นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจบัดบัดกากอุตสหกรรมอย่างครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศไทยกล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 54 ว่า มีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2ปี 54 ที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22.89 ล้านบาท เติบโต 63.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 13.96 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปีบริษัทฯ มีกำไร 43.89 ล้านบาท เติบโต 399.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 8.73 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีเริ่มเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ ประกอบกับภาครัฐโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกมาตรการออกมาสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่กระบวนการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องและเป็นระบบอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาใช้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง
"จากการประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจ คาดว่าในไตรมาสที่ 3 ปี 54 เราจะโตก้าวกระโดดไม่น้อยกว่าไตรมาสที่1และ 2 ที่ผ่านมาที่เราโตได้ในอัตรา 30% เพราะเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจ ที่จะมีการส่งขยะเข้าสู่การบำบัดตามกระบวนการอย่างหนาแน่น ซึ่งในปีนี้อุตสาหกรรมของประเทศได้เติบโตสูงกว่าปีก่อนมาก ทำให้จำนวนกากที่เข้ามาบำบัดมีปริมาณเพิ่มตามไปด้วย ประกอบกับ ในเดือนกันยายน นี้รัฐบาลได้ออกมาตรการลดหย่อนภาษี ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่นำกากอุตสาหกรรมเข้ามาบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้อง และโรงงานทุกโรงต้องมีรายงานบันทึกการทำลายกากอุตสาหกรรม และวิธีกำจัดกากอุตสาหกรรม ถือเป็นมาตรการที่บังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้โรงงานเข้าสู่ระบบมากขึ้น จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมเติบโตไอย่างชัดเจน"
นอกจากนี้ ภายหลังการใช้มาตรการทางภาษีเข้ามากระตุ้นให้โรงงานเข้าสู่กระบวนการบำบัดกากอุตสาหกรรมที่ถูกต้อง คาดว่าจะทำให้ปริมาณลูกค้าของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,000 ราย จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าอยู่ในมือ 2,000 รายเท่านั้น ขณะที่ปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เข้าบำบัดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก30 - 40 % เพราะปัจจุบัน BWG ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การฝังกลบ การเผาด้วยเตาความร้อนสูง การนำมาบำบัดและรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงการต่อยอดเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานทดแทน จึงสามารถรองรับกากอุตสาหกรรมที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดได้อย่างคล่องตัว และเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ใหม่ จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15 % มาเป็น 30 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 717.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาท
"ปีนี้นอกเหนือจากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตเกินกว่าคาดแล้ว เชื่อว่ากำไรสุทธิก็มีโอกาสเติบโตในลักษณะเดียวกัน เพราะเพียงครึ่งปีแรก BWG ก็ทำกำไรได้ถึง 43.89 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปีที่ทำได้ 41.03 ล้านบาทแล้ว" นายสุวัฒน์ กล่าว
"จากการประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจ คาดว่าในไตรมาสที่ 3 ปี 54 เราจะโตก้าวกระโดดไม่น้อยกว่าไตรมาสที่1และ 2 ที่ผ่านมาที่เราโตได้ในอัตรา 30% เพราะเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจ ที่จะมีการส่งขยะเข้าสู่การบำบัดตามกระบวนการอย่างหนาแน่น ซึ่งในปีนี้อุตสาหกรรมของประเทศได้เติบโตสูงกว่าปีก่อนมาก ทำให้จำนวนกากที่เข้ามาบำบัดมีปริมาณเพิ่มตามไปด้วย ประกอบกับ ในเดือนกันยายน นี้รัฐบาลได้ออกมาตรการลดหย่อนภาษี ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่นำกากอุตสาหกรรมเข้ามาบำบัดตามกระบวนการที่ถูกต้อง และโรงงานทุกโรงต้องมีรายงานบันทึกการทำลายกากอุตสาหกรรม และวิธีกำจัดกากอุตสาหกรรม ถือเป็นมาตรการที่บังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้โรงงานเข้าสู่ระบบมากขึ้น จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมเติบโตไอย่างชัดเจน"
นอกจากนี้ ภายหลังการใช้มาตรการทางภาษีเข้ามากระตุ้นให้โรงงานเข้าสู่กระบวนการบำบัดกากอุตสาหกรรมที่ถูกต้อง คาดว่าจะทำให้ปริมาณลูกค้าของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,000 ราย จากปัจจุบันที่บริษัทมีลูกค้าอยู่ในมือ 2,000 รายเท่านั้น ขณะที่ปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เข้าบำบัดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก30 - 40 % เพราะปัจจุบัน BWG ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การฝังกลบ การเผาด้วยเตาความร้อนสูง การนำมาบำบัดและรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงการต่อยอดเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานทดแทน จึงสามารถรองรับกากอุตสาหกรรมที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดได้อย่างคล่องตัว และเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ใหม่ จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15 % มาเป็น 30 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 717.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41.03 ล้านบาท
"ปีนี้นอกเหนือจากรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตเกินกว่าคาดแล้ว เชื่อว่ากำไรสุทธิก็มีโอกาสเติบโตในลักษณะเดียวกัน เพราะเพียงครึ่งปีแรก BWG ก็ทำกำไรได้ถึง 43.89 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วทั้งปีที่ทำได้ 41.03 ล้านบาทแล้ว" นายสุวัฒน์ กล่าว
