ASTVผู้จัดการรายวัน-แกนนำพันธมิตรฯ จัดกิจกรรม “พิธีรำลึก 3 ปี 7 ตุลาฯ 51” ด้าน “ส.ส.ปชป.” จี้ “ปู”ชดเชยให้เสื้อเหลืองเท่าเสื้อแดง วอนรัฐดำเนินการคนทุกกลุ่มเท่าเทียม ในโอกาสครบ 3 ปีเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ทวงถามคนเสื้อเหลืองตายมีโอกาสได้ 10 ล้านบาทเหมือนคนเสื้อแดงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ต.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำหนดจัดงานพิธีรำลึก 3 ปี 7 ตุลาฯ 51 โดยจะเริ่มงาน ตั้งแต่เวลา 06.00-10.30 น.ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช 06.00 น.-07.00 น.พิธีทำบุญตักบาตรใหญ่พระภิกษุสงฆ์วัดป่า จำนวน 85 รูป 07.00 น.-08.30 น. ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีลพระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนต์และสวดชัยมงคลคาถา
08.30 น.-10.30 น. ประชาชนร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ พิธีทอดผ้าบังสุกุลและถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลแด่วีรชน 7 ตุลาฯ 51แกนนำและประชาชนร่วมกันกรวดน้ำและรับจตุรพิธพรชัยจากพระภิกษุสงฆ์ พระภิกษุสงฆ์ สวดชยันโตขณะที่ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่ วีรชนและญาติโยมที่มาทำบุญร่วมกัน เพื่อเป็นสิริมงคลในการอุทิศตนเพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาธิปไตยสืบไป
เวลา 11.00-20.00 น. ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ (เวลา 14.00-20.00 น. เริ่มถ่ายทอดสดทางช่อง News1)โดยจะเริ่มมีการแสดงดนตรีจากศิลปิน เช่น สเกน สิทธิวงศ์ กรรณิกา อารีสมาน วงแฮมเมอร์ วงคีตาญชลี วงซูซูและน้าเศกศิลปินทุกคนร่วมร้องเพลง 7 ตุลาคม ร่วมกับนายศรัณยู วงศ์กระจ่าง
โดยเวลา 12.00แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ และที่เวทีกลาง บ้านเจ้าพระยา จะมีการแสดงของกลุ่มผู้บาดเจ็บ เป็นการโชว์ตัวผู้บาดเจ็บ
จากนั้นเวลา 12.40-13.00 น. แกนนำรุ่น 2 นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพชร จะขึ้นเวทีปราศัย
รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีกิจกรรมเสวนา การดำเนินการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จวบจนปัจจุบัน รวมถึงกองทุนที่ช่วยเหลือดำเนินการอย่างไร ทางชมรมดำเนินการอย่างไรบ้าง มีนายพิภพ ธงไชย แกนนำพธม.รุ่น 1และตัวแทนรมชมผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บ ร่วมเสวนา
จากนั้น แกนนำรุ่น1 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะขึ้นเวทีปราศัย รวมถึงมีการสัมภาษณ์ ทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ เรื่องความคืบหน้าคดีทั้งหมดของ 193 วัน
** จี้ชดเชยให้เสื้อเหลืองเท่าเสื้อแดง
ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ในวันที่7 ต.ค. จะเป็นวาระครบรอบเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ซึ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก จึงขอให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สือทอดมรดกมาจากรัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ ที่เป็นคู่กรณีของกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ที่สำคัญผู้เสียชีวิตจะมีโอกาสได้รับเงินชดเชย 10 ล้านบาทเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะเมื่อรัฐบาลต้องการสร้างความปรองดอง จึงอยากให้ดำเนินการกับทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งในแง่กฎหมายและการเมือง ทั้งนี้ในวันที่ 7 ต.ค. ช่วงเวลาตั้งแต่ 06.00 น. จะมีการจัดงานทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตที่ลานพระบรมรูปทรงม้าด้วย
**ยืนตามศาลชั้นต้นคดีพธม.ฟ้องบัวแก้ว
ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ 1771/2553 เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระหว่าง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ฟ้องคดี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับพวก เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา ปี 2551 และปี 2552 และบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมร่วม (JBC) ที่รัฐบาลไทยขณะนั้นได้จัดทำบันทึกความตกลงโดยอ้างหลักเขตแดนทางบกที่ ฝรั่งเศส จัดทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยที่ประเทศไทยไม่เคยยอมรับ และทำให้ไทยต้องเสียดินแดนให้กับกัมพูชา และผู้ถูกฟ้องคดีได้เห็นชอบบันทึกดังกล่าว และได้เสนอรัฐสภา เพื่อรับรองบันทึกผลการประชุม
ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินงานของผู้ถูกฟ้องคดีตามฟ้อง นั้น เป็นขั้นตอนการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ หาใช่เป็นขั้นตอนการใช้อำนาจทางปกครอง
ความเห็นของศาลปกครองกลาง ยังระบุอีกว่า รัฐสภาต้องพิจารณาตรวจสอบบันทึกความเข้าใจฯ ข้อกำหนดและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกัน ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาที่อ้างในข้อตกลงชั่วคราว ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ทั้ง 3 ฉบับ รวมทั้งเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ศาลปกครองกลาง เห็นว่า กรณีพิพาทของผู้ฟ้องคดี มิใช่ข้อพิพาทตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ. 2542
นายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด พร้อมองคณะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น และมีคำสั่งยกคำร้องผู้ฟ้องคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ต.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำหนดจัดงานพิธีรำลึก 3 ปี 7 ตุลาฯ 51 โดยจะเริ่มงาน ตั้งแต่เวลา 06.00-10.30 น.ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช 06.00 น.-07.00 น.พิธีทำบุญตักบาตรใหญ่พระภิกษุสงฆ์วัดป่า จำนวน 85 รูป 07.00 น.-08.30 น. ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีลพระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนต์และสวดชัยมงคลคาถา
08.30 น.-10.30 น. ประชาชนร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ พิธีทอดผ้าบังสุกุลและถวายสังฆทานอุทิศส่วนกุศลแด่วีรชน 7 ตุลาฯ 51แกนนำและประชาชนร่วมกันกรวดน้ำและรับจตุรพิธพรชัยจากพระภิกษุสงฆ์ พระภิกษุสงฆ์ สวดชยันโตขณะที่ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่ วีรชนและญาติโยมที่มาทำบุญร่วมกัน เพื่อเป็นสิริมงคลในการอุทิศตนเพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาธิปไตยสืบไป
เวลา 11.00-20.00 น. ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ (เวลา 14.00-20.00 น. เริ่มถ่ายทอดสดทางช่อง News1)โดยจะเริ่มมีการแสดงดนตรีจากศิลปิน เช่น สเกน สิทธิวงศ์ กรรณิกา อารีสมาน วงแฮมเมอร์ วงคีตาญชลี วงซูซูและน้าเศกศิลปินทุกคนร่วมร้องเพลง 7 ตุลาคม ร่วมกับนายศรัณยู วงศ์กระจ่าง
โดยเวลา 12.00แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ และที่เวทีกลาง บ้านเจ้าพระยา จะมีการแสดงของกลุ่มผู้บาดเจ็บ เป็นการโชว์ตัวผู้บาดเจ็บ
จากนั้นเวลา 12.40-13.00 น. แกนนำรุ่น 2 นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพชร จะขึ้นเวทีปราศัย
รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีกิจกรรมเสวนา การดำเนินการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จวบจนปัจจุบัน รวมถึงกองทุนที่ช่วยเหลือดำเนินการอย่างไร ทางชมรมดำเนินการอย่างไรบ้าง มีนายพิภพ ธงไชย แกนนำพธม.รุ่น 1และตัวแทนรมชมผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บ ร่วมเสวนา
จากนั้น แกนนำรุ่น1 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จะขึ้นเวทีปราศัย รวมถึงมีการสัมภาษณ์ ทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ เรื่องความคืบหน้าคดีทั้งหมดของ 193 วัน
** จี้ชดเชยให้เสื้อเหลืองเท่าเสื้อแดง
ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ในวันที่7 ต.ค. จะเป็นวาระครบรอบเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ซึ่งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก จึงขอให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สือทอดมรดกมาจากรัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ ที่เป็นคู่กรณีของกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย ที่สำคัญผู้เสียชีวิตจะมีโอกาสได้รับเงินชดเชย 10 ล้านบาทเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงหรือไม่ เพราะเมื่อรัฐบาลต้องการสร้างความปรองดอง จึงอยากให้ดำเนินการกับทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งในแง่กฎหมายและการเมือง ทั้งนี้ในวันที่ 7 ต.ค. ช่วงเวลาตั้งแต่ 06.00 น. จะมีการจัดงานทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตที่ลานพระบรมรูปทรงม้าด้วย
**ยืนตามศาลชั้นต้นคดีพธม.ฟ้องบัวแก้ว
ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ 1771/2553 เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระหว่าง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ผู้ฟ้องคดี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับพวก เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา ปี 2551 และปี 2552 และบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมร่วม (JBC) ที่รัฐบาลไทยขณะนั้นได้จัดทำบันทึกความตกลงโดยอ้างหลักเขตแดนทางบกที่ ฝรั่งเศส จัดทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยที่ประเทศไทยไม่เคยยอมรับ และทำให้ไทยต้องเสียดินแดนให้กับกัมพูชา และผู้ถูกฟ้องคดีได้เห็นชอบบันทึกดังกล่าว และได้เสนอรัฐสภา เพื่อรับรองบันทึกผลการประชุม
ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินงานของผู้ถูกฟ้องคดีตามฟ้อง นั้น เป็นขั้นตอนการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ หาใช่เป็นขั้นตอนการใช้อำนาจทางปกครอง
ความเห็นของศาลปกครองกลาง ยังระบุอีกว่า รัฐสภาต้องพิจารณาตรวจสอบบันทึกความเข้าใจฯ ข้อกำหนดและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกัน ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาที่อ้างในข้อตกลงชั่วคราว ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ทั้ง 3 ฉบับ รวมทั้งเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
ศาลปกครองกลาง เห็นว่า กรณีพิพาทของผู้ฟ้องคดี มิใช่ข้อพิพาทตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ. 2542
นายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด พร้อมองคณะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น และมีคำสั่งยกคำร้องผู้ฟ้องคดี
