xs
xsm
sm
md
lg

ต่างก็มาจากประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2554 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ร้องให้ยึดทรัพย์รวม 3,489,453.46 บาทของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และบริษัท โอแปซิฟิค จำกัด ผู้คัดค้านที่ 1 และ 2 ตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552 มาตรา 3

คดีนี้อัยการสูงสุดร้องว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้รับรายงานว่า ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้ต้องหาในความผิดเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณีซึ่งมีบุคคลอายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณีซึ่งมีบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 คณะกรรมการธุรกรรมตรวจสอบรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของผู้คัดค้านที่ 1 เกี่ยวข้องกับการจำหน่าย ยักย้าย ซ่อนเร้นทรัพย์จากการกระทำผิดดังกล่าว จึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ของผู้คัดค้านที่ 1 ไว้เป็นการชั่วคราว

ต่อมาผู้คัดค้านทั้งสองและนางสาวสุรัชฎา แววศรี ขอให้เพิกถอนคำสั่ง

คดีนี้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องซึ่งผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำให้การว่าไม่ได้ดำเนินธุรกิจที่เป็นธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณี และไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้คัดค้านที่ 1 ถูกกล่าวหาในคีอาญา แต่ศาลอาญาได้พิพากษายกฟ้องแล้ว ดังนั้นทรัพย์สินจึงไม่ใช่ของผู้คัดค้านที่ 1 แต่เป็นของบริษัทผู้คัดค้านที่ 2 ซึ่งได้มาโดยสุจริตทางการค้า

ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องของอัยการผู้ร้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้คืนทรัพย์สินตามคำร้องแก่ผู้คัดค้าน อัยการฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ผู้ร้องระบุว่าจากการสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำผิดมูลฐานได้ความว่า นายชูวิทย์ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด เทอร์เม่ ที่ถือใบอนุญาตสถานบริการ และเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทผู้คัดค้านที่ 2 ที่เปิดสถานบริการอาบอบนวด ฮอนโนลูลู ที่ใช้ใบอนุญาตสถานบริการของห้างหุ้นส่วนจำกัด เทอร์เม่ และนายชูวิทย์ ผู้คัดค้านที่ 1 ยังเป็นกรรมการบริษัทในเครือเดวิส กรุ๊ป ส่วนบริษัทผู้คัดค้านที่ 2 ยังเป็นผู้สั่งซื้อถุงยางอนามัยจากบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะในปี 2554 ได้สั่งซื้อถุงยางเป็นเงินถึง 112,559.95 บาท

และจากรายงานการตรวจสอบสถานบริการในเครือเดวิส กรุ๊ป ก็พบถุงยางอนามัยใช้แล้วจากกองขยะสถานบริการโคปาคาบาน่า, บาบาร่า, เอ็มมานูเอล, ฮอนโนลูลู ยังมีพยานให้การยืนยันว่า มีผู้พาไปทำงานเป็นพนักงานนวดที่สถานบริการอาบอบนวด ฮอนโนลูลู ที่จัดให้พนักงานนวดทุกคนร่วมประเวณีกับลูกค้าที่มาใช้บริการ

ศาลพิจารณาแล้วจึงพิพากษากลับว่า ให้เงินในบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนพระราม 9 และธนาคารกสิกรไทย สาขารัชดาภิเษก ห้วยขวางที่มีเหลืออยู่ 127,725.06 บาท และ 17,128.40 บาท รวมทั้งหุ้นบริษัท เดวิส โคปาบาน่า จำกัด หุ้นบริษัท เดวิส โกลเด้นสตาร์ และหุ้นบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด รวม 33,446 หุ้น มูลค่า 3,344,600 บาท พร้อมด้วยดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน

โชคดีที่คดีนี้อัยการไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกคำร้องสู้จนถึงขั้นฎีกา ต่างกับคดีหลีกเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร กับพวก ที่อัยการสู้อุตส่าห์เห็นตามพยานหลักฐานที่ คตส.ตรวจสอบแล้วเห็นว่าจำเลยมีความผิดจึงสั่งฟ้อง

ศาลชั้นต้นลงโทษคุณหญิงพจมานกับพวกให้จำคุก

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคุณหญิงพจมาน ลงโทษจำคุกนายบรรพจน์ ดามาพงศ์ 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญา อัยการสูงสุดเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ทันที

ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงเลยหมดโอกาสที่จะได้รู้ว่า วิจารณญาณของศาลฎีกาจะแตกต่างไปจากศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์หรือไม่ จะเอาอะไรเป็นบรรทัดฐานก็ไม่รู้

เอาละ ฎีกาคดีนี้ก็ไม่เลว อย่างน้อยก็เป็นที่รู้กันอย่างเป็นทางการ (ตามคำพิพากษา)ว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคยประกอบธุรกิจจัดการ จัดหา ชักพาบุคคลเพื่อให้บุคคลทำการค้าประเวณี โดยที่สื่อมวลชนทั้งหลายต่างก็เรียกเขาว่า เสี่ยอ่าง อันบ่งบอกให้รู้ภูมิหลัง การทำมาหากินของเขาอยู่แล้ว

ขณะนี้เขาคือ หัวหน้าพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้เกี่ยวข้องกับความเสื่อมทรุด หรือการดำรงอยู่และความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ที่เรียกกันว่า ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีคนรัก หวงแหน จะเป็นจะตายให้ได้ ถ้าหากมีการเมืองอย่างอื่นแทรกเข้ามา ถ้าหากเขายังอดทนอยู่กับพรรคการเมืองที่เขาเคยสังกัด ซึ่งมักจะได้ร่วมรัฐบาลอยู่เสมอมาไม่ว่าใคร พรรคใดเป็นรัฐบาล เขาก็อาจจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ หรือช่วยว่าการฯ กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ไม่แน่นักอาจจะเป็นกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทยหรือกระทรวงหนึ่งกระทรวงใดก็ได้

คุณสมบัติเช่นว่านี้ (นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์) ในหลายประเทศไม่อาจจะเผยอหน้าในสังคมได้เลย อย่าว่าแต่จะเสนอหน้ามาให้ประชาชนเลือกเลย เจ้าตัวเองก็ต้องรู้ตัวเองว่า ไม่มีทางที่จะได้รับเลือก

แต่สำหรับประเทศไทยอย่าว่าแต่คนที่เคยประกอบอาชีพอย่างนายชูวิทย์เลย คนที่มันโกงบ้านโกงเมือง คนที่มันโกงวัด คนที่มันคอร์รัปชัน เจ้าของบ่อนเจ้าของซ่องต่างก็มีโอกาส และได้รับโอกาสทั้งนั้น

มิใช่หรือ?
กำลังโหลดความคิดเห็น