะได้รับเอกสารจากอัยการสูงสุดตามที่มีการยื่นเรื่องร้องขอไป แต่ถ่าไม่มีการมอบเอกสารตามที่สัญญาไว้ ก็จะดำเนินการผ่านสื่อและอาจใช้ช่องทางของพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร และยืนยันว่า จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ อีกทั้งยังมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมด้วย
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะทำงานจะมีการพิจารณาประเด็นของน.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง กรณีใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของคณะกรรมการ อสมท. เท่าที่เห็นข้อมูลคิดว่าเป็นเรื่องหนักของรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ที่เข้าข่ายถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี อัยการสูงสุด ไม่ยื่นฎีกาคดี คุณหญิงพจมานเลี่ยงภาษีว่าการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุดครั้งนี้ มีความไม่ปกติ เพราะศาลชั้นต้น กับศาลอุทธรณ์ เห็นต่างกัน แทนที่อัยการสูงสุดจะยื่นฎีกา กลับยุติคดี แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะให้ความคุ้มครองว่า ให้อัยการสูงสุดสามารถใช้ดุลพินิจพิจารณาคดีได้อย่างเป็นอิสระ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถใช้ดุลพินิจโดยไม่ถูกต้องได้ หากคณะทำงานได้พิจารณาหลักฐานครบถ้วนแล้ว และเห็นว่าการใช้ดุลพินิจครั้งนี้มีปัญหา ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. เพื่อยื่นถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการชี้แจงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากรู้สึกเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่ต้องดูแลปัญหาน้ำท่วมที่เป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้
** ปชป.จี้อสส.มอบสำนวนคดี"หญิงอ้อ"
นายวิรัตน์ กัลยาสิริ ส.ส.สงขลา ในฐานะคณะทำงานด้านกฏหมาย พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันอาทิตย์ ที่ 9 ต.ค.นี้ คณะทำงานจะหารือกันหลังจากที่ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจไม่ยื่นฏีกาคดี คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยอัยการขอเวลาส่งเอกสารหลังวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งคณะทำงานได้กำหนดกรอบเวลาไว้เป็นวันที่ 11 ต.ค. จึงหวังว่าในต้นสัปดาห์หน้า จะได้รับเอกสารจากอัยการสูงสุดตามที่มีการยื่นเรื่องร้องขอไป แต่ถ่าไม่มีการมอบเอกสารตามที่สัญญาไว้ ก็จะดำเนินการผ่านสื่อและอาจใช้ช่องทางของพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร และยืนยันว่า จะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ อีกทั้งยังมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมด้วย
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะทำงานจะมีการพิจารณาประเด็นของน.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง กรณีใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต เข้าไปแทรกแซงการบริหารงานของคณะกรรมการ อสมท. เท่าที่เห็นข้อมูลคิดว่าเป็นเรื่องหนักของรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ที่เข้าข่ายถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี อัยการสูงสุด ไม่ยื่นฎีกาคดี คุณหญิงพจมานเลี่ยงภาษีว่าการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุดครั้งนี้ มีความไม่ปกติ เพราะศาลชั้นต้น กับศาลอุทธรณ์ เห็นต่างกัน แทนที่อัยการสูงสุดจะยื่นฎีกา กลับยุติคดี แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะให้ความคุ้มครองว่า ให้อัยการสูงสุดสามารถใช้ดุลพินิจพิจารณาคดีได้อย่างเป็นอิสระ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะสามารถใช้ดุลพินิจโดยไม่ถูกต้องได้ หากคณะทำงานได้พิจารณาหลักฐานครบถ้วนแล้ว และเห็นว่าการใช้ดุลพินิจครั้งนี้มีปัญหา ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. เพื่อยื่นถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ