วานนี้ (18 ต.ค.)ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. โดยได้มีวาระการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ในกรณีการไม่ให้ประกันตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำ และได้ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมชี้แจง
นายโรเบิร์ต กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเกิดรัฐประหาร ในเดือน ก.ย.49 ความหวังของคนไทยได้ถูกทำลายลง การที่ตนต่อสู้ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมืองไทยไม่ใม่ใช่การโจมตีประเทศไทย แต่ตนมาเพื่อรับประกันว่า คนที่ถูกคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องได้รับความยุติธรรม เลือดของผู้บริสุทธิ์ไม่สามารถจางหายไปจาก กทม.ได้จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ เพราะขณะนี้การคุมขังของนักโทษในไทยไม่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งสภาพเรือนจำของไทยเป็นที่น่าอับอาย
“ผมไม่ใช่เป็นแค่ทนายแต่ยังเป็นพยานในเหตุการณ์เมื่อเดือน พ.ค.53 ด้วย และยังเป็นทนายความให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากนี้จะเดินทางไปเยี่ยมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำต่างๆ เพื่อรวบรวมเอกสารของคนที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาถึงการคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมปรับปรุงสภาพเรือนจำในทันที” นายโรเบิร์ต กล่าว
**ซัดคุกไทยไม่ได้มาตรฐานละเมิดสิทธิ์
นายโรเบิร์ต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะติดตามคดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Voice of Taksin ปัจจุบันการเดินทางย้ายเรือนจำของนายสมยศ ในระหว่างไปสอบปากคำ ถูกล่ามโซ่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งถือว่าขัดต่อสิทธิมนุษยชนในสภาพที่มนุษย์ควรจะได้รับ ยืนยันว่าไม่มีใครจ้องโจมตีประเทศไทย แต่ประชาคมโลกรักและเคารพประเทศไทย ไม่มีใครควรถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง แต่เป็นเรื่องราวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคทหาร อยากบอกทุกคนว่าจะทำทุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ถูกถอดถอนออกจากองค์กรเสรีนิยมสากล ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ และจะทำให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่เคารพประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิแอบอ้างประชาธิปไตย ซึ่งการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์สวนทางกับชื่อของพรรค สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน ในเร็วๆนี้ตนก็หวังว่าจะมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายของเหตุการณ์การสลายการชุมนุมใน กทม. เพื่อแสดงภาพถ่ายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เห็น
ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถอนชื่อของตนออกจากการเป็นบุคคลต้องห้ามออกจากประเทศไทย นายโรเบิร์ต กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่เดินทางมาเมืองไทยแล้วไม่มีรูปติดอยู่ที่ ตม. สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่พรรคประชาธิปัตย์ชอบโจมตีคดีที่จะมีการนำตัวผู้กระทำผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดงไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้น แต่เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาคัดค้านเนื่องจากเกรงว่าจะถูกเปิดโปง
**”จรัล ดิษ”นั่งที่ปรึกษากมธ.ต่างประเทศ
ด้าน นายสุนัย กล่าวเสริมว่า เชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเร่งรัดดำเนินการหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ทั้งนี้ได้แต่งตั้งนายจรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นที่ปรึกษา กมธ.ต่างประเทศ เนื่องจากมีความพร้อม และเคยเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ทั้งนี้ปัญหาสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่ลึกกว่าจิตสำนึก นี่คือปัญหาของประเทศไทย ที่บางครั้งนักการเมืองหลายคนพยายามใช้คำว่า ชาติมาปิดกั้นความเป็นมนุษย์ของเรา
โอกาสนี้ นายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข บุตรชายนายสมยศ ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านนายโรเบิร์ต เพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกป้องสิทธิประชาธิปไตยทั่วโลก โดยรายละเอียดระบุถึงขั้นตอนการถูกจับกุมโดยมิชอบ รวมถึงความต้องการในการขอสิทธิ์คุ้มครอง ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสุนัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลจากนายโรเบิร์ต ขั้นตอนหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เพื่อดำเนินการพิจารณาการให้ประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำโดยไม่เป็นธรรมตามขั้นตอนของศาลต่อไป แต่ที่น่าเสียใจที่สุด คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของไทยไม่เคยมาแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้เลย ถือเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าที่สุด
นายโรเบิร์ต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในเร็วๆนี้จะยื่นหนังสือต่อองค์กรเสรีนิยมสากล เพื่อถอดถอนพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาพยายามปิดกั้นการสอบสวนการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงทั้ง 91 ศพ และยังแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ทั้งที่ยังไม่มีการอธิบายเหตุผลของการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด อีกทั้งยังออกคำสั่งกักขังบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม ที่จะตรวจสอบการกระทำของนายอภิสิทธิ์ สิ่งที่กังวลก็คือ จะโดนฟ้องโดยทหาร เพราะทหารมีการเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์
**พาญาตินักข่าวอิตาลีจี้ความคืบหน้าคดี
เวลา 13.30 น. นายคารม พลพรกลาง หรือ พลทะกลาง ทนายความคนเสื้อแดง พร้อมด้วยนายโรเบริต์ อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.ส.อลิซาเบธ โปรแลงกี้ น้องสาวและญาติของนายฟาริโอ โปรแลงกี้ นักข่าวชาวอิตาลีที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิต 13 ศพ
ภายหลังจาก “ดีเอสไอ” ส่งมอบให้ตำรวจนครบาลทำคดีใหม่ตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งการมาครั้งนี้เป็นการสอบถามความคืบหน้าทางคดีและให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยมีล่ามทำหน้าที่แปลภาษาระหว่างมีการสนทนาทั้งสองฝ่ายร่วมกับพนักงานสอบสวน 3 นายซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังแต่อย่างใด และจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าในเรื่องนี้ทันทีที่เสร็จสิ้นการหารือ
นายโรเบิร์ต กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเกิดรัฐประหาร ในเดือน ก.ย.49 ความหวังของคนไทยได้ถูกทำลายลง การที่ตนต่อสู้ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมืองไทยไม่ใม่ใช่การโจมตีประเทศไทย แต่ตนมาเพื่อรับประกันว่า คนที่ถูกคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องได้รับความยุติธรรม เลือดของผู้บริสุทธิ์ไม่สามารถจางหายไปจาก กทม.ได้จนกว่าจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ เพราะขณะนี้การคุมขังของนักโทษในไทยไม่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งสภาพเรือนจำของไทยเป็นที่น่าอับอาย
“ผมไม่ใช่เป็นแค่ทนายแต่ยังเป็นพยานในเหตุการณ์เมื่อเดือน พ.ค.53 ด้วย และยังเป็นทนายความให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากนี้จะเดินทางไปเยี่ยมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำต่างๆ เพื่อรวบรวมเอกสารของคนที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาถึงการคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมปรับปรุงสภาพเรือนจำในทันที” นายโรเบิร์ต กล่าว
**ซัดคุกไทยไม่ได้มาตรฐานละเมิดสิทธิ์
นายโรเบิร์ต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะติดตามคดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Voice of Taksin ปัจจุบันการเดินทางย้ายเรือนจำของนายสมยศ ในระหว่างไปสอบปากคำ ถูกล่ามโซ่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งถือว่าขัดต่อสิทธิมนุษยชนในสภาพที่มนุษย์ควรจะได้รับ ยืนยันว่าไม่มีใครจ้องโจมตีประเทศไทย แต่ประชาคมโลกรักและเคารพประเทศไทย ไม่มีใครควรถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง แต่เป็นเรื่องราวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคทหาร อยากบอกทุกคนว่าจะทำทุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ถูกถอดถอนออกจากองค์กรเสรีนิยมสากล ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ และจะทำให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่เคารพประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิแอบอ้างประชาธิปไตย ซึ่งการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์สวนทางกับชื่อของพรรค สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน ในเร็วๆนี้ตนก็หวังว่าจะมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายของเหตุการณ์การสลายการชุมนุมใน กทม. เพื่อแสดงภาพถ่ายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เห็น
ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถอนชื่อของตนออกจากการเป็นบุคคลต้องห้ามออกจากประเทศไทย นายโรเบิร์ต กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่เดินทางมาเมืองไทยแล้วไม่มีรูปติดอยู่ที่ ตม. สิ่งที่น่าสนใจคือ การที่พรรคประชาธิปัตย์ชอบโจมตีคดีที่จะมีการนำตัวผู้กระทำผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดงไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้น แต่เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาคัดค้านเนื่องจากเกรงว่าจะถูกเปิดโปง
**”จรัล ดิษ”นั่งที่ปรึกษากมธ.ต่างประเทศ
ด้าน นายสุนัย กล่าวเสริมว่า เชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเร่งรัดดำเนินการหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ทั้งนี้ได้แต่งตั้งนายจรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นที่ปรึกษา กมธ.ต่างประเทศ เนื่องจากมีความพร้อม และเคยเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ทั้งนี้ปัญหาสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่เป็นเรื่องที่ลึกกว่าจิตสำนึก นี่คือปัญหาของประเทศไทย ที่บางครั้งนักการเมืองหลายคนพยายามใช้คำว่า ชาติมาปิดกั้นความเป็นมนุษย์ของเรา
โอกาสนี้ นายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข บุตรชายนายสมยศ ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านนายโรเบิร์ต เพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกป้องสิทธิประชาธิปไตยทั่วโลก โดยรายละเอียดระบุถึงขั้นตอนการถูกจับกุมโดยมิชอบ รวมถึงความต้องการในการขอสิทธิ์คุ้มครอง ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสุนัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้รับทราบข้อมูลจากนายโรเบิร์ต ขั้นตอนหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เพื่อดำเนินการพิจารณาการให้ประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำโดยไม่เป็นธรรมตามขั้นตอนของศาลต่อไป แต่ที่น่าเสียใจที่สุด คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของไทยไม่เคยมาแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้เลย ถือเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าที่สุด
นายโรเบิร์ต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในเร็วๆนี้จะยื่นหนังสือต่อองค์กรเสรีนิยมสากล เพื่อถอดถอนพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาพยายามปิดกั้นการสอบสวนการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงทั้ง 91 ศพ และยังแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ทั้งที่ยังไม่มีการอธิบายเหตุผลของการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด อีกทั้งยังออกคำสั่งกักขังบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม ที่จะตรวจสอบการกระทำของนายอภิสิทธิ์ สิ่งที่กังวลก็คือ จะโดนฟ้องโดยทหาร เพราะทหารมีการเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์
**พาญาตินักข่าวอิตาลีจี้ความคืบหน้าคดี
เวลา 13.30 น. นายคารม พลพรกลาง หรือ พลทะกลาง ทนายความคนเสื้อแดง พร้อมด้วยนายโรเบริต์ อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.ส.อลิซาเบธ โปรแลงกี้ น้องสาวและญาติของนายฟาริโอ โปรแลงกี้ นักข่าวชาวอิตาลีที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิต 13 ศพ
ภายหลังจาก “ดีเอสไอ” ส่งมอบให้ตำรวจนครบาลทำคดีใหม่ตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งการมาครั้งนี้เป็นการสอบถามความคืบหน้าทางคดีและให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยมีล่ามทำหน้าที่แปลภาษาระหว่างมีการสนทนาทั้งสองฝ่ายร่วมกับพนักงานสอบสวน 3 นายซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟังแต่อย่างใด และจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าในเรื่องนี้ทันทีที่เสร็จสิ้นการหารือ