00...“ผมไม่ใช่เป็นแค่ทนาย แต่ยังเป็นพยานในเหตุการณ์เมื่อเดือน พ.ค.53 ด้วย และยังเป็นทนายความให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากนี้จะเดินทางไปเยี่ยมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำต่างๆ เพื่อรวบรวมเอกสารของคนที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาถึงการคุมขังโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมปรับปรุงสภาพเรือนจำในทันที นอกจากนี้จะติดตามคดีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Voice of Taksin ปัจจุบันการเดินทางย้ายเรือนจำของนายสมยศ ในระหว่างไปสอบปากคำ ถูกล่ามโซ่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งถือว่าขัดต่อสิทธิมนุษยชนในสภาพที่มนุษย์ควรจะได้รับ ยืนยันว่าไม่มีใครจ้องโจมตีประเทศไทย แต่ประชาคมโลกรักและเคารพประเทศไทย ไม่มีใครควรถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง แต่เป็นเรื่องราวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคทหาร อยากบอกทุกคนว่าจะทำทุกอย่างให้ประชาธิปัตย์ถูกถอดถอนออกจากองค์กรเสรีนิยมสากล ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ และจะทำให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่เคารพประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิแอบอ้างประชาธิปไตย ซึ่งการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์สวนทางกับชื่อของพรรค สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน ในเร็วๆ นี้ก็หวังว่าจะมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายของเหตุการณ์การสลายการชุมนุมใน กทม. เพื่อแสดงภาพถ่ายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เห็น”
นั่นคือคำพูดของ “นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ทนายความส่วนตัวของ “นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร” ที่ใช้เวทีสภาฯ ชี้แจงวาระการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ในกรณีการไม่ให้ประกันตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำ จัดโดย “สุนัย จุลพงศธร” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 17 ต.ค.54
วันนี้หากพูดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังเปิดศึกรอบใหม่ ก็คงไม่ผิด และหากจะพูดว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วม ที่ประชาชนเกือบทุกย่อมหญ้ากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่หยุดที่จะเดินหน้า เดินเกม ช่วยเหลือ “ทักษิณ และ ไพร่เสื้อแดง”
00...การเคลื่อนไหวของทนายทักษิณ ถือเป็นการทำตามคำสั่ง ผู้ว่าจ้างอย่างชัดเจน โดย “ทักษิณ” เคยพูดขอความยุติธรรมให้กับช่างภาพญี่ปุ่นและคนเสื้อแดง ในโอกาสที่ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ณ ประเทศญี่ปุ่น ใจความว่า....
“เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ ในการค้นหาความจริงกรณีช่างภาพญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิต รวมทั้งคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยที่ผู้สั่งการของทุกหน่วยงาน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ”
ปมการเสียชีวิต 13 ศพ จาก 91 ศพ ในช่วงการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 จึงเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพี่ชายผู้เป็นนักโทษหนีคดี ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ครั้งเข้าบริหารประเทศว่า “เข้ามาเพื่อแก้ไข ไม่คิดแก้แค้น”
00...การชันสูตร 13 ศพ เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างโดยเร็ว แบบมีนัยสำคัญ โดยมี “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี เป็นม้าใช้ตัวสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อให้คำสั่งของนายใหญ่เป็นจริง คือ การจับคนสั่งการเข้าคุก!
ภารกิจนี้“จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำ นปช.ได้พูดชัดในการเปิดประเด็นอภิปรายกลางสภาฯ ถึงความอืดอาดไม่ดำเนินการหาคนบงการในคดี 13 ศพ โดยที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” ได้เน้นข้อมูลที่ปรากฏในสำนวนสอบสวนของดีเอสไอ ที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ก่อนสรุปทิ้งท้ายว่า ผู้รับผิดชอบตัวจริง คือ “นายสุเทพ” และ “นายอภิสิทธิ์” ในฐานะผู้สั่งการ!
ดังนั้น...จากนี้ไป เร็วๆ นี้ ผลชันสูตร 13 ศพ จะต้องจบลงและมีผู้รับผิด ภายใต้โจทย์คำสั่งของนายใหญ่ คือ ต้องเอา “อภิสิทธิ์-สุเทพ-ประยุทธ์” ในฐานะผู้สั่งการฆ่าคนเสื้อแดงเข้าคุกให้จงได้!!!
นั่นคือคำพูดของ “นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ทนายความส่วนตัวของ “นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร” ที่ใช้เวทีสภาฯ ชี้แจงวาระการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ในกรณีการไม่ให้ประกันตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำ จัดโดย “สุนัย จุลพงศธร” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 17 ต.ค.54
วันนี้หากพูดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังเปิดศึกรอบใหม่ ก็คงไม่ผิด และหากจะพูดว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วม ที่ประชาชนเกือบทุกย่อมหญ้ากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่หยุดที่จะเดินหน้า เดินเกม ช่วยเหลือ “ทักษิณ และ ไพร่เสื้อแดง”
00...การเคลื่อนไหวของทนายทักษิณ ถือเป็นการทำตามคำสั่ง ผู้ว่าจ้างอย่างชัดเจน โดย “ทักษิณ” เคยพูดขอความยุติธรรมให้กับช่างภาพญี่ปุ่นและคนเสื้อแดง ในโอกาสที่ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ณ ประเทศญี่ปุ่น ใจความว่า....
“เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ ในการค้นหาความจริงกรณีช่างภาพญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิต รวมทั้งคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยที่ผู้สั่งการของทุกหน่วยงาน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ”
ปมการเสียชีวิต 13 ศพ จาก 91 ศพ ในช่วงการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 จึงเป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพี่ชายผู้เป็นนักโทษหนีคดี ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ครั้งเข้าบริหารประเทศว่า “เข้ามาเพื่อแก้ไข ไม่คิดแก้แค้น”
00...การชันสูตร 13 ศพ เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างโดยเร็ว แบบมีนัยสำคัญ โดยมี “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกรัฐมนตรี เป็นม้าใช้ตัวสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อให้คำสั่งของนายใหญ่เป็นจริง คือ การจับคนสั่งการเข้าคุก!
ภารกิจนี้“จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำ นปช.ได้พูดชัดในการเปิดประเด็นอภิปรายกลางสภาฯ ถึงความอืดอาดไม่ดำเนินการหาคนบงการในคดี 13 ศพ โดยที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” ได้เน้นข้อมูลที่ปรากฏในสำนวนสอบสวนของดีเอสไอ ที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ก่อนสรุปทิ้งท้ายว่า ผู้รับผิดชอบตัวจริง คือ “นายสุเทพ” และ “นายอภิสิทธิ์” ในฐานะผู้สั่งการ!
ดังนั้น...จากนี้ไป เร็วๆ นี้ ผลชันสูตร 13 ศพ จะต้องจบลงและมีผู้รับผิด ภายใต้โจทย์คำสั่งของนายใหญ่ คือ ต้องเอา “อภิสิทธิ์-สุเทพ-ประยุทธ์” ในฐานะผู้สั่งการฆ่าคนเสื้อแดงเข้าคุกให้จงได้!!!